มะระหวาน
เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายกันแล้วสำหรับศึกคาราบาว คัพ หรือลีก คัพ เดิม โดยกลางสัปดาห์นี้จะเป็นการฟาดแข้งในรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ก่อนนัดสองจะลงฟาดแข้งกันต่ออีก 2 สัปดาห์
ซึ่งถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ศึกคาราบาว คัพ หรือลีก คัพ เดิม บรรดาทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีก แทบจะไม่มีความสนใจ ส่วนใหญ่จะเป็นเวทีเคาะสนิมของบรรดาแข้งตัวสำรองหรือเป็นเวทีทดสอบฝีเท้าแข้งดาวรุ่ง
แต่ 4-5 ปีหลังสุดถ้วย คาราบาว คัพ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งถ้วยที่บรรดาทีมยักษ์ใหญ่ต้องการคว้าแชมป์มาครองให้ได้เช่นกัน ส่วนหนึ่งก็มาจากถ้วยต่างๆ ในประเทศมีคู่แข่งเยอะมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นทางพรีเมียร์ลีก หรือเอฟเอ คัพ
ทำให้คาราบาว คัพ เป็นทางเลือกที่ทุกทีมต้องการคว้าไปครองเพราะอย่างน้อยมีถ้วยแชมป์ติดมือไปฝากแฟนบอล
ย้อนไป 6 ปีหลังสุดแชมป์คาราบาว คัพ ประกอบด้วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4 ครั้ง (ฤดูกาล 2017-2018, 2018-2019, 2019-2020, 2020-2021), ลิเวอร์พูล 1 ครั้ง (ฤดูกาล 2021-2022) และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 ครั้ง (ฤดูกาล 2022-2023)
นอกจากจะได้แชมป์มาครองแล้ว การคว้าแชมป์คาราบาว คัพ นั้นก็จะได้สิทธิ์ไปลุยฟุตบอลยุโรปในรายการของยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก อีกด้วย จึงไม่น่าจะแปลกใจที่ทำให้บรรดาทีมต่างๆ หันมาสนใจที่จะส่งผู้เล่นลงทำการแข่งขันรายการนี้
ก็ต้องถือว่าเป็นโชคดีของทาง “คาราบาว” ที่เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ในยุคนี้ (เริ่มตั้งแต่ปี 2017) เพราะมีบรรดาซุปเปอร์สตาร์ลงทำการแข่งขันอย่างคึกคักทำให้ชื่อของ “คาราบาว” กลายเป็นชื่อที่ติดหูติดตาของแฟนบอลทั้งในไทยและต่างชาติ
จนทำให้ล่าสุด “คาราบาว” ได้ตัดสินใจต่อสัญญาเป็นสปอนเซอร์ในฟุตบอลถ้วยลีก คัพ ในชื่อของ “คาราบาว คัพ” ออกไปอีก 3 ปีด้วยกันในฤดูกาล 2024-2025, 2025-2026 และ 2026-2027 หากนับดูแล้วทำให้ “คาราบาว” เข้ามาสนับสนุนถ้วยใบนี้รวม 10 ปีด้วยกัน
สำหรับ 4 ทีมที่ฝ่าฟันเข้ามารอบตัดเชือกนี้ได้ก็มี 3 ทีมจากพรีเมียร์ลีกอย่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล, “สิงห์บลู” เชลซี และ “เจ้าสัว” ฟูแลม ผ่านเข้ารอบมา ส่วนอีกทีมก็เป็น “สิงห์แดง” มิดเดิลสโบรช์ ตัวแทนจากเดอะ แชมเปียนชิป
ซึ่งผลการประกบคู่ในรอบตัดเชือก มิดเดิลสโบรช์พบกับเชลซี ส่วนอีกคู่ลิเวอร์พูล ดวลกับฟูแลม หลังจากมองจากผลการประกบคู่แล้วรอบชิงชนะเลิศมีโอกาสสูงที่จะเป็นเกมซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ที่หลายคนอยากดูเกิดขึ้น
ย้อนกลับไปดูผลงานเก่าๆ ของทั้ง 4 ทีมมี 3 ทีมที่เคยเป็นแชมป์รายการนี้มาก่อน โดย “หงส์แดง” ครองแชมป์รายการนี้มากที่สุดจำนวน 9 ครั้ง ด้าน เชลซี เคยเป็นแชมป์รายการนี้ 5 ครั้ง ส่วนมิดเดิลสโบรช์ก็คว้าแชมป์มา 1 ครั้ง ในฤดูกาล 2003-2004 มีเพียงแค่ฟูแลมเท่านั้นที่ยังไม่เคยทะลุผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ
หลังจากผลการจับสลากออกมาทางบริษัทพนันถูกกฎหมายของอังกฤษได้ยกให้ ลิเวอร์พูล เป็นเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์รายการนี้มาครอง ส่วนเต็ง 2 เป็นทางเชลซี ส่วนฟูแลมเป็นเต็ง 3 และ อันดับสุดท้ายเป็นมิดเดิลสโบรช์ ที่ถูกยกเป็นเต็งบ๊วยที่จะคว้าแชมป์ไปครอง
โดยเกมรอบรองชนะเลิศแฟนบอลชาวไทยสามารถติดตามได้ที่ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 จะถ่ายทอดสดให้ชมทั้งสองคู่ เริ่มต้นที่คู่แรกวันอังคารที่ 9 ม.ค. มิดเดิลสโบรช์พบเชลซี เวลา 03.00 น. และคู่สองวันพุธที่ 10 ม.ค. ลิเวอร์พูลพบฟูแลม เวลา 03.00 น.
แถมรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 25 ก.พ.67 ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ก็ถ่ายทอดสดเช่นกัน บอกได้ว่าเกมลูกหนังมันส์ๆ แบบนี้คอบอลชาวไทยห้ามพลาด!
มะระหวาน
คลิกอ่านคอลัมน์ “ตะลุยฟุตบอลโลก” เพิ่มเติม