ไทยรัฐออนไลน์
สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ฯ, ช้าง อารีน่า จ.บุรีรัมย์ และติณสูลานนท์ จ.สงขลา คือ 3 ทางเลือกใช้จัด ยู-17 เอเชีย แทน ราชมังฯ หลัง แบล็กพิงก์ จัดคอนเสิร์ตก่อน 2 วีก
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ความเคลื่อนไหว ศึก ยู-17 ชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน - 2 กรกฎาคมนี้ โดยจะใช้ 4 สนาม ในการเป็นเจ้าภาพ สำหรับ 4 กลุ่ม ได้แก่ ราชมังคลากีฬาสถาน, ธรรมศาสตร์ รังสิต, บีจี สเตเดียม และชลบุรี ยูทีเอ สเตเดียม
ส่อมี 1 สนามที่ต้องเปลี่ยนแปลงคือ ราชมังคลากีฬาสถาน ที่ก่อนหน้านั้น 2 สัปดาห์ (27-28 พฤษภาคม) จะถูกใช้จัดคอนเสิร์ต แบล็กพิงก์ ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ประดับโลกจากประเทศเกาหลีใต้
ตามกฎของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือเอเอฟซี ระบุว่า ต้องไม่มีการใช้สนามแข่งขันก่อนจะทัวร์นาเมนต์อย่างน้อย 3 สัปดาห์ นั่นหมายความว่ามีโอกาสสูงที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จำเป็นจะต้องหาสนามใหม่เพื่อมาแข่งขันแทน
ล่าสุดแหล่งข่าวในสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เปิดเผยกับ ไทยรัฐสปอร์ต ถึง 3 ทางเลือกในการใช้จัดแข่งขันแทนว่า จะมีสนามกีฬาสมโภชน์เชียงใหม่ 700 ปี ที่เพิ่งผ่านจัดแข่งขัน ศึกคิงส์คัพ 2022 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา, ช้าง อารีน่า จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเคยจัดการแข่งขัน เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม, ฟุตบอลอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ และศึกยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 และสนามติณสูลานนท์ จ.สงขลา ซึ่งเคยจัดแข่งขัน ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 มาแล้ว โดยทั้งหมดผ่านการรับรองมาตรฐานจากเอเอฟซี ทั้งในแง่สนามแข่ง, สนามซ้อม และที่พัก
สำหรับ 16 ทีมเข้าชิงชัยรายการนี้ ได้แก่ คือ ไทย (เจ้าภาพ), ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, กาตาร์, ซาอุดิอาระเบีย, เยเมน, เวียดนาม, ออสเตรเลีย, ทาจิกิสถาน, อิหร่าน, อุซเบกิสถาน, เกาหลีใต้, จีน, อัฟกานิสถาน, อินเดีย และ สปป. ลาว
โดย 4 ทีมที่เข้ารอบรองชนะเลิศ จะสิทธิ์ฟาดแข้งฟุตบอลเยาวชนโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี 2023 ระหว่างวันที่ 10 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม ที่ประเทศเปรูต่อไป