“ยูโรปา ลีก” ร้อนระอุ

ถ้าพูดถึงเกมฟุตบอลสโมสรยุโรปบรรดาทีมต่างๆก็อยากจะลงเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งเป็นถ้วยใบใหญ่มากที่สุด เพราะเป็นเกมการแข่งขันที่มีมูลค่าสูงมากๆ แค่ได้เข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม หรือ 32 ทีมสุดท้ายก็รับทรัพย์อื้อซ่า

ยิ่งได้เข้าไปเล่นรอบลึกๆ หรือบางทีมก้าวถึงแชมป์ก็มีรายได้มหาศาลเลยทีเดียว ดูได้จาก เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่จากแดนกระทิงดุ ผู้ที่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก มาครองในซีซันที่แล้วได้รับเงินรางวัลสะสมตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์สูงถึง 82.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2,795ล้านบาท)

ทำให้ใครๆก็ดิ้นรนที่จะทำผลงานที่ยอดเยี่ยมเพื่อคว้าโควตาไปลุยถ้วยหูใหญ่ให้ได้

ส่วนถ้วยใบรองอย่างยูโรปา ลีก หรือยูฟ่า คัพ เดิมนั้นส่วนใหญ่จะเป็นทีมอันดับ 5 ในลีกหรือแชมป์บอลถ้วยที่ได้โควตาดังกล่าว แม้ว่ารายได้จะไม่เท่ากับถ้วย ชปล. แต่หลายทีมก็ต้องการไปเล่นอย่างน้อยๆก็มีรายได้สู่สโมสร

ก่อนหน้านี้การลงเล่นในชื่อยูฟ่า คัพ บรรดาทีมดังจากลีกหลักๆ ที่ได้ลงเล่นส่วนใหญ่ก็ใช้ผู้เล่นชุดสำรองลงวาดลวดลาย เพราะการได้แชมป์มาครองก็ไม่มีอะไร ปีต่อไปก็ได้ป้องกันแชมป์ ทำให้ถ้วยใบนี้มันเลยไม่ค่อยสนุกเท่าไร

แต่พอหลังจากสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ “ยูฟ่า” ปรับมาใช้ชื่อยูโรปา ลีก และปรับให้แชมป์ยูโรปา ลีก ได้ตั๋วไปเล่นในศึกแชมเปียนส์ ลีกในฤดูกาลต่อไปทันที

นับตั้งแต่นั้นมาศึกยูโรปา ลีก ก็มีความสนุกและเข้มข้นมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า เพราะอย่างน้อยมันก็เป็นทางลัดที่จะก้าวขึ้นไปเล่นในศึก ชปล.ได้

ทำให้หลายทีมต่างจัดชุดใหญ่จัดเต็มฟาดฟันเพื่อจะคว้าแชมป์ยูโรปา ลีก ให้จงได้

มาในปีนี้ยูโรปาเข้มข้นขึ้นตั้งแต่เปิดฤดูกาล เพราะมี 2 ทีมดังจากเกาะอังกฤษมาร่วมโม่แข้งได้แก่ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซนอล และ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เช่นเดียวกับลีกอื่นๆก็มีทีมดังมากมายมาเล่นในรายการนี้ ไม่ว่าจะเป็นลาซิโอ, โรมา 2 ทีมดังจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี,เรอัล เบติส, เรอัล โซเซียดัด 2 ทีมจากสเปน, โมนาโก ทีมแกร่งจากฝรั่งเศส หรืออูนิโอน เบอร์ลิน จ่าฝูงบุนเดสลีกา เยอรมัน

ทำให้ยูโรปา ลีก ในซีซันนี้เป็นที่จับตามองมากเป็นพิเศษ

หลังจากผ่านไปจนกำลังจะถึงนัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มในกลางสัปดาห์นี้ ยูโรปา ลีกก็กลายเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง เพราะในรอบต่อไปหรือรอบเพลย์ออฟนั้นจะมี 8 ทีมที่คว้าอันดับ 3จากศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก หล่นลงมาร่วมวง

ถ้าก่อนหน้านี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาเพราะทีมที่หล่นมาส่วนใหญ่ก็จะเป็นทีมจากลีกรองๆแทบจะทั้งนั้น นานๆทีจะมีทีมลุ้นแชมป์ร่วงมาบ้าง

แต่ในซีซันนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้นมีบรรดาตัวเต็งที่ผิดฟอร์มใน ชปล.หล่นลงมาเล่นในยูโรปา ลีก กันมากมายไม่ว่าจะเป็น “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา และเซบีญา 2 ทีมดังจากลา ลีกา สเปน ที่กอดคอกันร่วงมาเล่นในถ้วยใบนี้

นอกจาก 2 ทีมที่กล่าวไปแล้วก็ยังมีทีมดังๆ อีกหลายทีมที่มีโอกาสจะร่วงมาเล่นในยูโรปาลีก ไม่ว่าจะเป็น “ตราหมี” แอต.มาดริด, “ปิศาจแดงดำ” เอซี มิลาน, “ม้าลาย” ยูเวนตุส หรือแม้กระทั่ง“ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ที่นำเป็นจ่าฝูงหากนัดสุดท้ายพ่ายแพ้ก็มีโอกาสพลิกมาเล่นในรายการนี้ด้วยเช่นกัน

แค่เห็นรายชื่อแล้ว ยูโรปา ลีก ปีนี้ก็มันส์ไม่แพ้ถ้วยแชมเปียนส์ ลีก แน่นอน

ขณะเดียวกันนัดสุดท้ายของยูโรปา ลีก ทีมที่กำลังลุ้นแชมป์กลุ่มอยู่ก็น่าจะใส่กันยับแน่ เพราะไม่มีใครต้องการรองแชมป์กลุ่ม เพราะต้องไปเจอกับทีมที่มาจาก ชปล.ในรอบเพลย์ออฟ

ส่วนพวกที่นอนมาเป็นเต็งแชมป์อย่างอาร์เซนอลกับแมนฯ ยูไนเต็ด นั้นก็แอบเซ็งเพราะบรรดาทีมที่ร่วงลงมาทำให้การลุ้นแชมป์งานยากขึ้นเยอะ

แต่ที่แน่ๆเป็นกำไรของแฟนบอลที่จะได้ดูบอลระดับ 5 ดาวทั้งถ้วยเล็กถ้วยใหญ่กันเลยทีเดียว!!

มะระหวาน