ไทยรัฐออนไลน์
ฟีฟ่า หารือกับผู้คุมกติกาฟุตบอลทั่วโลก เสนอให้ปรับจาก "การทุ่ม" มาเป็น "คิกอิน" เหมือนฟุตซอล พร้อมเผยข้อดีของไอเดียนี้
วันที่ 14 มิถุนายน 2565 คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลระหว่างประเทศ (International Football Association Board หรือ IFAB) พร้อมด้วย สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เข้าร่วมการประชุมสามัญประจำปี ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (13 มิถุนายน 2565) เพื่อหารือเรื่องการลงมติบังคับใช้กฎกติกาฟุตบอลให้ครอบคลุมทั่วโลก ว่าด้วยการเพิ่มโควตาเปลี่ยนตัวสำรอง จากเดิมนัดละ 3 คน ให้เป็นนัดละ 5 คน ซึ่งเรื่องนี้ได้ผ่านการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้มีการอภิปรายในหัวข้อสำคัญเพิ่มเติม นั่นคือ การเสนอให้ปรับกติกาฟุตบอลจาก "การทุ่มบอล" ทุกครั้งที่ลูกฟุตบอลออกข้างสนาม มาเป็นการ "คิกอิน" ซึ่งใช้เท้าเตะแทนการใช้มือทุ่มลูก โดยมีการจำกัดเวลา 5 วินาทีในแต่ละครั้ง ซึ่งเป็นกติกาที่คล้ายกับฟุตซอลที่สปีดของเกมเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่กติกานี้ยังไม่มีการบังคับใช้ ณ ตอนนี้ และยังไม่มีแผนการทดลองใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งต้องรอมติเห็นชอบให้เริ่มมีการทดลอง ก่อนสรุปว่าจะนำมาใช้จริงหรือไม่
ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตผู้จัดการทีมอาร์เซนอล ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนาของ ฟีฟ่า ได้เผยถึงข้อดีของการ "คิกอิน" แทน "การทุ่ม" ว่า "เป้าหมายคือการทำให้เกมฟุตบอลดูน่าตื่นเต้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น และบางทีด้วยการทุ่มบอล คุณสามารถเล่นด้วยเท้าของคุณได้ ตัวอย่างเช่น การคิกอินภายในเวลาที่จำกัดเพียง 5 วินาที ซึ่งจะช่วยลดปัญหาเรื่องถ่วงเวลา แต่มันต้องได้รับการทดสอบแล้วก็ต้องได้รับการยอมรับจาก ไอเอฟเอบี ก่อน"
ส่วน จานนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่า ก็ได้กล่าวเสริมถึงการหารือเพื่อปรับกติกาฟุตบอลในครั้งนี้ว่า "ในขณะที่เราอาจจะสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับกติกาใหม่ๆ เหล่านี้ แต่ถ้ามีข้อเสนอเพื่อช่วยยกระดับของเกมการแข่งขัน เราจะไม่มีทางรู้ได้เลยก่อนที่เราจะพิจารณา ดังนั้นเราจะพิจารณาข้อเสนอเหล่านี้ด้วย"
สำหรับ "การทุ่ม" ได้มีการบรรจุในกติกาฟุตบอลมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1860 โดย สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ได้ยกเลิกแนวคิดที่จะนำ "การคิกอิน" มาใช้ในปี 1863 อย่างไรก็ตาม เวนเกอร์ ได้กล่าวเอาไว้เมื่อปีที่แล้วว่า "การทุ่ม" และ "ฟรีคิก" ต่างๆ ในฟุตบอลปัจจุบันนี้ คือ 2 จุดสำคัญที่หลายทีมมักจะอาศัยช่องโหว่ เพื่อนำมาใช้เป็นแท็กติกในการถ่วงเวลา.