ไทยรัฐออนไลน์
ดาวเตะชาวยูเครนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาประณามอดีตเพื่อนร่วมทีมใน “เอฟซี อูฟา” ที่เพิกเฉยต่อสงครามรัสเซีย-ยูเครน
วันที่ 16 เม.ย. 65 ความเคลื่อนไหวหลังจากที่ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย สั่งถอนกำลังทหารออกจากกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ทำให้พบศพพลเรือนกว่า 900 คน และอีก 350 คน รอบเมืองหลวง โดยองค์การสหประชาชาติประเมินว่าชาวยูเครนกว่า 5 ล้านคนต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัยทางสงคราม
ล่าสุด โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก แบ็กซ้ายทีมชาติยูเครน และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาแสดงความไม่พอใจ อดีตเพื่อนร่วมทีม เอฟซี อูฟา สโมสรฟุตบอลในรัสเซีย ที่เขาเคยค้าแข้งอยู่ครึ่งฤดูกาล ก่อนจะเซ็นสัญญากับ แมนฯ ซิตี้ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 เขาเผยว่า รู้สึกผิดหวังกับเพื่อนๆ ที่นั่น เพราะไม่มีใครเลยที่ออกมาประณามปูติน หลังจากที่เขาประกาศสงครามกับยูเครน
สตาร์ชาวยูเครน เผยว่า “ผมมีเพื่อนอยู่ที่นั่น แต่ตอนนี้มันลดน้อยลงจนแทบไม่เหลือสักคน ผมผิดหวังมาก คนที่ผมรู้จักโทรหาผมทันทีที่เกิดการบุกรุก โดยส่งข้อความมาว่า “ผมขอโทษ อเล็กซ์ แต่เราทำอะไรไม่ได้”
“แน่นอนคุณทำได้ แต่คุณเลือกที่จะเงียบ นั่นหมายความว่าคุณสนับสนุนสิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครนในขณะนี้ และไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงต้องเงียบ บางทีพวกเขาอาจกลัวเพราะเห็นรูปถ่ายบนโซเชียลมีเดียของชาวรัสเซียที่ถูกนำตัวเข้าคุกหากพวกเขาประท้วง”
“มันเป็นฝันร้าย คนทั้งโลกตกใจกับสิ่งที่ปูตินทำ มันน่ากลัว น่ากลัวมาก พวกเขาฆ่าเด็กและชาวบ้าน พวกเขาข่มขืนผู้หญิงและเด็กผู้หญิงของเรา พวกเขาฆ่าสุนัขของเราและกินพวกมันด้วย ผมไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบายความรู้สึกที่มีต่อพวกเขาได้เลย”
“ผมเกลียดพวกเขามากสำหรับทุกอย่างที่พวกเขาทำกับชาวยูเครนและประเทศยูเครน ผมเกลียดคนในรัสเซียที่พยายามโน้มน้าวผู้อื่นว่านี่เป็นเพียงการจัดฉาก พวกเขาจะพูดแบบนี้ได้อย่างไร ศพพลเรือนที่เสียชีวิตของเรานอนอยู่บนพื้นเป็นเวลาสองสัปดาห์ พวกเขาต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้”
สุดท้ายเขายอมรับว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะมีสมาธิกับเรื่องฟุตบอล ซึ่ง “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ มีโปรแกรมดวลเดือดกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในศึกเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ.