แข่งกันแค่ในสนาม "ลิเวอร์พูล" ผนึก "แมนฯ ซิตี้" กดดันย้ายวิก เอฟเอ คัพ รอบรองฯ

นายกเทศมนตรีทั้ง 2 เมือง ร่วมกดดันให้ ลิเวอร์พูล-แมนฯ ซิตี้ ย้ายสังเวียนเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือก หลังพบปัญหาที่กระทบคนส่วนใหญ่

วันที่ 23 มี.ค. 65 แอนดี เบิร์นแฮม นายกเทศมนตรีเกรทเตอร์ แมนเชสเตอร์ และ สตีฟ ร็อธเธอรัม นายกเทศมนตรีเมืองลิเวอร์พูล ร่วมกันออกจดหมายถึง สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) เพื่อเรียกร้องให้พิจารณาเรื่องการย้ายสนามแข่งขัน เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล 2 ทีมแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ถูกจับสลากให้มาพบกันในวันที่ 16 หรือ 17 เมษายนนี้

สาเหตุเนื่องจากวันที่ 15-18 เมษายน จะไม่มีรถไฟวิ่งระหว่างเมืองแมนเชสเตอร์และเมืองลิเวอร์พูลกับกรุงลอนดอน เนื่องจากมีงานก่อสร้างทางวิศวกรรมในช่วงนั้น กลายเป็นปัญหาสำหรับแฟนบอลทั้ง 2 ทีมที่จะเดินทางข้ามเมืองมาเชียร์ทีมรักในเกมสำคัญที่มีผลต่อการลุ้นแชมป์ ซึ่งอาจต้องขับรถไปเอง, นั่งเครื่องบิน, ต่อรถโดยสารหลายเที่ยว รวมถึงจองที่พักค้างคืนด้วย ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายของแฟนบอล และเพิ่มมลภาวะทางสิ่งแวดล้อมด้วย

นอกจากนี้ หากมีการเดินทางบนถนนมากขึ้น ก็มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อันเนื่องมาจากการจราจรที่จะมีปริมาณหนาแน่นมากขึ้นบนเส้นทางที่จะมุ่งหน้าสู่สนามเวมบลีย์ ซึ่งเกมเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ระหว่าง แมนฯ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ในช่วงนั้นตรงกับวันหยุดธนาคารที่ปกติจะมีผู้ใช้รถใช้ถนนจำนวนมากอยู่แล้ว

พ่อเมืองทั้ง 2 เมืองได้ย้ำเตือนในช่วงท้ายของจดหมายถึง เอฟเอ ว่า "ตลอดปีที่ผ่านมา เราได้ยินสโลแกนว่า 'ฟุตบอลจะไม่มีความหมายถ้าไม่มีแฟนบอล' มาหลายครั้งแล้ว หากยังไม่เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจแล้วแฟนบอลเลือกที่จะไม่มาชมเกมนี้ หรือไม่สามารถเข้าร่วมได้ด้วยเหตุผลอื่น คำพูดนั้นก็จะไร้ความหมายสำหรับใครหลายคน เราเชื่อว่าทางออกที่ชัดเจนที่สุด คือการย้ายเกมไปยังสนามอื่นที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และพร้อมเสนอตัวที่จะทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์เพื่อให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น".