ไทยรัฐออนไลน์
"ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช" ประธานสโมสร "ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด" ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่าจะเร่งดำเนินการปรับปรุงรังเหย้าเสร็จทันลุย "ACL 2022" ได้อย่างแน่นอน
วันที่ 10 มี.ค. 65 "ประธานฮาย" ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช ประธานสโมสร "กว่างโซ้งมหาภัย" ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมดังในศึก ไฮลักซ์ รีไว่ ไทยลีก ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่าจะเร่งดำเนินการปรับปรุงรังเหย้าเสร็จทันลุย เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2022 ได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ "ประธานฮาย" ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช ออกมากล่าวว่า "เชียงราย ยูไนเต็ด ในยุคของฮายถือว่าเพิ่งเริ่มต้นค่ะ ฮายเป็นคนเชียงราย และเป็นประธานสโมสรเชียงราย ยูไนเต็ด ฮายผูกพันกับสโมสรแห่งนี้มาตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้งด้วยสถานะน้องสาวของพี่ฮั่น ผู้ซึ่งริเริ่มก่อตั้งสโมสร มาตั้งแต่ปลายปี 2008 ตั้งแต่ตอนนั้นฮายอายุย่าง 17 ปี"
"10 ปีผ่านไป ฮายในวัย 27 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นประธานสโมสร ปีแรก ที่เราได้แชมป์ลีกสูงสุดของไทย หลายคนอาจคิดว่า เป็นเพราะโชคชะตาล้วนๆ จนกระทั่งสองปีหลังนี้ เราได้เข้าสู่ยุคโควิดระบาดเต็มรูปแบบ ทำให้เรารู้ซึ้งว่า ที่เราสามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างทุกวันนี้ (ผลงานก็ส่วนหนึ่ง แต่ฮายต้องการสื่อถึงความยั่งยืนของสโมสร) นั่นเป็นเพราะความรัก ความทุ่มเท และฝีมือของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสโมสรแห่งนี้จริงๆ พูดถึงเรื่องเป้าหมาย"
"ด้วยความเป็นคนเชียงราย ฮายและพี่ฮั่นไม่เคยคิดทิ้งสโมสรแห่งนี้ หรือไม่เคยคิดแค่มาทำเล่นๆ เราสองคนทำทุกงานอย่างจริงจัง และลงแรงกายแรงใจกับฟุตบอล ฮายมองว่า ยิ่งในแต่ละจังหวัดมี ทีมฟุตบอลมากเท่าไร ยิ่งเพิ่มโอกาสให้กับบุคลากรได้มากขึ้น และช่วยให้ฟุตบอลไทยเราพัฒนาขึ้น"
"นอกจากเชียงรายยูไนเต็ด ก็มีเชียงราย ซิตี้ และฮายอยากให้มีสโมสรเชียงราย… อื่นๆ เกิดขึ้นอีก แน่นอนว่ารวมถึงจังหวัดอื่นๆ ด้วยค่ะ ส่วนตัวฮายคิดว่า รากฐานที่สำคัญที่สุด คือ เยาวชน ดังนั้น ฮายตั้งใจจะทำอะคาเดมีให้ดีที่สุด ฮาย และ พี่ฮั่น มีช่วงเวลาการทำงานที่มีพลัง และเชื่อว่ายังมีแรงและเวลาอีกยาวนานพอที่จะสร้างสิ่งนี้ให้ดีได้ เพื่อเป็นกำลังหลักของสโมสร และทีมชาติไทยต่อไป รวมถึงการเข้าร่วม เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ในทุกๆ ปี เราพยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ซึ่งเราทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เป้าหมายคือ เพื่อผ่านเข้ารอบลึกต่อไป ในอนาคตอันใกล้ที่สุด"
"ขณะนี้ ฮายขอเรียนแจ้งว่า เราไม่ได้ต้องไฟต์เพื่อเป็นเจ้าภาพกลุ่มเจ เพราะเราได้เป็นเจ้าภาพกลุ่มแน่นอนค่ะ ขึ้นอยู่กับว่า จะเป็นที่สนามเชียงรายหรือสนามอื่นในไทย ซึ่งเราจะได้งบประมาณเท่ากันค่ะ ไม่ว่าจัดที่สนามใด ฮายกำลังไฟต์เพื่อให้สามารถจัดที่สนามของเราได้ โดยกำลังอยู่ในขั้นตอนยืนยันไปว่า เราสามารถเพิ่มไฟและห้องแต่งตัวรวมถึงสนามซ้อมทันแน่ๆ เพราะได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว จากนี้อีก 1 เดือน เรามั่นใจว่าทำทัน ส่วนเรื่องมาตรฐานอื่นๆ ไม่ติดปัญหา ไม่ว่าจะเป็นสนามบินหรือโรงแรมหรือด้านอื่นๆ ที่เหลือ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ เอเอฟซี พิจารณาค่ะ"
"ส่วนตัวฮายอยากให้เชียงราย ซึ่งไม่ใช่เมืองหลวง ไม่ใช่เมืองใหญ่ เมื่อเทียบกับเมืองอื่นในทวีป ได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพเช่นกัน เพราะนี่คือแรงบันดาลใจชั้นดี ทำให้คนในพื้นที่ตื่นตัวกับฟุตบอลยิ่งขึ้น และทำให้เมืองฟุตบอลอื่นๆ ได้มีความหวังว่า เมืองของเราก็มีโอกาสทำได้นะ จากประสบการณ์ที่เดินทางรอนแรม ไปแข่งสนามกลาง คือ ที่กาตาร์ และที่ อุซเบกิสถาน มาแล้ว 2 ฤดูกาลติดๆ สมัยที่เราไป กลับมายังคงต้องกักตัว 14 วัน (แต่ปัจจุบันมี Test & Go รอตรวจ PCR แค่วันแรก)"
"ดังนั้น การได้แข่งในประเทศไทย ที่บ้านของเรา เป็นสิ่งแรกที่ฮายนึกถึงหลังจากกลับมาจากอุซเบฯ และเมื่อได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ ฮายรู้สึกอบอุ่นใจ และมีพลังจริงๆ ค่ะ เรามาสู้ศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2022 ไปด้วยกันกับเชียงราย ยูไนเต็ดนะคะ".