หน้าแรกแกลเลอรี่

แมนยูฯ กินบุญเก่า บุกพ่าย โรมา 2-3 แต่สกอร์รวมเข้าชิงยูโรปาลีก

ไทยรัฐออนไลน์

7 พ.ค. 2564 03:55 น.

"ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาแพ้ โรมา 2-3 แต่รวมผล 2 นัด แมนยูฯ ชนะ 8-5 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูโรปาลีก ได้สำเร็จ

การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2020-21 รอบรองชนะเลิศ นัดสอง เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 6 พ.ค. 64 คู่ที่น่าสนใจ "หมาป่าเหลืองแดง" โรมา จากอิตาลี เปิดสนามสตาดิโอ โอลิมปิโกรับการมาเยือนของ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากอังกฤษ โดยนัดแรก แมนยูฯ เปิดบ้านชนะไปได้ก่อน 6-2

เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 4 โรมา เกือบขึ้นนำ จากจังหวะที่ จิอันลูกา มันซินี ได้ยิงจ่อๆ หน้าประตูแต่ ดาบิด เดเคอา เซฟได้อย่างสุดยอด และในนาทีเดียวกัน โรมา ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะขึ้นโหม่งที่เสาสองของ เฮนริกห์ มคิตาร์ยาน แต่บอลเข้าข้างตาข่าย

นาทีที่ 7 โอกาสของโรมา เมื่อ ลอเรนโซ เปลเลกรินี ซัดด้วยซ้ายจากนอกกรอบ บอลหลุดเสาสอง จากนั้นนาทีที่ 14 เปโดร โรดริเกซ แย่งบอลจาก พอล ป็อกบา ได้ตรงหน้าเขตโทษ ก่อนยิงข้ามคานออกไป

นาทีที่ 20 แมนยูฯ น่าขึ้นนำสุดๆ จากจังหวะที่ เอดินสัน คาวานี กระดกบอลข้ามศีรษะ อันโตนิโอ มิรันเต นายด่านของโรมาไปแล้ว แต่บอลชนคานบนออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

ถัดมา 6 นาที แมนยูฯ เกือบได้อีกแล้ว คราวนี้เป็น บรูโน เฟอร์นันเดส จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ เอดินสัน คาวานี ตะบันด้วยขวาเน้นๆ แต่ อันโตนิโอ มิรันเต ปัดออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ

นาทีที่ 31 โรมาได้ลุ้น เปโดร โรดริเกซ เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษให้ เฮนริกห์ มคิตาร์ยาน พุ่งโหม่งหลุดเสาสองออกไป แต่ถ้าเข้าก็ไม่ได้ประตูเพราะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว โรมาลุยต่อ นาทีที่ 33 เฮนริกห์ มคิตาร์ยาน ซัดด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ ดาบิด เดเคอา เซฟออกไปได้

นาทีที่ 35 โรมา ได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษ ลอเรนโซ เปลเลกรินี เปิดบอลเข้าไปหน้าประตู โรเจอร์ อิบันเญซ ขึ้นโหม่งแต่ไม่ผ่าน ดาบิด เดเคอา

ถึงนาทีที่ 39 แมนยูฯ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เฟร็ด จ่ายบอลทะลุขึ้นมาให้ เอดินสัน คาวานี ยิงด้วยขวาจากนอกกรอบ บอลพุ่งเข้าไปตุงตาข่าย

นาทีที่ 41 โอกาสของแมนยูฯ อีกครั้ง เมสัน กรีนวูด พาบอลพลิ้วเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนยิงด้วยขวา บอลพุ่งเรียดผ่านเสาสองออกไป และในนาทีเดียวกัน โรมา ทำชิ่งกันสวยก่อนที่ เอดิน เชโก จะจ่ายให้ เฮนริกห์ มคิตาร์ยาน ยิงในเขตโทษ แต่ ดาบิด เดเคอา เซฟไว้ได้

เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 45+2 แมนยูฯ เกือบได้เม็ดสอง เมื่อ เอดินสัน คาวานี จ่ายให้ บรูโน เฟอร์นันเดส ปั่นด้วยขวาในเขตโทษ บอลโค้งหลุดเสาไกลออกไปนิดเดียว

จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมานำ โรมา 1-0

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 47 โรมาได้ลุ้นก่อนจากจังหวะยิงไกลของ ไบรอัน คริสตันเต แต่บอลตรงตัว ดาบิด เดเคอา

จากนั้นนาทีที่ 57 โรมา ตีเสมอเป็น 1-1 เฮนริกห์ มคิตาร์ยาน หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายจนสุดเส้นหลัง ก่อนเปิดมาเสาสองให้ เปโดร โรกริเกซ วอลเลย์เข้ากลางให้ เอดิน เชโก โหม่งเข้าไป

แค่นั้นยังไม่พอ นาทีที่ 60 โรมา แซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ ลอเรนโซ เปลเลกริน จิ้มสกัดบอลจาก เฟร็ด เข้าเขตโทษให้ ไบรอัน คริสตันเต ซัดด้วยขวาเข้าไปอย่างเฉียบขาด

นาทีที่ 61 แมนยูฯ รอดพ้นจากการเสียประตูที่สองแบบเหลือเชื่อ จากจังหวะที่ ริค คาร์สดอร์ป เปิดบอลจากในเขตโทษฝั่งขวาเข้ากลาง เอดิน เชโก ได้โหม่งจ่อๆ ดาบิด เดเคอา เซฟออกมาเข้าทาง เปโดร โรดริเกซ ยิงซ้ำอีกทีก็ติดบล็อก จากนั้นนาทีที่ 62 เฮนริกห์ มคิตาร์ยาน ได้ยิงในเขตโทษก็ติดเซฟ เดเคอา บอลไหลผ่านเสาสองออกไป เรียกได้ว่า โรมา มาเป็นชุดเลยทีเดียว

นาทีที่ 64 โอกาสของแมนยูฯ เมื่อ ดอนนี ฟาน เดอ เบค จ่ายบอลให้ บรูโน เฟอร์นันเดส อัดด้วยขวาในเขตโทษ ร้อนถึง อันโตนิโอ มิรันเต ต้องเซฟออกไป ต่อด้วยนาทีที่ 66 บรูโน เฟอร์นันเดส จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ เมสัน กรีนวูด ปรี่มายิงหลุดเสาสองไปนิดเดียว

ถึงนาทีที่ 69 แมนยูฯ ตีเสมอเป็น 2-2 จากจังหวะที่ บรูโน เฟอร์นันเดส ตักบอลเข้าเขตโทษอย่างสวยให้ เอดินสัน คาวานี ขึ้นโหม่งเข้าไปตุงตาข่าย

นาทีที่ 83 โรมา ขึ้นนำ 3-2 ดาวิเด ซานตอน เปิดบอลจากฝั่งซ้ายไปเสาสอง นิโคลา ซาลิวสกี วอลเลย์ด้วยขวา บอลแฉลบเข้าประตูไป

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาแพ้ โรมา 2-3 แต่รวมผล 2 นัด แมนยูฯ ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ด้วยสกอร์รวม 8-5 โดยจะไปเจอกับ บียาร์เรอัล ต่อไป

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

โรมา: อันโตนิโอ มิรันเต (GK), บรูโน เปเรส, โรเจอร์ อิบันเญซ, คริส สมอลลิง, ริค คาร์สดอร์ป, ไบรอัน คริสตันเต, จิอันลูกา มันชินี, เปโดร โรดริเกซ, เฮนริกห์ มคิตาร์ยาน, ลอเรนโซ เปลเลกรินี และ เอดิน เชโก

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: ดาบิด เดเคอา (GK), เอริก ไบญี, แฮร์รี แม็คไกวร์, ลุค ชอว์, อารอน วาน-บิสซากา, เฟร็ด, ดอนนี ฟาน เดอ เบค, บรูโน เฟอร์นันเดส, พอล ป็อกบา, เมสัน กรีนวูด และ เอดินสัน คาวานี