หน้าแรกแกลเลอรี่

ชำแหละ 4 ประเด็น แมนยูฯ เผด็จศึก มิลาน ได้ไปต่อยูโรปาลีก

ไทยรัฐออนไลน์

19 มี.ค. 2564 07:15 น.

"ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ "ปิศาจแดงดำ" เอซี มิลาน เข้ารอบ 8 ทีมยูโรปาลีกสำเร็จ และนี่คือ 4 ประเด็นสำคัญที่ได้เห็นจากเกมนี้

1.ป็อกบามาแล้ว

หลังจากเกมครึ่งแรกค่อนข้างจะตื้อตัน หาทางเจาะแนวรับ มิลาน เข้าไปได้อย่างยากลำบาก ต้นครึ่งหลัง โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ตัดสินใจส่ง พอล ป็อกบา ที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บลงสนามทันทีเพื่อสร้างความแตกต่างและความหลากหลาย และเพียงแค่ 3 นาทีที่มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 อยู่ในสนาม เขาก็จัดการซัดประตูสุดสวยช่วยให้ ปิศาจแดง ขึ้นนำ 1-0 และคลายความกดดันให้กับทีมไปได้เยอะ นอกจากนี้ยังช่วยให้เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ กลับมามีแรงฮึดในการลุยต่อสำหรับช่วงเวลาที่เหลือของเกมจนสุดท้ายยูไนเต็ดก็ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมได้สำเร็จด้วยสกอร์ 1-0 รวมผล 2 นัดชนะ 2-1 ซึ่งหลังจบเกมมีการเปิดเผยสถิติสุดโหดของ ป็อกบา ดังนี้ ผ่านบอลรวม 27 ครั้ง, ผ่านบอลสำเร็จ 21 ครั้ง, โอกาสยิง 3 ครั้ง, เข้ากรอบ 1 ครั้ง, เรียกฟาวล์ 3 ครั้ง, สร้างโอกาส 2 ครั้ง, ซัดไป 1 ประตู

2.โกลเหนียวหนึบ-หลังแน่นปึ้ก

เกมนี้แผงหลังของ ปิศาจแดง โชว์ฟอร์มกันได้อย่างไฉไลสุดๆ เริ่มต้นที่ผู้รักษาประตูอย่าง ดีน เฮนเดอร์สัน ที่โชว์ฟอร์มเซฟลูกยิงของ อเล็กซิส แซเลเมเกอร์ส และปัดลูกโหม่งของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ได้อย่างสุดยอด นอกจากนี้การออกมาตัดลูกกลางอากาศก็ทำได้อย่างดีเยี่ยม หรือแม้กระทั่งเมื่อทีมโดนจ่ายบอลทะลุช่อง เขาก็พร้อมที่จะปรี่ออกมาช่วยแนวรับโดยไม่ลังเล ส่วนคู่เซ็นเตอร์แบ็กอย่าง แฮร์รี แม็คไกวร์ กับ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ก็ประสานงานกันได้อย่างลงตัว ช่วยกันดักทางบอล ช่วยกันสกัดบอล ช่วยกันบล็อก จนทำให้มิลานไม่ได้มีโอกาสส่องประตูได้ง่ายๆ ขระที่แบ้กซ้าย-ขวา อย่าง ลุค ชอว์ กับ อารอน วาน-บิสซากา ก็เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง เติมเกมรุกเมื่อมีโอกาส ส่วนเกมรับก็เล่นได้อย่างเหนียวแน่น ถือว่าเป็นอีกเกมที่ยอดเยี่ยมสำหรับเหล่าบรรดาด่านสุดท้ายของยูไนเต็ด

3.เฟร็ด เกะกะแบบมีประโยชน์!

เชื่อว่าบรรดากองกลางของ เอซี มิลาน คงจะรำคาญ เฟร็ด อยู่ไม่น้อย เพราะดาวเตะดีกรีทีมชาติบราซิลขยันสุดๆ ช่วยบดบี้ในแดนกลาง วิ่งไปทั่วสนาม ไม่ให้เวลานักเตะมิลานได้ออกบอลง่ายๆ เลย จะไปทางไหนก็เจอแต่หน้า เฟร็ด และที่พัฒนาขึ้นมาก็คือนัดนี้ เฟร็ด เสียบอลน้อยลง หลังจากเคยถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าชอบเสียบอลแบบง่ายๆ ถือเป็นกองกลางที่ปิศาจแดงจะขาดไม่ได้ไปแล้ว และเมื่อดูจากสถิติก็เป็นไปตามนั้นเมื่อ เฟร็ด เป็นคนที่ผ่านบอลสำเร็จมากที่สุดที่ 62 ครั้ง และเข้าสกัดบอลมากที่สุดที่ 5 ครั้ง

4.ยูโรปา ผีเอานะ!

ดูจากการจัดตัวผู้เล่น 11 ตัวจริง ของ โซลชาร์ ในเกมนี้ บอกเลยว่า โซลชาร์ เอาจริงกับถ้วยยูโรปาลีก เพราะส่งตัวหลักลงสนามแบบเต็มสูบ และพยายามเดินหน้าเปิดเกมบุกใส่คู่แข่งตั้งแต่เริ่มเกม แม้จะต้องใช้เวลาจนถึงช่วงต้นครึ่งหลังถึงจะได้ประตูขึ้นนำ แต่มันก็คุ้มค่ากับการที่พวกเขาอดทน ค่อยๆ หาจังหวะจนประสบความสำเร็จ  และถ้าสุดท้าย โซลชาร์ สามารถพาทีมคว้าแชมป์ยูโรปาลีก, จบอันดับ 2 ในพรีเมียร์ลีก และคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ  ก็ถือว่าเป็นผลงานที่น่าพอใจไม่น้อย แฟนปิศาจแดงต้องรอลุ้นกันไปแบบยาวๆ

PUNABBEY