ทำไมต้องยืม?

สวัสดีครับ คุณพาวเวอร์บอมบ์ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณอีกครั้ง นะครับ ที่กรุณาเป็นกระบอกเสียงให้พวก ผม ซึ่งเป็นสโมสรสมาชิกของสมาคม กีฬาฟุตบอลฯ ซึ่งปัจจุบันนี้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในเรื่องของการบริหารงานที่ไม่ชัดเจนโปร่งใส ทำให้เกิดคำถามอย่างมากมาย

ผมเห็นด้วยกับคุณนวลพรรณ ล่ำซำ หรือคุณแป้ง ที่ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ โดยเรียกร้องให้มีการตรวจสอบงบดุลรายรับรายจ่ายของสมาคมกีฬาฟุตบอล ตั้งแต่ปี 2560 ถึง 2562

ให้มีการตรวจสอบจากบุคคลหรือหน่วยงานที่มีความเป็นกลางได้มาตรฐานสากล เพื่อความสง่างามและแสดงความจริงใจของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ

เป็นที่ทราบกันดีว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลฯได้รับรายได้เฉพาะจากทรูวิชั่นส์เจ้าเดียว ในสามปีที่ผ่านมาเป็นเงินมหาศาลถึง 3,000 ล้านบาท และได้จ่ายให้สโมสรในไทยลีก 1-4 เป็นจำนวน 1,431 ล้านบาท (จากเอกสารเผยแพร่ของสมาคมฯ) คงเหลือที่ 1,569 ล้านบาท

ซึ่งเป็นยอดเงินมหาศาล! “เฉพาะทรูฯเจ้าเดียว” สมาคมกีฬาฟุตบอลฯแถลงรายจ่ายเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ในวันประชุมใหญ่ที่ผ่านมาว่า ปี 2562 มีค่าใช้จ่ายสนับสนุนพัฒนาการกีฬา 781,207,442.90 บาท

ไม่รู้ว่าใช้พัฒนาอะไร? แม้กระทั่งทีมชาติระดับเยาวชน ยังแพ้กัมพูชาเลย

พวกเราจึงต้องช่วยกันตรวจสอบครับ

ผมขอเข้าประเด็นใหญ่ซึ่งเป็นข่าวร้อนในปัจจุบันนี้คือเรื่อง “การขอยืมเงิน”

ที่สมาคมได้ป่าวประกาศขอยืมเงินจากภาคส่วนต่างๆและในท้ายที่สุดได้ออกข่าวว่าจะนำเงิน 43 ล้านบาทมาให้สโมสรสมาชิกได้ขอยืม

ผมว่าเป็นเรื่องตลกน้ำเน่าอย่างแท้จริงครับ

เหตุผลดังนี้ : (เฉพาะปีนี้ ปี 63) สมาคมกีฬาฟุตบอลฯแถลงเองว่ารายได้ที่สมาคม ได้รับมาแล้วครึ่งปีแรก (บันทึก ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563) เป็นจำนวนเงิน 745,126,296.77 บาท

ตามเอกสารสมาคมแจ้งว่าได้จ่ายให้กับสโมสรสมาชิกในไทยลีก 1-4 เป็นจำนวนเงิน 112.50 ล้านบาท

เหลือเงินอีก 630 กว่าล้านบาท หายไปไหน!

การแข่งขันต่างๆก็หยุดลงเพราะติดการป้องกันโควิด-19

ทำไมต้องให้พวกเราไปขอยืมด้วย

อย่างนี้เขาเรียกว่า “UNFAIR” ไม่ใช่ “FAIR” ตามนโยบายของท่าน

พวกผมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบครับ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯเป็นของส่วนรวมมิใช่เป็นของบุคคลหนึ่งบุคคลใด เพราะฉะนั้นต้องชัดเจนโปร่งใสครับ

ฝากคุณพาวเวอร์บอมบ์ช่วยกรุณาติดตามตรวจสอบอีกแรงหนึ่งด้วยครับ ในฐานะที่เป็นสื่อและเป็นคนกลาง

#ทำไมต้องยืม #UNFAIR

ขอบคุณมากครับ

นายสุโชค เลิศวัฒนาโกเมศ กรรมการผู้อำนวยการผู้มีอำนาจลงนาม สโมสรลำปางเอฟซี

นี่เป็นอีกหนึ่งในจดหมายหลายๆฉบับก่อนหน้า ที่ส่งมาถึงผม

เรื่องการตรวจสอบความโปร่งใสโดยเฉพาะเรื่องเงินๆทองๆนั้น ต้องเรียนตามตรงว่าผมก็ได้เขียนถึงไปหลายครั้งแล้ว แต่ด้วยเหตุที่ผมไม่ใช่ผู้ที่เดือดร้อน และได้รับผลกระทบโดยตรง สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ก็อาจจะคิดว่าไม่จำเป็นต้องชี้แจงแถลงไข

ถึงตอนนี้กระแสการเรียกร้องจากบรรดาสโมสร สมาชิกตั้งแต่ไทยลีก 1 ยันไทยลีก 3 มีมาอย่างมากมาย และต่อเนื่อง

พวกเขาคือผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง

ถ้าสมาคมกีฬาฟุตบอลฯยังนิ่งเฉยอีก ผมก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว!

พาวเวอร์บอมบ์