ไทยรัฐออนไลน์
"ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ดวลจุดโทษชนะ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล 5-4 หลังเสมอใน 90 นาทีแบบสุดมัน คว้าแชมป์คอมมูนิตี ชิลด์ มาครองสำเร็จ
การแข่งขันฟุตบอล คอมมูนิตี ชิลด์ อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 29 ส.ค. 2563ที่สนามเวมบลีย์ สเตเดียม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-20 พบกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล แชมป์เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2019-20
เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 7 ลิเวอร์พูลเกือบขึ้นนำ จากจังหวะได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ยิงเข้าไป แต่ VAR เช็กว่าฟาน ไดค์ ล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
จากนั้นนาทีที่ 12 ลิเวอร์พูลได้ลุ้นอีกครั้ง เนโก วิลเลียมส์ เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้ากรอบเขตโทษ เจมส์ มิลเนอร์ โหม่งข้ามคาน
และในนาทีเดียวกัน กลายเป็นอาร์เซนอล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ บูกาโย ซากา เปิดบอลข้ามฟากมาฝั่งซ้ายให้ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ลากตัดเข้ามาหน้าเขตโทษแล้วซัดด้วยขวา บอลพุงสียบเสาไกลเข้าไปเลย
นาทีที่ 18 โอกาสของอาร์เซนอล เมื่อ บูกาโย ซากา หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนจ่ายเรียดเข้ากลาง เอ็ดดี เอนเคเทียห์ วิ่งมาแปเน้นๆ ด้วยขวา อลิสสัน เบคเกอร์ พุ่งปัดออกไปได้
ถึงนาทีที่ 36 ลิเวอร์พูลเกือบตีเสมอ จากจังหวะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเลยไปถึงเสาสอง แต่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เข้ามาชาร์จไม่ทัน
จบครึ่งแรก อาร์เซนอล นำ ลิเวอร์พูล อยู่ 1-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 51 ลิเวอร์พูลได้ลุ้นก่อน โรแบร์โต เฟอร์มิโน ปั่นด้วยขวาจากนอกกรอบ บอลโค้งหลุดเสาสองไปนิดเดียว
จากนั้นนาทีที่ 56 ลิเวอร์พูล มาอีกแล้ว แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดบอลทะลุขึ้นมาให้ ซาดิโอ มาเน พาบอลควบเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนซัดเน้นๆ แต่ เอมิเลียโน มาร์ติเนซ เซฟไว้ได้
และในนาทีที่ 68 ลิเวอร์พูลได้ลุ้นอีก เมื่อ โรแบร์โต เฟอร์มิโน จ่ายบอลให้ ทาคูมิ มินามิโนะ ซัดด้วยขวาจากนอกกรอบ แต่บอลพุ่งตรงตัว เอมิเลียโน มาร์ติเนซ
นาทีที่ 69 อาร์เซนอล ได้ลุ้นบ้าง บูกาโย ซากา โยกหลอก จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ในเขตโทษฝั่งขวาแล้วซัดทันที บอลแฉลบไวจ์นัลดุมหลุดเสาแรกออกไป
ถึงนาทีที่ 73 ลิเวอร์พูล ตีเสมอ 1-1 จากการซัดในเขตโทษของ ทาคูมิ มินามิโนะ โดยมีการเช็กวีเออาร์ว่ามีการแฮนด์บอลหรือไม่ ก่อนยืนยันให้ประตูกับหงส์แดง
นาทีที่ 81 ลิเวอร์พูล เกือบแซงนเมื่อ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดบอลไปในเขตโทษ ซาดิโอ มาเน พักอกลงสวยแต่จับบอลยาวไปหน่อย จังหวะสุดท้ายเลยยิงไปติดเซฟ เอมิเลียโน มาร์ติเนซ
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 87 อาร์เซนอล เกือบขึ้นนำเหมือนกัน เซดริก โซอาเรส เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษ โจเซป วิลล็อค โหม่งเช็ดหลุดเสาสองไปนิดเดียว
จบ 90 นาที ลิเวอร์พูล เสมอ อาร์เซนอล 1-1 ต้องตัดสินหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ ผลปรากฏว่า อาร์เซนอล ยิงแม่นกว่า เอาชนะ ลิเวอร์พูล ไป 5-4 คว้าแชปม์มาครองได้สำเร็จ
ลิเวอร์พูล
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงเข้า
ฟาบินโญ ยิงเข้า
ริอาน บรูว์สเตอร์ ไม่เข้า
ทาคูมิ มินามิโนะ ยิงเข้า
เคอร์ติส โจนส์ ยิงเข้า
อาร์เซนอล
รีสส์ เนลสัน ยิงเข้า
เอนสลีย์ เมตแลนด์ ไนส์ ยิงเข้า
เซดริก โซอาเรส ยิงเข้า
ดาวิด ลุยซ์ ยิงเข้า
ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ยิงเข้า
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม
ลิเวอร์พูล: อลิสสัน เบคเกอร์ (GK), เนโก วิลเลียมส์, โจ โกเมซ, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, เจมส์ มิลเนอร์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต เฟอร์มิโน และ ซาดิโอ มาเน
อาร์เซนอล: เอมิเลียโน มาร์ติเนซ (GK), คีแรน เทียร์นีย์, ดาวิด ลุยซ์, ร็อบ โฮลดิง, เฮคตอร์ เบเยริน, เอนสลีย์ เมตแลนด์ ไนส์, กรานิต ชากา,โมฮาเหม็ด เอลเนนี, บูกาโย ซากา, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ และ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง