มันแปลกดีนะ

แฟนลูกหนัง อาจได้เห็นกฎแปลกๆ ที่ไม่คุ้นตาเพิ่มขึ้น เมื่อศึกลูกหนังกลับมาหวดแข้งกันอีกครั้ง

การแข่งขันฟุตบอลลีก อาจกลับมาวาดลวดลายให้แฟนลูกหนังได้รับชมกันอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ถูกพักแข่งไปนานหลายสัปดาห์ เพื่อหลบเชื้อโควิด-19 ซึ่งไม่นับ เอเรอดีวีซี ฮอลแลนด์ กับ ลีกเอิง ฝรั่งเศส ที่ขอลาจบฤดูกาล 2019-20 ไว้เพียงเท่านี้ 

ทั้งนี้ศึกลาลีกา สเปน ดูมีเปอร์เซ็นต์มากที่สุดใน 4 ลีกใหญ่ของยุโรป ที่อาจได้เห็นกลับมาบรรเลงเพลงลูกหนังอีกครั้งในช่วงเดือนมิถุนายน สืบเนื่องมาการจากที่ เปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีของประเทศ เตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อย่างค่อยเป็นค่อยไป และเริ่มไฟเขียวให้สโมสรฟุตบอลอาชีพกลับมาซ้อม แบบเว้นระยะห่างทางสังคมได้แล้วในช่วงกลางสัปดาห์นี้ (4 พฤษภาคม) 

อย่างไรก็ตาม การจะกลับมาแข่งขันกันได้อีกครั้ง ต้องมาพร้อมกับมาตรการที่เข้มงวด ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่อีกได้ โดยสื่อต่างประเทศรายงานไปในทิศทางเดียวกันว่า การคัมแบ็กของแต่ละลีกในครั้งนี้ ส่อเตะกันแบบสนามปิด ซึ่งจะอนุญาตให้เพียงผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าสนามได้เท่านั้น และอาจจะมาพร้อมกับกฎแปลกๆ ที่รับรองได้ว่าแฟนฟุตบอลคงไม่เคยได้เห็นในชาตินี้มาก่อน....

หลายท่านคงทราบกันไปแล้ว จากข่าวลือที่ออกมาในช่วงก่อนหน้านี้ว่า ศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี มีแผนกลับมาเตะอีกครั้ง โดยจะให้นักเตะสวมหน้ากากอนามัยขณะแข่งขัน ถ้าหากมีแข้งคนไหนทำหลุด หรือตก ผู้ตัดสินในสนามจะเป่าหยุดเกมทันที เพื่อให้ดาวเตะคนนั้นได้จัดระเบียบหน้ากากให้เรียบร้อย ก่อนสั่งให้เริ่มเกมตาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งดูแล้วกฎดังกล่าวคงเกิดขึ้นได้ยาก เพราะทุกวันนี้แค่ใส่แมสก์เดินตากแดดไม่ถึง 5 นาที ยังรู้สึกหายใจกันลำบาก แล้วถ้ายิ่งใส่เล่นกีฬาคงดูไม่จืดแน่นอน 

อย่างต่อไปคือ ห้ามถุย ถ่ม บ้วน น้ำลาย ลงบนสนามฟุตบอล ไม่เช่นนั้นคุณอาจได้รับใบเหลืองโดยไม่รู้ตัว ซึ่งตั้งแต่ลืมตาดูโลกขึ้นมา 20 กว่าปี และดูฟุตบอลมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ปี หมุนโทรทัศน์ไปดูฟุตบอลคู่ไหนก็เจอนักฟุตบอลบ้วนน้ำลายลงสนามจนคุ้นชินตาไปแล้ว และดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ห้ามได้ยากไปเสียแล้ว

จากการสอบถามหนุ่มๆ ที่หลงใหลในการเตะฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ร้อยละ 90% พวกเขาให้คำตอบว่าคงห้ามกันยาก เพราะเวลาเล่นฟุตบอลต้องใช้พลังงานไปกับการวิ่งเยอะ ส่งผลให้น้ำลายเหนียวตามมา จะกลืนลงคอก็ไม่ได้ หนทางเดียวคือส่งมันลงไปบนพื้นสนามหญ้าสีเขียวนี่แหละ เป็นที่พึ่งสุดท้าย 

มีการยืนยันว่ากฎดังกล่าวถูกนำมาพูดถึงจริงในที่ประชุมของฟีฟ่า เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มิเชล ดิฮูท ผู้บริหารระดับสูงของสาธารณสุข ได้ออกมาเตือนถึงเรื่องนี้ไว้ว่า "มันเป็นเรื่องปกติของฟุตบอล แต่ถ้าพูดถึงความถูกต้องในกระบวนการสุขอนามัย ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิด เราต้องระวังมากขึ้นหากการแข่งขันกลับมาอีกครั้ง เราอาจต้องแจกใบเหลืองให้กับนักเตะที่ถ่มน้ำลายลงสนาม เพราะเป็นเรื่องที่ผิดสุขอนามัย และเป็นการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส"

ขณะที่ศึกฟุตบอลเคลีก ของประเทศเกาหลีใต้ก็ไม่น้อยหน้า หลังมีข่าวออกมาว่า จะให้ลีกกลับมาดำเนินการแข่งขันได้อีกครั้ง แต่อาจออกกฎห้ามนักฟุตบอลพูดคุยกันระหว่างเกม ซึ่งถ้ากฎนี้เกิดขึ้นจริง เราคงได้เห็นนักฟุตบอลเล่นกันเหมือนในเกมวินนิ่งเป็นแน่แท้ 

ด้านพรีเมียร์ลีกเอง ก็กำลังหาหนทางเพื่อกลับแข่งขันต่อให้จบซีซั่น แต่การกลับมาในครั้งนี้ อาจต้องเตะกันแบบสนามกลาง จำนวน 8-10 แห่งด้วยกัน ซึ่งต้องรอมติจากอย่างชัดเจนอีกครั้ง ในที่ประชุมวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ และดูเหมือนว่า คาร์เรน เบรดี รองประธานเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่เคยออกมายุให้พรีเมียร์ลีกโมฆะฤดูกาลนี้ ส่อแววเป็นหนึ่งในเสียงที่ไม่เห็นด้วยกับการเล่นสนามกลาง 

"การร่วมประชุมในครั้งที่ 3 เราจะพูดถึงโอกาสในการเล่นที่สนามเป็นกลาง ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครเห็นด้วยหรอก พวกเขาบอกว่าการเล่นสนามเป็นกลางจะช่วยป้องกันทุกคนได้ แต่ยังไม่มีการเห็นชอบเกิดขึ้น" เบรดี กล่าว 

ทั้งนี้หากกฎ และมาตรการต่างๆ ตามข้างต้นเกิดขึ้นจริง คงเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับวงการฟุตบอลแน่นอน 

Pic : skysports