บี บางปะกง
ฟุตบอล “เอส-ลีก” ลีกสูงสุดของสิงคโปร์ เพื่อนบ้านของเรา ได้ทำการรีแบรนด์ปรับโฉมกันใหม่เพื่อให้ลีกแดนลอดช่องกลับมาป๊อปปูล่าร์เป็นที่นิยมอีกครั้ง
หลังที่ผ่านมาร่วมสิบปีหลัง วงการลูกหนังสิงคโปร์อยู่ในช่วงขาลงสุดๆ ฟุตบอล เอส-ลีกที่เคยเฟื่องฟูก็ตกต่ำซบเซาลง อย่างน่าใจหาย
จากสมัยก่อนที่ “ฟุตบอลอาชีพของสิงคโปร์” เคยเป็นแดนสวรรค์แหล่งขุดทองจากนักเตะต่างชาติทั่วสารทิศ โดยเฉพาะนักเตะไทยที่ยุคหนึ่งเคยนิยมไปค้าแข้งที่แดนลอดช่องกันอย่างดาษดื่น
ไม่ว่าจะเป็นซุปเปอร์สตาร์ อย่าง “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ตะวัน ศรีปาน, เทิดศักดิ์ ใจมั่น, สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ฯลฯ ล้วนแต่เคยไปโกยเงินเหรียญในลีกสิงคโปร์มาแล้วทั้งสิ้น
กระทั่งต่อมา เอส-ลีก เริ่มถดถอยจากปัญหา เรื่องล้มบอล เล่นกันไม่เต็มที่ จนแฟนบอลเบื่อหน่ายไม่เข้าสนามเหมือนก่อน
กอปรกับผลงานทีมชาติสิงคโปร์ก็ถอยหลังลงคลองไม่พัฒนาไปไหน โครงการสร้างเยาวชนเพื่อเป้าหมายไปบอลโลกที่เคยวาดฝันไว้ซะดิบดีก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าไร้การสานต่ออย่างจริงจัง
ฉุดให้ภาพลักษณ์ของวงการลูกหนังแดนลอดช่องตกต่ำดำดิ่งลงไปเรื่อยๆจนไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นกลับคืนมาได้ง่ายๆ
ดังนั้น การรีแบรนด์ เอส-ลีก ของทางสมาคมฟุตบอลสิงคโปร์ในครั้งนี้ จึงนับเป็นการปฏิวัติวงการฟุตบอลลีกของแดนลอดช่องครั้งสำคัญในรอบ 23 ปี หลังจากให้กำเนิด เอส-ลีกขึ้นมาในปี 1996
โดยได้ปรับเปลี่ยนโลโก้ พร้อมทั้งตั้งชื่อใหม่ เป็น “สิงคโปร์ พรีเมียร์ลีก”
การเปลี่ยนแปลงมีหัวข้อหลักๆ คือ เปลี่ยนโควตาใหม่ที่แต่ละสโมสรท้องถิ่นจะต้องมีโควตานักเตะอายุต่ำกว่า 23 ปี 6 คนในทีม และ 3 คนจะต้องถูกลงสนาม
ยกระดับความเป็นมืออาชีพ และพัฒนาคุณภาพผู้เล่น, โค้ช, เจ้าหน้าที่ พร้อมกับเปลี่ยนแปลงรูปแบบสิทธิประโยชน์ใหม่เพื่อดึงดูดสปอนเซอร์ให้เข้ามาร่วมสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกัน สโมสรก็ต้องให้ความสำคัญกับความเป็นท้องถิ่นนิยม แฟนคลับ เพื่อดึงดูดแฟนบอลที่เปรียบเสมือนหัวใจของฟุตบอลอาชีพโดยแท้ให้กลับเข้าสนาม
ซึ่งแผนการปฏิวัติดังกล่าวจะกู้ศรัทธาแฟนบอล และเรียกแฟนคลับให้กลับเข้าสนามได้อีกครั้งหรือไม่นั้น ยังต้องคอยติดตามดู
กลับมาที่ “ฟุตบอลไทยลีก” ของเราในตอนนี้ ซึ่งเริ่มจะประสบปัญหาคนดูบางตาในหลายสนาม
แฟนๆที่เคยติดตามเชียร์ทีมรักที่ขอบสนามเริ่มหดหาย ไม่คึกคักเหมือนเมื่อก่อน
ดูคล้ายเป็น “ขาลง” ของบอลลีกไทยยังไงพิกล!
ไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของความนิยมที่ลดลงอย่างฮวบฮาบของกระแสบอลลีกในบ้านเราเวลานี้
จะเป็นเรื่องของความเบื่อหน่าย ความอิ่มตัวหรือยังไงก็ไม่ทราบได้
แต่ถึงเวลาแล้วล่ะครับ ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯจะต้องลงลึกหาข้อมูลรายละเอียดถึงเรื่องนี้อย่างจริงจังเสียที
ก่อนที่ฟุตบอลภายในประเทศของบ้านเราจะกลับไปยืนตายซาก เล่นกันเอง ดูกันเอง
เหมือนยุคนึงในอดีต!!!
บี บางปะกง