“ลา มาเซีย”

กลับมาสู่เส้นทางคว้าแชมป์อีกครั้งสำหรับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา เจ้าของแชมป์ลา ลีกา เมื่อปีที่แล้ว หลังจากนัดล่าสุดบดเอาชนะเรอัล มายอร์กา ไปหวุดหวิด 1-0 ทำให้ตอนนี้เก็บแต้มเพิ่มเป็น 61 คะแนนจาก 28 นัดไล่หลัง “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด คู่ปรับตัวฉกาจที่รั้งจ่าฝูงอยู่ 5 คะแนนเท่านั้น

โดยในเกมเชือด “ชาวเกาะ” นั้น บาร์ซาก็ได้ประตูชัยจากลามีน ยามาล อีกหนึ่งดาวรุ่งที่ก้าวขึ้นมาจากอะคาเดมีของสโมสร หรือที่หลายคนคุ้นชื่อว่า “ลา มาเซีย”

“ลา มาเซีย” เรียกได้ว่าเป็นศูนย์ที่บ่มเพาะนักเตะชื่อดังมากมายให้กับบาร์เซโลนา รวมถึงนักเตะบางคนที่ไม่สามารถสอดแทรกก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของบาร์ซาได้ ก็จะถูกส่งออกไปสร้างชื่อให้กับบรรดาทีมต่างๆในยุโรปมากมายหลายต่อหลายคน

ในปัจจุบันทีมบาร์เซโลนา ยุคชาบี เอร์นานเดซ ก็มีเด็กปั้นจาก “ลา มาเซีย” ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักอยู่หลายคนไม่ว่าจะเป็นกาบี, เปดรี และล่าสุดก็คือ ลามีน ยามาล วันนี้ “มะระหวาน” จะมาสรุปให้ดูว่านักเตะระดับโลกใครเป็นลูกศิษย์ในถิ่นลา มาเซีย กันบ้าง

ลิโอเนล เมสซี (อาร์เจนตินา)

ชื่อของเมสซี ต้องลอยเด่นมาเป็นเบอร์ 1 อยู่แล้ว กองหน้าร่างเล็กถือว่าเป็นผลผลิตชั้นยอดของลา มาเซีย และกลายมาเป็นหนึ่งในตำนานของสโมสรอยู่กับทีมมานานถึง 21 ปีด้วยกัน โดยกองหน้ากัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาลงเล่นให้บาร์ซามากถึง 778 นัดยิงไป 672 ประตู และพาทีมกวาดแชมป์มากมายถึง 34 ใบด้วยกัน นอกจากนั้นยังกวาดรางวัลส่วนตัวอีกมากมายโดยเฉพาะบัลลงดอร์ที่คว้าได้ถึง 8 สมัยด้วยกัน

ชาบี เอร์นานเดซ (สเปน)

กุนซือคนปัจจุบันของบาร์เซโลนา ก็เติบโตมาจาก “ลา มาเซีย” โดยเจ้าตัวอยู่กับทีมมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ก่อนจะใช้เวลา 6 ปีก้าวขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ในปี 1998 และสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมพาทีมคว้าแชมป์ลา ลีกา 7 สมัย ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 3 สมัย แถมยังพาทีมชาติสเปนซิวแชมป์โลก 1 สมัยและแชมป์ยุโรป อีก 2 สมัยอีกด้วย

อันเดรส อิเนสตา (สเปน)

อิเนสตา ก้าวเข้ามาฝึกฝีเท้าในลา มาเซีย ตั้งแต่ในปี 1996 ก่อนจะก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2002 ซึ่งตอนแรกในคัมป์นู นั้น อิเนสตา ยังไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้แต่หลังจาก 2 ฤดูกาลแรกในทีมชุดใหญ่เจ้าตัวก็ฉายแสงได้อย่างโดดเด่นเคียงข้าง ชาบี และเมสซี โดยสามารถพาทีมคว้าแชมป์ลา ลีกา ได้ถึง 9 สมัยและแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก อีก 4 สมัย แถมยังผนึกกำลังชาบี พาทีมชาติสเปนซิวแชมป์โลก 1 สมัยและแชมป์ยุโรปอีก 2 สมัยอีกด้วย

เป๊ป กวาร์ดิโอลา (สเปน)

กวาร์ดิโอลา คือเด็กปั้นที่โดดเด่นจากลา มาเซีย และเป็นหนึ่งในผู้เล่นในยุคของโยฮัน ครัฟฟ์ ที่สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมบาร์เซโลนาในท้ายที่สุด เป๊ปคว้าแชมป์ลีก 7 สมัย โคปา เดล เรย์ 2 สมัย และแชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย ก่อนที่เจ้าตัวจะผันตัวมารับตำแหน่งผู้จัดการทีมซึ่งก็พาทีมกวาดแชมป์มามากมายทั้งตอนคุมบาร์เซโลนา, บาเยิร์น มิวนิก และแมนเชสเตอร์ ซิตี้

คาร์เลส ปูโยล (สเปน)

ปูโยล ถือว่าเป็นหนึ่งในปราการหลังชั้นนำของโลกตอนสมัยที่เขาลงเล่นและเป็นหนึ่งในผู้เล่นแนวรับที่สร้างชื่อให้กับทางลา มาเซีย แม้ว่าเจ้าตัวจะย้ายมาฝึกกับลา มาเซีย ก็ในวัย 17 ปีแล้ว แต่เจ้าตัวก็พัฒนาอย่างยอดเยี่ยมจนก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่และกลายเป็นตำนานของบาร์ซาในที่สุดโดยรับใช้ทีมนานถึง 15 ปี ลงเล่นไปทั้งหมด 683 นัดยิงไป 24 ประตู โดยคว้าแชมป์ลา ลีกา 6 สมัย และแชมเปียนส์ ลีก อีก 3 สมัยด้วยกัน

นอกจากที่กล่าวมายังมีเด็กจากลา มาเซีย อีกมากมายที่สร้างชื่อเสียงไม่ว่าจะเป็นเคราร์ด ปิเก, เซร์คิโอ บุสเกตส์, อิวาน เด ลา เปนญา, วิคตอร์ บัลเดส, เปโดร โรดริเกวซ, เชส ฟาเบรกัส, หลุยส์ การ์เซีย หรือแม้กระทั่งมิเกล อาร์เตตา กุนซืออาร์เซนอล

จากผู้เล่นที่สร้างชื่อมากมายจึงไม่น่าแปลกใจที่ “ลา มาเซีย” จะถูกเรียกว่าเป็นศูนย์ฝึกเยาวชนที่ดีที่สุดในโลก.

มะระหวาน

คลิกอ่านคอลัมน์ “ตะลุยฟุตบอลโลก” เพิ่มเติม