มะระหวาน
เป็นอีกหนึ่งนัดชิงชนะเลิศศึกคาราบาว คัพ ที่ดูเพลินดูสนุกมากๆ แม้ว่าจะมีเพียงแค่สกอร์เดียวก็ตามหลังจาก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก บดเอาชนะ “สิงห์บลู” เชลซี ไปได้ 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษผงาดคว้าแชมป์คาราบาว คัพ สมัยที่ 10 ไปครอง
เอาเข้าจริงๆก็ต้องขอซูฮกทั้งเจอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน และลูกทีม “หงส์แดง” ทุกคนที่เล่นได้อย่างสุดยอดจริงๆ โดยเฉพาะบรรดาดาวรุ่ง “เรด แมชชีน” ที่สร้างผลงานยอดเยี่ยม
โดยก่อนเกมเมื่อเห็น 11 ตัวจริงและผู้เล่นตัวสำรองของลิเวอร์พูลแล้วบอกตรงๆ กลุ้มใจจริงๆ เพราะไม่มีทั้งโมฮัมเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, โดมินิค โซโบซไล, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจแอล มาติป, ดิโอโก โชตา และอลิสสัน เบคเกอร์
แถมม้านั่งสำรองมีแต่บรรดาดาวรุ่งอย่าง บ็อบบี คลาร์ก, เจมส์ แม็คคอนเนลล์, เจย์เดน แดนส์, ลูวิส คูมาส และเทรย์ นิโอนี บอกตรงๆ เห็นรายชื่อแล้วไม่น่ารอด “สิงห์บลู” เชลซีที่มาเล่นเกมนี้ค่อนข้างฟูลทีมนำทัพโดย 2 นักเตะค่าตัวเกิน 100 ล้านปอนด์ อย่างมอยเซส ไกเซโด และเอ็นโซ เฟร์นานเดซ ที่ผนึกกำลังโคล พาลเมอร์, ราฮีม สเตอร์ลิง, นิโคลัส แจ็คสัน, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ นำทีมลงสนาม
เมื่อเห็นรายชื่อแล้วบอกตรงๆว่า แม้ว่า “สิงห์บลู” จะฟอร์มไม่ดีในช่วงที่ผ่านมา แต่ขุมกำลังค่อนข้างแข็งแกร่งแบบนี้ น่าจะหยุดความร้อนแรงของ “หงส์แดง” ได้
ซึ่งในสนามเชลซีก็ทำได้ดีจริงๆมีโอกาสยิงค่อนข้างจะแจ้งมากกว่า และมีโอกาสเหน่งๆอยู่ 4-5 หนเลยทีเดียว แต่ไม่เฉียบคมเท่าไร นอกจากนั้นก็ต้องชมควีวิน เคลเลเฮอร์ จอมหนึบมือสองของ “หงส์แดง” ที่เซฟได้หลายลูกอยู่เช่นกัน
และก็เป็นอย่างที่คาดไว้เมื่อทีมที่มีโอกาสปิดเกมแต่ทำไม่ได้ก็จะพลาดโดนอีกฝ่ายเล่นงานจนคว้าชัยชนะไปได้ในท้ายที่สุด ซึ่งก็เป็นลิเวอร์พูล ที่มาได้ประตูจากลูกโหม่งของเวอร์จิล ฟาน ไดก์ ปราการหลังกัปตันทีม พา “หงส์แดง” คว้าแชมป์คาราบาว คัพ ฤดูกาล 2023-2024 มาครองได้สำเร็จ
การคว้าแชมป์ครั้งนี้ของ “หงส์แดง” ถือว่าเป็นแชมป์สมัยที่ 10 ในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่คว้าถ้วยใบนี้มาครอง และเป็นแชมป์แรกของลิเวอร์พูลในซีซันนี้
โดยวันนี้ต้องชื่นชมแข้งลิเวอร์พูล ที่แม้จะขาดตัวหลักๆไปเยอะ แต่ก็สู้ไม่ถอยไม่ว่าจะเป็นแข้งตัวหลักไปจนถึงตัวสำรองซึ่งเป็นดาวรุ่งวัย 18 ปี อย่างเจย์เดน แดนส์ ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้รุ่นพี่ทั้งๆที่เพิ่งลงเล่นในเกมระดับรอบชิงชนะเลิศเป็นนัดแรกก็ตาม
เชื่อว่าสิ่งที่นักเตะ “หงส์แดง” ทำในวันนี้มันบ่งบอกให้เห็นว่าพวกเขาทำในสิ่งที่พวกเขาประกาศก่อนหน้านี้แล้วนั่นก็คือกวาด “4 แชมป์” เพื่อเป็นการส่งท้ายให้ เจอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมันที่ประกาศอำลาทีมหลังจากสิ้นสุดฤดูกาลนี้
ตอนนี้ “เรด แมชชีน” ได้ไปแล้ว 1แชมป์เหลืออีก 3 ถ้วยที่ยังมีลุ้นได้แก่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ตอนนี้ลิเวอร์พูลนำเป็นจ่าฝูง ขณะที่เอฟเอ คัพ อยู่ในรอบ 5 หรือ 16 ทีมสุดท้าย มีคิวเจอกับ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ในวันพุธนี้ และถ้วยใบสุดท้ายที่ยังมีลุ้นคือยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เจอกับสปาร์ตา ปราก ทีมแกร่งจากสาธารณรัฐเช็ก
โดยตอนนี้แข้ง “หงส์แดง” ได้เริ่มต้น นับหนึ่งในการคว้าแชมป์มาครองและเชื่อว่าทุกคนจะใส่เต็มที่เพื่อจะคว้าแชมป์ส่งท้าย เจอร์เกน คลอปป์ เจ้านายสุดที่รักให้ได้มากที่สุด!!
มะระหวาน
คลิกอ่านคอลัมน์ “ตะลุยฟุตบอลโลก” เพิ่มเติม