หน้าแรกแกลเลอรี่

เชื่อเมียแล้วเจริญ เผยเคล็ดลับการกินอาหาร "เลวานดอฟสกี" คุมน้ำหนักจนยิงกระจาย

ไทยรัฐออนไลน์

8 ก.ย. 2564 19:29 น.

สื่อดังเผยเคล็ดลับที่ทำให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ยังเป็นยอดดาวยิงระดับโลกในวงการฟุตบอล เนื่องจากกินอาหารตามที่ภรรยาแนะนำ

วันที่ 8 ก.ย. 64 เดอะ ไทมส์ สื่อชั้นนำของเมืองผู้ดี เผยเบื้องหลังซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ดาวยิงกัปตันทีมชาติโปแลนด์ จากสโมสรบาเยิร์น มิวนิก ยังคงรักษามาตรฐานในฐานะจอมถล่มประตูระดับโลกเอาไว้ได้ ก่อนเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป นัดที่ 6 กลุ่มไอ ที่จะเปิดบ้านต้อนรับทีมชาติอังกฤษในคืนนี้ 01.45 น. ตามเวลาประเทศไทย

ศูนย์หน้าวัย 33 ปี มีสถิติการล่าตาข่ายอันน่าทึ่งจากการซัดไปถึง 108 ประตูใน 87 เกมหลังสุดให้กับ "เสือใต้" ในระดับสโมสร ส่วนทีมชาติโปแลนด์ เลวานดอฟสกี ก็กดไปถึง 9 ลูกจาก 8 เกมหลังสุดที่ลงสนามในทุกรายการของปีนี้

เดอะ ไทมส์ เปิดเผยว่าเคล็ดลับการยิงประตูเป็นกอบเป็นกำของ เลวานดอฟสกี อยู่ที่ แอนนา ภรรยาของเขาซึ่งมีดีกรีเป็นนักคาราเต้ทีมชาติโปแลนด์ เจ้าของ 3 เหรียญรางวัลในศึกชิงแชมป์โลก, 6 เหรียญในศึกชิงแชมป์ยุโรปทุกรุ่นอายุ และ 29 เหรียญในการแข่งขันชิงแชมป์ระดับประเทศ

ปัจจุบัน แอนนา เป็นครูสอนฟิตเนส ซึ่งเธอได้ช่วยควบคุมการรับประทานอาหารของสามี ตลอดจนวางโปรแกรมการใช้ชีวิต เพื่อช่วยในการควบคุมน้ำหนักและรักษาร่างกายให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งส่งผลต่อการทำผลงานในสนาม

สูตรการรับประทานอาหารที่ แอนนา แนะนำให้ เลวานดอฟสกี คือ "Backwards eating diet" โดยในแต่ละมื้อทั้งคู่จะรับประทานของหวานก่อน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น "บราวนี่" ที่ทำจากโกโก้แท้เท่านั้น ตามด้วย "ข้าวกับเนื้อหรือปลา" จากผู้ผลิตที่ได้รับการคัดเลือกมาแล้ว ก่อนตบท้ายมื้ออาหารด้วยการทานสลัดหรือซุป ซึ่งเป็นเมนูที่คนส่วนใหญ่จะเริ่มรับประทานก่อนเป็นลำดับแรกๆ

ส่วนอาหารที่ แอนนา ไม่อนุญาตให้แตะต้องเลยประกอบด้วย "ของทอด" และ "ฟาสต์ฟู้ด" ทุกชนิด, นมโค, อาหารที่มีแลคโตสและแป้งสาลีเป็นส่วนประกอบ โดยเน้นไปที่การรับประทาน สปาเกตตีผัก, ข้าวฟ่าง และข้าวต้มข้าวโอ๊ต เป็นส่วนใหญ่ในแผนการควบคุมอาหารแต่ละสัปดาห์ 

ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งคู่ยังจ้าง Sleeping Coach (ผู้ให้คำแนะนำเรื่องการนอนและพักผ่อน) อีกด้วย ซึ่งก็กำหนดพฤติกรรมที่ช่วยให้นอนหลับสนิทตลอดคืน ไม่ว่าจะเป็นการงดใช้อุปกรณ์ต่างๆ ที่ปล่อยแสงสีฟ้าในห้องนอน เช่น โทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์, การวางเครื่องหอมเพื่อความผ่อนคลายตามมุมพักผ่อนต่างๆ ภายในบ้านซึ่งตั้งอุณหภูมิไว้ไม่ให้อุ่นเกินกว่า 21 องศาเซลเซียส รวมถึงใช้ชุดเครื่องนอนพิเศษที่ช่วยให้หลับสบายด้วย