“ผี” เปลี่ยนไป

ใครเป็นสาวก “เรด เดวิลส์” ต้องรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังจากพรีเมียร์ลีก สโมสรอันเป็นที่รักได้อย่างแน่นอนโดยเฉพาะในช่วง 3-4 ปีหลังสุดกับ “ปิศาจแดง” ในฤดูกาลใหม่นี้

ใครยังนึกไม่ออกว่าสโมสรได้เปลี่ยนแปลงในทางไหน “มะระหวาน” ก็จะบอกกล่าวให้ฟังว่าสิ่งที่ “ผีแดง” เปลี่ยนไปนั้นก็คือการดำเนินการเกือบทุกเรื่องว่องไวไปหมด นับตั้งแต่ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวผู้ดี เข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรร่วมและทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องการบริหารทีมฟุตบอลทั้งระบบของยูไนเต็ด

โดยเฉพาะในตลาดซื้อขายนักเตะที่การเจรจานักเตะใหม่นั้นแทบจะไม่มียืดเยื้อเลย อยากได้ใครก็คุยปิดจ๊อบได้เกือบทั้งหมด แต่ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ในการบริหารงานของตระกูลเกลเซอร์นั้นกว่าจะตัดสินใจกันแต่ละขั้นตอนใช้เวลายืดเยื้อมากๆ เท่านั้นยังไม่พอบางครั้งก็ค่อนข้างขี้เหนียวไม่ยอมจ่ายเงินเพิ่มอีกนิดหน่อย จนบางครั้งนักเตะที่ต้องการหลุดมือไป

นับตั้งแต่เซอร์จิมก้าวเข้ามาบริหารทีมทุกอย่างก็ดูดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตัดสินใจให้เอริค เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ อยู่กับทีมต่อไปแถมยังต่อสัญญาเพิ่มไปอีก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีข่าวลือเล็ดลอดออกมาหนาหูว่า “ปิศาจแดง” เตรียมปลดนายใหญ่ชาวดัตช์ไม่ว่าจะได้แชมป์หรือไม่ได้แชมป์เอฟเอ คัพก็ตาม

แต่สุดท้ายบิ๊กบอสของอิเนออสก็ประชุมกับทีมงานและตัดสินใจให้เทน ฮาก อยู่กับทีมต่อไป เพราะมองจากเหตุที่ “ปิศาจแดง” ฟอร์มตกต่ำในฤดูกาล 2023-2024 จนหล่นมาจบอันดับ 8 ก็เพราะปัญหาอาการบาดเจ็บ ซึ่งตลอดซีซันที่ผ่านมาแข้ง ยูไนเต็ด เจ็บครบเกือบทุกคน แม้กระทั่ง บรูโน แฟร์นันเดส กัปตันทีมชาวโปรตุเกส ที่ว่าฟิตสุดๆ สุดท้ายก็เจ็บต้องพัก 2-3 วีกเช่นเดียวกัน

สำหรับ “มะระหวาน” การที่ “เซอร์จิม” ตัดสินใจแบบนี้ถือว่าสมเหตุสมผล เพราะเทน ฮาก เจอปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บจริง โดยเฉพาะแนวรับที่เจ็บเกือบทั้งหมด จนต้องส่งคาเซมิโร กองกลางชาวแซมบ้าลงมาเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟแทน ซึ่งการที่มีปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บมากมาย มันส่งผลต่อการจัดทัพและไม่สามารถอยู่ในฟอร์มที่ดีได้

สิ่งที่แสดงให้เห็นว่าปัญหาอาการบาดเจ็บมันส่งผลต่อฟอร์มการเล่นจริง ดูได้จากรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ในวันนั้น “ปิศาจแดง” ได้ผู้เล่นตัวหลักๆ กลับมาสู่ทีมจนครบ (ตำแหน่ง) ก็สามารถคืนฟอร์มเก่งด้วยการเอาชนะ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 2-1 คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาครองได้สำเร็จ

นั่นหมายความว่าหาก เอริค เทน ฮาก มีขุมกำลังในมือพร้อมและครบทุกตำแหน่งแล้วละก็ จะสามารถพา “ปิศาจแดง” สู้กับบรรดายักษ์ใหญ่ได้

อย่างแน่นอน และน่าจะทำได้ดีกว่าอันดับ 8 ด้วยซ้ำไป สุดท้าย “เซอร์จิม” ก็ได้ให้โอกาสอดีตกุนซืออาแจกซ์ได้พิสูจน์ตัวเองในถิ่นโอลด์แทรฟเฟิร์ดต่อไป

อีกเรื่องที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนก็คือการซื้อขายนักเตะที่แต่ก่อนกว่าจะได้นักเตะแต่ละคนก็ต้องลุ้นกันเหนื่อย แต่ในยุค “เซอร์จิม” รวดเร็วฉับไว และล่าสุดได้ 2 แข้งใหม่เข้ามาเสริมทัพเรียบร้อย

ไม่ว่าจะเป็นทางโจซัว เซิร์กเซ กองหน้าทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่ดึงตัวมาจากโบโลญญา และ เลนี โยโร ปราการหลังวัย 18 ปี ชาวฝรั่งเศส ที่ย้ายมาจากลีลล์ เรียกได้ว่าเป็นการคว้าตัวมาร่วมทีมได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญแทบจะไม่มีข่าวหลุดออกมาเลยว่า “ผีแดง” สนใจนักเตะคนไหน

ก่อนหน้านี้ตอนที่ตระกูลเกลเซอร์ทำทีมนั้น “ผีแดง” ตกเป็นข่าวกับนักเตะล่วงหน้าไป 1-2 วีก สุดท้ายก็ปิดดีลแทบจะไม่ได้หรือถ้าได้ก็ต้องยืดเยื้อแทบจะไปถึงวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายเลยทีเดียว แต่กลับกันในยุคของ “เซอร์จิม” ตอนนี้มีข่าวลือออกมาแค่วันเดียว “ปิศาจแดง” ก็ปิดจ๊อบได้ทันที

เรียกได้ว่าการมาของ “เซอร์จิม” มันเปลี่ยนแปลงทุกอย่างจริงๆ และมันเป็นไปในทาง ที่ดีอีกด้วย ดีไม่ดีปีนี้

“ปิศาจแดง” อาจจะมีเซอร์ไพรส์คว้าแชมป์ในถ้วยที่คุณไม่เคยคิดก็เป็นได้!!

มะระหวาน

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่