ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ศึกฟุตบอลยูโร 2024 สัปดาห์นี้เข้มข้นแน่ หลัง “ตราไก่” ฝรั่งเศส รองแชมป์โลกปี 2022 ดวลจุดโทษแม่นกว่าดับฝัน “โปรตุเกส” ทะลุผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ไปเจอกับ “กระทิงดุ” สเปน ที่โค่น “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี เจ้าภาพจัดการแข่งขันในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือเลือดน้ำหอม มั่นใจจะหักเขา “กระทิง” กรุยทางสู่รอบชิงชนะเลิศได้แน่ ขณะที่ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต กุนซือทีมชาติสเปน เชื่อทีมชุดนี้จะไปได้ไกลจนสุดทางเหมือนกัน เมื่อได้รับข่าวดี “ยูฟ่า” เคลียร์ชัด อัลวาโร โมราตา กองหน้ากัปตันทีมกระทิงดุ จะไม่โดนโทษแบนในเกมรอบตัดเชือก หลังเข้าใจผิดว่าโดนผู้ตัดสินแจกใบเหลืองจากเกมดังกล่าว ทำให้เจ้าตัวจะช่วยสเปนลงล่าตาข่าย “ตราไก่” ฝรั่งเศส ในเกมรอบรองชนะเลิศได้ตามปกติ
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ปี 2024 หรือ “ยูโร 2024” เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา “ตราไก่” ฝรั่งเศส รองแชมป์โลกปี 2022 ดวลจุดโทษเอาชนะ “ฝอยทอง” โปรตุเกส ไปได้ 5-3 หลังจากเสมอในเวลา 120 นาที 0-0 ผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปเจอกับ “กระทิงดุ” สเปน
หลังจบเกม ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือทีมชาติฝรั่งเศส สะใจที่พาทัพ “ตราไก่” ทะยานเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ โดยบอกว่า “มันเป็นเกมที่สูสีและตึงเครียดเป็นอย่างมาก เพราะผลพร้อมจะออกมาในทิศทางไหนก็ได้ ในช่วงท้ายเกมของช่วงต่อเวลาพิเศษเราต้องเจอกับงานที่ยากลำบาก และครองบอลได้น้อย แถมยังหมดแรงอีกด้วย มันเป็นเกมที่ตัดสินกันด้วยรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ผมมีความสุขกับนักเตะชุดนี้”
นอกจากนั้น “เดเด้” ก็โวลั่นพร้อมจะทุบ สเปน เพื่อที่จะทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกยูโร 2024 ให้ได้ “เราได้เดินหน้าเข้าสู่รอบรองชนะเลิศและเป็นสิ่งที่เราจะไม่มองข้ามมันไป แม้ว่าเราจะคุ้นเคยในการเล่นรอบนี้เมื่อเร็วๆ นี้ (รอบรองชนะเลิศศึกฟุตบอลโลก 2022) เราสนุกกับการเล่นในรอบตัดเชือกอยู่แล้วไม่ว่าจะเจอใคร แต่เราจะไปเพื่อชนะมัน (เพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ)”
ด้านโรแบร์โต มาร์ติเนซ กุนซือทีมชาติโปรตุเกส เปิดใจยอมรับลูกทีมของตัวเองจบสกอร์ไม่คมทั้งๆ ที่มีโอกาสเยอะมาก “เราเล่นได้ดีและมีโอกาสสร้างโอกาสทำประตูได้มากมาย ข้อผิดพลาดของเราคือบอลมันไม่เข้าประตูเท่านั้น เราแพ้ แต่ก็แพ้ด้วยความภูมิใจ เราทุ่มเททุกอย่าง เราเติบโตขึ้นมากจากประสบการณ์ครั้งนี้ ทั้งบุคลิกภาพ การสร้างโอกาส และวิธีที่เราโจมตีในพื้นที่สุดท้าย ด้วยฟอร์มแบบนี้เรามองไปถึงอนาคตได้อย่างภูมิใจ”
ขณะอีกคู่ “กระทิงดุ” สเปน ที่เหลือ 10 คน เฉือนเอาชนะ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ไปได้ 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษหลังจากเสมอในเวลา 90 นาที 1-1 โดยสเปนได้ประตูจากดานี โอลโม นาทีที่ 51 และมิเกลเมริโน นาทีที่ 119 ส่วนเจ้าภาพได้จากฟลอเรียน เวียร์ตซ์ นาทีที่ 89 จากชัยชนะในเกมนี้ทำให้ สเปนไปเจอกับ ฝรั่งเศส ในรอบตัดเชือก รอบรองชนะเลิศ
หลังจบเกม หลุยส์ เด ลา ฟวนเต กุนซือทีมชาติสเปน ชี้ชัยชนะเหนือ เยอรมนี เป็นค่ำคืนประวัติศาสตร์ พร้อมมั่นใจว่าชุดนี้ไปได้ไกลแน่นอน “มันเป็นค่ำคืนประวัติศาสตร์ ผมภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของประเทศของเรา เราจะไปได้ไกลแค่ไหน น่ะหรือ เราจะต้องรอดูกันต่อไป แต่ผมเชื่อมั่นเต็มที่ว่าเราจะไปได้ไกลที่สุด (คว้าแชมป์ยูโร 2024) ด้วยทีมชุดนี้ หลังจากนี้เราจะฟื้นตัวให้รวดเร็ว แต่ผมมั่นใจว่าทีมของผมพร้อมแน่ (รอบตัดเชือก) การเล่นของพวกเขาอยู่ในระดับสูงมากๆ”
ด้านฮูเลียน นาเกลส์มันน์ นายใหญ่เลือดเบียร์ ก็ออกมายืนยันทุกคนทำอย่างเต็มที่แล้ว “ผมบอกกับลูกทีมไปว่าเราไม่สมควรตกรอบ เราทุกคนต่างคิดถึงบ้านและครอบครัว แต่ไม่มีใครอยากจากที่นี่ไป เราทุ่มเททำทุกอย่างแล้วเพื่อที่จะชนะในเกมนี้ เราเล่นได้ดีกว่าชัดเจนมากโดยเฉพาะตั้งแต่นาทีที่ 60 และสมควรได้ประตูตีเสมอ แต่พวกเขามาได้ประตูชัยจากโอกาสสุดท้าย มันน่าผิดหวังที่เราไม่สามารถไปได้ไกลกว่านี้”
อย่างไรก็ตาม สเปน ในรอบรองชนะเลิศที่จะพบกับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส จะหมดสิทธิ์ใช้งาน 2 แข้งหลักอย่าง ดานี การ์บาฆัล และโรบิน เลอ นอร์ม็องด์ ที่ติดโทษแบนพร้อมกันทั้งหมด แต่ อัลวาโร โมราตา กองหน้ากัปตันทีม จะไม่โดนโทษแบนในเกมดังกล่าว หลังจากเกิดข้อผิดพลาดทางกราฟิก ว่ากองหน้าแอต.มาดริด โดนใบเหลืองในเกมชนะ เยอรมนี ทำให้เจ้าตัวสะสมใบเหลืองครบ 2 ใบ ทำให้ต้องโดนแบนหนึ่งนัด
แต่สุดท้ายทางสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ “ยูฟ่า” ออกมายืนยันว่า โมราตา ไม่ได้โดนใบเหลืองตามที่ปรากฏบนหน้าจอถ่ายทอดสด รวมถึงทางยูฟ่าได้มีการจัดการแก้ไขข้อมูลดังกล่าวทั้งหมด ทำให้ โมราตา กัปตันทีม “กระทิงดุ” จะลงเตะในรอบรองชนะเลิศที่พบกับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส เริ่มเตะในเวลา 02.00 น. วันที่ 10 ก.ค. ตามปกติ
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่