หน้าแรกแกลเลอรี่

ส่อง 6 คีย์แมนจาก 6 ทีมดังพรีเมียร์ลีก ระเบิดฟอร์มสุดเร่าร้อนใน "ยูโร 2024-โคปา อเมริกา"

ไทยรัฐออนไลน์

5 ก.ค. 2567 20:49 น.

ส่อง 6 นักเตะจาก 6 ทีมดังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ทำผลงานยอดเยี่ยม และถูกยกให้เป็นคีย์แมนคนสำคัญของชาติตัวเอง ในยูโร 2024 และโคปา อเมริกา 2024

โรดรี (แมนฯ ซิตี้ / ทีมชาติสเปน)

หัวใจแดนกลาง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ "โรดรี" หรือ โรดรีโก เอร์นานเดซ กาสกันเต อายุ 28 ปี เกิดเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 1996 ในกรุงมาดริด เข้าร่วมทีมเยาวชนของแอตเลติโก มาดริดในปี 2007 เมื่ออายุ 11 ปี

ปัจจุบันลงเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับให้กับสโมสร "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าตัวคว้าทุกความสำเร็จกับต้นสังกัด ไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 4 สมัย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย เอฟเอคัพ 1 สมัย คาราบาวคัพ 2 สมัย คอมมิวนิตีชิลด์ 1 สมัย ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 1 สมัย ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 1 สมัย สถิติของเขายามลงสนามให้กับ แมนฯ ซิตี้ไร้พ่าย 74 นัดตลอดระยะเวลา 474 วัน และเสียสถิติให้ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังแพ้เกมนัดชิง เอฟเอ คัพ

กับทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ยูฟ่าเนชันส์ลีกในปี 2022/23 "โรดรี้" ติดทีมชาติชุดเยาวชนเป็นครั้งแรกในปี 2012 ทีมชาติสเปน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี, 2015 ทีมชาติสเปน รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี, 2017 ทีมชาติสเปน อายุไม่เกิน 21 ปี และในปี 2018 เขามีโอกาสติดทีมชาติชุดใหญ่จนถึงปัจจุบัน "โรดรี้" ลงเล่นในนามทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้ว 51 นัด

"โรดรี้" เป็นกับตันทีมชาติสเปนในยุคของ "หลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต" อีกทั้งยังถือได้ว่าเป็นเด็กปั้นของ "หลุยส์" เพราะเขาเติบโตมาด้วยกันในทุกชุด ชาติของเขามีโอกาสในการล้มยักษ์อย่าง "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน ชาติเจ้าภาพ คว้าแชมป์ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 เมื่อล่าสุด ออปตา (OPTA) เว็บไซต์รวบรวมสถิติได้ใช้ ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ ในการทำนายผล ทีมชาติสเปนขึ้นเป็นเต็ง 1 โดยคะแนนอยู่ที่ 19.25 เปอร์เซ็นต์

โรดรี้เป็นนักเตะที่มีความแข็งแกร่งทางกายภาพและมีความสูง รูปร่างของเขาช่วยให้เขาชนะการเข้าสกัด และการท้าดวลกับผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม รวมถึงการดวลลูกกลางอากาศบ่อยครั้ง ตามข้อมูลจาก Squawka เขามีอัตราความสำเร็จในการเข้าสกัดผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามถึง 73% และในฤดูกาล 2022–23 เขาชนะการดวลลูกกลางอากาศทุกครั้ง เขามีค่าเฉลี่ยความแม่นยำในการส่งบอลอยู่ที่ 91-92%

โรดรี้ยังเป็นที่รู้จักในด้านความอเนกประสงค์ และความเฉลียวฉลาดทางแท็กติก เขามีบทบาทสำคัญในการช่วยสร้างเกมให้กับทีมของเขา บ่อยครั้งที่เขาถูกใช้เป็นกองกลางตัวรับ ซึ่งบทบาทหลักของเขาคือการดึงบอลกลับมาในแดนกลางและแจกจ่ายบอลเพื่อเริ่มการโต้กลับ ความสามารถในการครองบอลภายใต้ความกดดันช่วยให้เขาสามารถทำหน้าที่นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นักวิจารณ์หลายคนในปัจจุบันถือว่าโรดรี้เป็นหนึ่งในกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอล ในเดือนมกราคม 2024 สมาชิกทีม "ESPN" ได้กล่าวว่าโรดรี้อาจเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกในขณะนี้ในเดือนมีนาคม 2024

นายใหญ่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ "เป๊ป กวาร์ดิโอลา" ได้กล่าวว่าเขาเป็น "ผู้เล่นกองกลางที่ดีที่สุดในโลกในปัจจุบัน" ในเดือนเดียวกัน "The New York Times" ได้จัดอันดับให้เขาเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก ขณะที่อดีตกองหลัง "ริโอ เฟอร์ดินานด์" เชื่อว่าโรดรี้อาจเป็นกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของลีกแล้ว

ไค ฮาเวิร์ตซ์ (อาร์เซนอล / ทีมชาติเยอรมนี)

ดาวยิงประจำทีม "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล "ไค ฮาเวิร์ตซ์" หรือ ไค ลูคัส ฮาเวิร์ตซ์ อายุ 25 เกิด 11 มิถุนายน ค.ศ. 1999 ฮาเวิร์ตซ์ เกิดที่อาเคินในเยอรมนี เขามีประสบการณ์การเล่นฟุตบอลครั้งแรกเมื่ออายุ 4 ขวบ โดยเข้าร่วมทีมเยาวชนของอาเลมันนีอา มารีอาดอร์ฟ ซึ่งปู่ของเขา ริชาร์ด เป็นประธานสโมสร ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกและกองหน้าตัวต่ำให้กับอาร์เซนอล และทีมชาติเยอรมนี

เขาเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในบุนเดสลีกา เมื่อได้ลงเล่นให้กับเลเวอร์คูเซนครั้งแรกในปี 2016 และในปีถัดมา เขากลายเป็นผู้ทำประตูอายุน้อยที่สุดของสโมสร เขายังเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นครบ 50 และ 100 นัดบนลีกสูงสุดของเยอรมนี เขาได้รองแชมป์เดเอฟเบ-โพคาล ในปี 2019/20 ก่อนจะย้ายมาคว้าความสำเร็จกับ "เชลซี"

บ่อยครั้งที่ "ไค ฮาเวิร์ตซ์" ถูกจับไปเล่นในตำแหน่งที่ตัวเองไม่ถนัดเพียงเพราะโค้ชต้องการใช้งานเขาในตำแหน่งอื่น แต่หารู้ไม่ตำแหน่งที่คุณปู่เขาคอยฟูมฟักตั้งแต่อายุ 4 ขวบนั่นคือ หน้าต่ำ ถึงจะไม่ได้เล่นในตำแหน่งที่ถนัดแต่เขาก็สามารถคว้าความสำเร็จได้มากมายกับเชลซี ในช่วงเวลาคับขัน หรือต้องการผลการแข่งขัน

"ฮาเวิร์ตซ์" มักจะสร้างความมหัศจรรย์ได้เสมออย่างในนัดชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2020/21 เขาก็เป็นคนยิงประตูชัยให้ทีมคว้าแชมป์ และถ้วยอื่นๆ อย่าง เอฟเอคัพ 2 สมัย คาราบาวคัพ 1 สมัย ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 1 สมัย และฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 1 สมัย ก่อนจะย้ายมาร่วมทัพ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล

ถึงคราวอำลาจำจากพรากทีมรัก หอบเสื่อหมอนและมุ้ง มุ่งหน้าสู่ สังกัดปืนโต ด้วยค่าตัว 65 ล้านปอนด์ ในถิ่นเอมิเรตส์เขาดูเหมือนจะเข้าร่องเข้ารอยกว่า เพราะได้อยู่แต่ในบริเวณที่ตัวเองถนัด อยู่หลังกองหน้าคอยปั้นเกมร่วมกับ "โอเดการ์ด"

แถมยังมีลูกยิงไกลที่ยอดเยี่ยมอีกด้วยเมื่อตัวเองมีอิสระในการเล่น การสอดเข้าไปในกรอบเขตโทษโดยวิ่งในแนวดิ่งทำให้มีโอกาสทำประตูเฉลี่ย (xG) 0.2 เลยทีเดียว นั่นเป็นเหตุที่ทำให้เขาพาทีมคว้าเอฟเอคอมมูนิตี ชิลด์ ปี 2023 และลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2 ฤดูกาลติดต่อกัน

โคดี กัคโป (ลิเวอร์พูล / ทีมชาติเนเธอร์แลนด์)

หัวหอกจอมเลื้อยจาก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล "โคดี กัคโป" หรือ โคดี มาแต็ส กัคโป (Cody Mathès Gakpo) อายุ 25 ปี เกิดวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1999 กัคโปเกิดที่ไอนด์โฮเวน และเติบโตในเขตสตราตึม พ่อของเขาเกิดที่ประเทศโตโก และมีเชื้อสายกานา ส่วนแม่เป็นชาวดัตช์

ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองหน้าให้กับลิเวอร์พูล และทีมชาติเนเธอร์แลนด์ แต่เขายังสามารถเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายได้อีกด้วย จากที่เราเห็นฟอร์มการเล่นของเขาในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 เขามักจะถ่างตัวออกมาริมเส้นเพื่อทำเกมเสมอ

"โคดี กัคโป" ได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของทีม "พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน" จนถูกดันมาขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2018 ก่อนที่จะระเบิดฟอร์มแกร่งในฤดูกาล 2021/2022 และคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการทำประตู 21 ลูก จากการลงสนาม 47 เกมรวมทุกรายการ สุดท้ายโดน หงส์แดง ลิเวอร์พูลสอยตัวไปร่วมทัพ ในราคาสุดถูก 37 ล้านปอนด์

วันที่ 28 ธันวาคม 2022 กัคโปเซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมลิเวอร์พูลก่อนเปิดตลาดซื้อขายนักเตะในวันที่ 1 มกราคม 2023 ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของ เจอร์เกน คล็อปป์ หรือลิเวอร์พูล 2.2 กัคโปถูกทดลองในหลายตำแหน่งไม่ว่าจะเป็น หน้าเป้า ตัวรุกริมเส้นฝั่งซ้าย แม้กระทั่งกองกลาง (CMF)

ช่วงแรกฟอร์มของเขาไม่น่าประทับใจนักเนื่องจากว่าหาความลงตัวยังไม่เจอ บางครั้งก็ถูกจับไปเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัดเนื่องจากสถานการณ์บังคับ เจ้าตัวเคยพูดคุยกับ JK อยู่บ่อยครั้งในเรื่องของตำแหน่งการเล่น

ทว่านายใหญ่ชาวเยอรมันหาได้ผลักดันเขาให้เล่นปีกซ้ายไม่ เพราะทางฝั่งซ้ายมีตัวลากเลื้อยที่น่าไว้วางใจอย่าง "หลุยส์ ดีอาซ" ตัวลากลุยชาวโคลอมเบียอยู่แล้ว นั่นเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ฟอร์มของเขากับต้นสังกัดไม่สู้ดีนัก แต่เจ้าตัวก็เป็นส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าความสำเร็จ นั่นคือ แชมป์คาราบาวคัพ

กลับกันในนามทีมชาติเขาสามารถสร้างสีสันให้กับโลกฟุตบอลได้เชยชม ทั้งลูกยิงที่เฉียบคม และการลากเลื้อยเอาชนะคู่ต่อสู้ ความสามารถในกรอบเขตโทษก็ใช่ย่อย ในเวลาปัจจุบันเขาเป็นคนที่ชาติของตัวเองไม่สามารถขาดได้เลย เพราะเป็นตัวผลิตสกอร์อย่างแท้จริง

"โคดี กัคโป" ลงเล่นให้ทีมชาติในตำแหน่งตัวรุกริมเส้นฝั่งซ้าย ในระบบ 4-2-3-1 ลงเล่นในศึกโคปาอเมริกา 2024 ไปแล้ว 4 นัด ซัดไป 3 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ ส่วนในฟุตบอลโลก 2022 ลงเล่น 5 นัด และยิงได้ถึง 3 ประตูเลยทีเดียว ถึงแม้จะเล่นในระบบหน้าคู่

โคล พาลเมอร์ (เชลซี / ทีมชาติอังกฤษ)

เดอะหนาวเหน็บ จากค่าย "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี "โคล พาลเมอร์" หรือ โคล เจอร์เมน พาลเมอร์ (Cole Jermaine Palmer )อายุ 22 ปี เกิด 6 พฤษภาคม 2002 ที่วิเดนชอว์ และได้เข้าร่วมทีมเยาวชนรุ่นอยู่ไม่เกิน 8 ปีของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขาลงเล่นให้ทีมเยาวชนหลายรุ่น

ก่อนที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีในฤดูกาล 2019/20 เจ้าตัวพยายามสอดแทรกตัวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ และขวนขวายโอกาสในการลงเล่นให้กับตัวเองเป็นเวลาหลายปี แต่ก็ไม่สามารถเป็นที่ไว้วางใจของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ในการยึดตำแหน่งตัวหลักของทีมได้

"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จึงตัดสินใจขาย "โคล พาลเมอร์" ให้กับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เพื่อโอกาสในการลงสนาม และการพัฒนาฝีเท้าของเจ้าตัวด้วย "โคล พาลเมอร์" ได้เปิดเผยว่า "ในสถานการณ์แบบนี้ถือว่าวินทุกฝ่าย ผมได้โอกาสลงสนาม ซิตี้ได้เงิน ส่วนเชลซีได้ผู้เล่นคนใหม่ มันแฟร์กับทุกฝ่ายนะ"

"โคล พาลเมอร์" ย้ายซบ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ด้วยค่าตัว 47 ล้านยูโร มีสัญญายาวถึงปี 2030 สวมเสื้อหมายเลข 20 ลงเล่นในตำแหน่งกองกลาง และตัวรุกฝั่งขวา อย่างที่ทุกคนทราบดีว่า เชลซี ในฤดูกาล 2023/24 มีผลงานที่น่าผิดหวังเป็นอย่างมาก ไม่มีการลงสนามนัดไหนเลยที่แฟน สิงห์บลูส์ ไว้วางใจได้

เกมรุกไม่สามารถผลิตสกอร์ได้ แดนกลางก็พึ่งพาไม่ได้ ถ่ายบอลไปมา แนวรับยิ่งแล้วใหญ่ แต่ในช่วงที่ทีมผลงานกระท่อนกระแท่นมีบุรุษผู้หนึ่งนามว่า "โคล พาลเมอร์" กลับฉายแววเด่นยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ แอสซิสต์อีกเพียบ

จนทำให้เชลซีมีผลงานที่ดีดตัวจากครึ่งล่างตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกจบอันดับที่ 6 อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ด้วยความที่ "พาลเมอร์" มีทักษะการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม เขาสามารถเอาชนะกองหลังด้วยความคล่องแคล่ว เทคนิคการเล่นขั้นสูง การจบสกอร์ที่เฉียบคม รวมถึงการสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้เป็นกอบเป็นกำ ส่งผลให้เจ้าตัวคว้ารางวัล นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2023/2024

"โคล พาลเมอร์" ในนามทีมชาติ เคยลงเล่นให้แก่ชาติอังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี 2019 ในปี 2021"พาลเมอร์" ถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีเป็นครั้งแรก เขาทำประตูแรกในนามชาติชุดนี้ด้วยการเลี้ยงเดี่ยว ช่วยให้ทีมเอาชนะโคโซโว 2-0 ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี (2023)

ล่าสุดเจ้าตัวถูก "แกเร็ธ เซาธ์เกต" นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกด้วย แม้ว่าจะได้ลงสนามเพียง 2 นัด แต่เจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้หัวใจแฟนบอลสิงโตคำรามกระชุ่มกระชวย ในแผนการเล่นที่ตื้อตัน ระบบการเล่นที่ห่วยแตกของ "แกเร็ธ เซาธ์เกต" และความไม่กล้าเสี่ยง ทำให้เด็กที่มีของอย่าง "โคล พาลเมอร์" ไม่ได้โชว์สักที และแฟนบอลทั่วโลกก็ต่างหวังว่าจะให้เจ้าหนุ่มรายนี้ออกสตาร์ทตัวจริงได้เสียที

โรดริโก เบนตันกูร์ (สเปอร์ส / ทีมชาติอุรุกวัย)

สุดยอดตัวตัดเกมจาก "ไก่เดือยทอง" ทอตแนม ฮอตสเปอร์ "โรดริโก เบนตันกูร์" หรือ โรดริโก เบนตันกูร์ โคลมัน (Rodrigo Bentancur Colmán) อายุ 27 ปี เกิด 5 กรกฎาคม 1997 ที่เมืองนูเอบาเอลเบเซีย ประเทศอุรุกวัย เริ่มต้นเล่นฟุตบอลครั้งแรกก็คือสโมสรเยาวชนของ "โบคา จูเนียร์ส" ในช่วงซัมเมอร์ของปี 2017 ได้ตัดสินใจย้ายออกจากทีมด้วยการเซ็นสัญญาร่วมงานกับ ยูเวนตุส

เขาสร้างผลงานส่วนตัวที่ดีจนเข้าตาแมวมองของ "ไก่เดือยทอง" ทอตแนม ฮอตสเปอร์ และในท้ายที่สุดก็ได้ย้ายมาร่วมทีม ในช่วงแรกก็ยังปรับตัวไม่ได้แต่พอทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอยเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงขั้นยึดตัวจริงของ "ไก่เดือยทอง" ทอตแนม ฮอตสเปอร์ และทีมชาติอุรุกวัย

ในทีมชาติเขาถือว่าเริ่มเล่นช้าเนื่องจากว่ามีช่วงที่ฟอร์มการเล่นไม่ดี และอาการบาดเจ็บลักพาตัวไปหลายหน รวมถึงพฤติกรรมนอกสนามที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก โดยในปี 2017 ติดทีมชาติอุรุกวัยเป็นครั้งแรก เล่นรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี เพียง 14 นัด ก็ถูกดันขึ้นชุดใหญ่ทันทีในปีเดียวกัน ปัจจุบันเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่แล้วทั้งสิ้น 46 รวมทุกรายการ

ในแผงกองกลางของทีมชาติอุรุอกวัยเขาถือว่าเป็นคีย์แมนคนสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยตอนนี้ การตัดเกม เข้าปะทะ หรือสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีมก็ถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม แม้กระทั่งการวางบอลแนวลึกที่เราจะสามารถเห็นได้อยู่เสมอจาก "เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์" เราก็ได้เห็นจากเขาอยู่บ่อยครั้งในพาร์ทของทีมชาติ

ค็อบบี เมนู (แมนยูฯ / ทีมชาติอังกฤษ)

เด็กระเบิดจาก "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด "ค็อบบี เมนู" หรือ ค็อบบี บัวเต็ง เมนู (Kobbie Boateng Mainoo) อายุ 19 ปี เกิด 19 เมษายน 2005 เกิดที่ สต็อกพอร์ต ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงเล่นในระดับสโมสร 33 นัดในฤดูกาลนี้ 5 ประตู 1 แอสซิสต์

นี่คือหนึ่งในนักเตะอะคาเดมีจาก "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่น่าจะฉายแววเก่งในรอบหลายปี ฟอร์มร้อนแรงมาตั้งแต่พรีซีซั่น แต่น่าเสียดายที่โดยอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าเล่นงานช่วงต้นฤดูกาล

แต่พอกลับมา "เมนู" ก็ใช้เวลาไม่นานในการยึดตำแหน่งตัวจริงในแดนกลาง ระเบิดฟอร์มเก่งจนถูก "แกเร็ธ เซาธ์เกต" เรียกติดทีมชาติ แม้ในยูโร 2024 ครั้งนี้เขาอาจจะยังไม่ได้เป็นตัวหลัก เนื่องจากมีผู้เล่นระดับท็อปขวางทางอยู่

ทว่าอย่างที่แฟนบอลเห็นเจ้าหนูคนนี้เล่นต่างก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ควรให้ลงเป็นตัวจริงทุกนัด เนื่องจากว่า มีความครบเครื่อง คล่องตัว ไปกับบอลได้ดี กล้าเล่น และลงตัวที่สุดในบรรดาผู้เล่นแดนกลางของทีมชาติอังกฤษ

"เมนู" มีส่วนในการเล่นเกมรุกของ ทีมชาติอังกฤษ มากกว่า "คอเนอร์ กัลลาเกอร์" และ "เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์" หน้าที่ของเขาต่างจาก กัปตัน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่คอยรับส่งบอล แปะไปมา อย่างชัดเจน กล่าวคือ เขาพาบอลขึ้นหน้าเพื่อทำเกมให้กับเพื่อนร่วมทีมได้ อย่างในเกมล่าสุดที่มีมชาติอังกฤษ เอาชนะทีมชาติสโลวาเกีย 2-1 มีจังหวะที่ลากบอลเข้าในกรอบเขตโทษหวังสับไกทำประตูแต่โดนสอยร่วงเสียก่อน

สถิติในเกมกับทีมชาติสโลวาเกีย หาโอกาสยิงไกล 2 ครั้ง, สร้างสรรค์โอกาส 1 ครั้ง, เอาชนะลูกกลางอากาศ 1 ครั้ง, เลี้ยงบอลสำเร็จ 1 ครั้ง, เรียกฟาล์วสำเร็จ 1 ครั้ง, เข้าปะทะสำเร็จ 1 ครั้ง และผ่านบอลแม่นยำถึง 95.6 เปอร์เซ็นต์