“ตราไก่” จัดหนัก ฟัดออสเตรีย เบลเยียมเด็ด เจอสโลวะเกีย

ศึกลูกหนัง “ยูโร 2024” รอบแรกวันนี้ (17 มิ.ย.) “ตราไก่” ฝรั่งเศส รองแชมป์โลกปี 2022 และเต็งแชมป์ในปีนี้จะออกสตาร์ตในกลุ่มดี พบกับออสเตรีย เกมนี้ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือเลือดน้ำหอมสภาพทีมค่อนข้างพร้อม หลังนักเตะกลับมาฟิตอีกครั้ง จัดทัพแบบจัดเต็มจัดหนักวางคิเลียน เอ็มบัปเป กัปตันทีมผนึกกำลังอองตวน กรีซมันน์ กับ อุสมาน เดมเบเล ล่าตาข่าย ขณะที่ราล์ฟ รังนิก เทรนเนอร์ออสเตรียจัดชุดที่ดีที่สุดเข้าสู้มีมาร์เซล ซาบิตเซอร์ และมาร์โก อเนาโตวิช เป็นตัวทีเด็ด คู่นี้ฟาดแข้งกันเวลา 02.00 น. ขณะที่กลุ่มอี “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม เจอกับ “สโลวัก” สโลวะเกีย ในนัดเปิดหัวของกลุ่ม ต้องได้ 3 แต้มสถานเดียว ส่งผลให้โดมินิค เตเดสโก กุนซือเบลเยียมจัดชุดใหญ่ส่งโรเมลู ลูกากู เควิน เดอ บรอยน์ และเลอันโดร ทรอสซาร์ ผนึกกำลังล่าตาข่าย เกมนี้ฟาดแข้งเวลา 23.00 น. ส่วนอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน “ผีดิบ” โรมาเนีย เจอกับ “ฟ้า-เหลือง” ยูเครน ทั้งสองทีมต้องใส่กันยับเพราะใครเก็บชัยชนะโอกาสเข้ารอบค่อนข้างสูง คู่นี้เริ่มคิกออฟ 20.00 น. ทั้ง 3 คู่ ช่องพีพีทีวีและทรูวิชั่นส์ ช่อง 603 ถ่ายทอดสด

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2024 หรือ “ยูโร 2024” ที่ประเทศเยอรมนี รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ วันนี้ (17 มิ.ย.) คู่เอกอยู่ในกลุ่มดี ออสเตรียพบกับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส รองแชมป์โลกปี 2022 คู่นี้ฟาดแข้งกันที่เมอร์คูร์ สเปล-อารีนา เมืองดุสเซลดอร์ฟ คิกออฟเวลา 02.00 น. ช่องพีพีทีวี และทรูวิชั่นส์ช่อง 603 ถ่ายทอดสด

ราล์ฟ รังนิก เทรนเนอร์ทีมชาติออสเตรีย สภาพทีมไม่มีปัญหาจัดทัพขุมกำลังตัวหลักๆพร้อมหน้า ลงเล่นในระบบ 4-3-3 ผู้รักษาประตูยังวางใจมือเก๋าอย่างไฮนซ์ ลินด์เนอร์ วัย 37 ปี ลงเฝ้าเสาเป็นมือ 1 แนวรับวางมักซิมิเลียน โวเบอร์ และเควิน ดันโซ ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ สเตฟาน พอชและอเล็กซานเดอร์ เพราส์ รับหน้าที่แบ็กขวาและซ้าย ฟลอเรียน กริลลิตซ์ กับคอนลาร์ด ไลเมอร์ คุมเกมกลางสนาม มาร์เซล ซาบิตเซอร์ กัปตันทีมผนึกกำลังคริสโตฟ เบาการ์ทเนอร์ และพาทริก วิมเมอร์ ปั้นเกมรุก แดนหน้าวางมาร์โก อาร์เนาโตวิช กองหน้าดาวซัลโวของทีมลงยืนหน้าเป้า

ส่วนฝรั่งเศส ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือยิ้มรับข่าวดีทุกอย่างกลับมาเป็นปกติแล้ว หลังจากโดนไวรัสเล่นงานทั้งทีม ทำให้เกมนี้จัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงวาดลวดลายได้แบบไม่มีปัญหา ลงเล่นในระบบ 3-4- 2-1 ผู้รักษาประตู ไมค์ เมนญอง ลงเฝ้าเสา แนวรับ วางฌูลล์ กุนเด อิบราฮิมา โกนาเต และดาโยต์ อูปาเมกาโน ยืนเป็น 3 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เบนจามิน ปาวาร์ และเตโอ เฟร์นานเดซ รับหน้าที่วิงแบ็กขวาและซ้าย แผงมิดฟิลด์ เอ็นโกโล ก็องเต กับเอดูอาร์โด กามาวิงกา คุมจังหวะเกมกลางสนาม อองตวน กรีซมันน์ และอุสมาน เดมเบเล ปั้นเกมรุก แดนหน้า คีเลียน เอ็มบัปเป ดาวยิงกัปตันทีมฟิตกลับมาลงล่าตาข่ายได้เหมือนเดิม

ฝรั่งเศสเหนือกว่าพอสมควรสำหรับในเกมนี้ แม้ว่าเพิ่งจะเจอปัญหาเชื้อไวรัสเล่นงานจนแข้งป่วยไปหลายคน รูปเกมจะเป็นฝ่ายเดินเกมรุกกดดันเข้าใส่ออสเตรียตั้งแต่ตั้นเกม แม้ว่าราล์ฟ รังนิก จะวางแผนมาเล่นอย่างรัดกุม อาศัยจังหวะโต้กลับเร็วของอาร์นาโตวิช ซาบิตเซอร์ และเบาการ์ทเนอร์ คอยป่วนแนวรับรองแชมป์โลก แต่อย่างไรก็ตามไม่น่าจะทำให้แนวรับ “ตราไก่” ระคายเคืองก่อนจะเป็นแข้งเมืองน้ำหอมที่มีจังหวะเข้าทำค่อนข้างจัดจ้านและเด็ดขาดของทั้งเอ็มบัปเป เดมเบเล และกรีซมันน์ รวมถึงดาวเตะในม้านั่งสำรองอย่างโอลิวิเยร์ ชิรูด์ ร็องดาล โคโล มูอานี และมาร์คัส ตูราม จะช่วยกันยิงพา “เลอ เบลอส์” ต้อนเอาชนะไปได้แบบไม่ยาก

ด้านกลุ่มอี “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม พบกับ “สโลวัก” สโลวะเกีย คู่นี้ฟาดแข้งกันที่วัลด์สตาดิโอน เมืองแฟรงก์เฟิร์ต เริ่มเตะเวลา 23.00 น. ช่องพีพีทีวี และทรูวิชั่นส์ ช่อง 603 ถ่ายทอดสด

โดมินิค เตเดสโก เทรนเนอร์ทีมชาติเบลเยียม ต้องเช็กอาการของโธมัส มูนิเยอร์ กองหลังตัวเก่ง หลังได้รับบาดเจ็บจากเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้าย หากไม่พร้อมจะเปิดทางให้แยน แฟร์ตองเกน แนวรับตัวเก๋ามีโอกาสคุมเกมร่วมกับเวส์ ฟาเอส และอักเซล วิตเซล เป็น 3 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ส่วนตำแหน่งอื่นๆอยู่กันพร้อม ยูรี ติเลมันส์ จะผนึกกำลังทิโมธี กาสตาญ อมาดู โอนานา และเฌเรมี โดกู ขับเคลื่อนเกมกลางสนาม โดยมีเควิน เดอ บรอยน์ กัปตันทีมผนึกกำลังเลอันโดร ทรอสซาร์ ปั้นเกมรุก แดนหน้าวาง โรเมลู ลูกากู กองหน้าร่างยักษ์ลงล่าตาข่าย

ส่วนสโลวะเกีย ฟรานเชสโก คัลโซนา เฮดโค้ชชาวอิตาเลียน ไม่มีปัญหาการจัดทัพ เกมนี้จะลงเล่นในระบบ 4-3-3 แนวรับวางมิลาน สคริเนียร์ บัญชาการแผงหลังร่วมกับปีเตอร์ เพคาริค เดนนิส วาฟโร และดาวิด ฮัคโก แดนกลาง ยูราย คุชกา คุมจังหวะเกมร่วมกับอองเดรจ์ ดูดา และสตานิสลาฟ โลบอตกา แดนหน้าวางอิวาน ชรานซ์ โรเบิร์ต โบเซนิค และลูกัส ฮาราสลิน ยืนเป็น 3 ประสานล่าตาข่าย

เบลเยียมเหนือกว่าอยู่หลายช่วงตัวเลยทีเดียวในเกมนี้ จะเป็นฝ่ายเดินเกมรุกกดดันเข้าใส่สโลวะเกียตั้งแต่ต้นเกม แม้ว่าแข้งสโลวักจะวางแผนมาเน้นรับและโต้กลับ แต่ศักยภาพยังห่างกันมากเกินไป จะเป็น “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” ที่ครองเกมเอาไว้ได้หมด ก่อนอาศัยจังหวะเข้าทำที่เฉียบคมของโรเมลู ลูกากู เควิน เดอ บรอยน์ และเลอันโดร ทรอสซาร์ ผลัดกันยิงจนพาทีมเก็บ 3 แต้มประเดิมศึกยูโรครั้งนี้ได้แบบไม่ยากเย็น

อีกคู่กลุ่มอี “ผีดิบ” โรมาเนีย จะดวลกับ “ฟ้า-เหลือง” ยูเครน คู่นี้ฟาดแข้งกันที่อัลลิอันซ์ อารีนา เมืองมิวนิก เริ่มเตะเวลา 20.00 น. ช่องพีพีทีวี และทรูวิชั่นส์ช่อง 603 ถ่ายทอดสด

เอ็ดเวิร์ด ลอร์ดาเนสคู เทรนเนอร์ชาวโรมาเนีย สภาพทีมพร้อมสุดๆ เกมนี้จะจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงวาดลวดลาย ลงเล่นในระบบ 4-1-4-1 แนวรับวาง ราดู ดรากูชิน และบ็อกดาน ราโควิยาน ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ อาเดรียน ชุต รับบทกองกลางตัวรับปักหลักตัดเกม นิโคเล สแตนซิอู กองกลางกัปตันทีมขับเคลื่อนเกมร่วมกับราซาน มาริน อเล็กซานดรู ซิคัลดาอู และลานิส ฮาจี แดนหน้าวางจอร์จอร์จ พุสกัส กองหน้าจากบารีลงยืนหน้าเป้า

เซอร์เก เรบรอฟ เฮดโค้ชทีมชาติยูเครน ไม่มีปัญหานักเตะเจ็บจากเกมอุ่นเครื่อง ลงเล่นในระบบ 5-4-1 แนวรับวางโอเล็กซานเดอร์ สวาต็อค อิลยา ซาบาร์นี และมีโคลา มัตวิเยนโก ยืนเป็น 3 เซ็นเตอร์ ฮาล์ฟ ยูคิม โคโนเพลีย กับวิตาลี มิโคเลนโก รับหน้าที่แบ็กขวาและซ้าย มิไคโล มูดริค ปีกตัวเก่งจากเชลซี ผนึกกำลังรุสลัน มาลินอฟสกี อันเดร ยาร์โมเลนโก และตาราส สเตฟาเนนโก ขับเคลื่อนเกมกลางสนาม แดนหน้าวางอาร์เตม โดฟบิค กองหน้าฟอร์มร้อนจากกิโรนาออกสตาร์ตตัวจริง

คู่นี้ค่อนข้างสูสีกันมากเลยทีเดียว สำหรับศักยภาพ ของคู่นี้ โรมาเนียห่างหายจากทัวร์นาเมนต์ใหญ่มา 8 ปี ทำให้นัดนี้ตั้งเป้าจะเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อเรียกความมั่นใจ แต่ก็ไม่ง่ายเมื่อยูเครนขุมกำลังแข็งแกร่งพอตัว แถมยังมีเกมรุกที่ค่อนข้างวูบวาบและน่ากลัวทั้งมิไคโล มูดริค อาร์เตม โดฟบิค และรุสลัน มาลิ นอฟสกี น่าสร้างปัญหาให้กับแนวรับ “ผีดิบ” ได้ตลอดทั้งเกมแน่นอน รูปเกมทั้งสองทีมจะใส่กันยับแน่ เพราะถ้าใครเก็บ 3 แต้มได้มีโอกาสเข้ารอบน็อกเอาต์ค่อนข้างสูง ทำให้จะออกมาคู่คี่สูสี แต่ก็เพียงแค่ช่วงแรกๆเท่านั้น แต่สุดท้ายจะเป็นทางยูเครนที่จะเป็นฝ่ายคุมเกมเอาไว้ได้หมด ก่อนบดเอาชนะไปในท้ายที่สุด

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่