ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ศึกลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป “ยูโร 2024” เปิดฉากฟาดแข้งวันแรกคืนนี้ กลุ่มเอ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี เจ้าภาพและแชมป์รายการนี้ 3 สมัย พบกับ “วิสกี้” สกอตแลนด์ ที่สังเวียนอันลิอันซ์ อารีนา “ยูฟ่า” จัดพิธีรำลึกถึงฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ ตำนานนักเตะทีมชาติเยอรมนี ที่ลาลับไปเมื่อไม่นานมานี้ ในพิธีเปิดการแข่งขันก่อนเกมเปิดฉาก และยังเลือกเกลม็องต์ ตูร์กแป็ง กรรมการชาวฝรั่งเศส ทำหน้าที่ตัดสินเกมนัดดังกล่าว ด้านความพร้อมของทั้งสองทีม ฮูเลียน นาเกลส์มันน์ กุนซือแข้งเบียร์เซ็งนิดหน่อยเมื่ออเล็กซานดาร์ พาฟโลวิช กองกลางดาวรุ่งต้องถอนตัวไปหมาดๆแต่คนอื่นยังอยู่พร้อมหน้า มีโทนี โครส กองกลางตัวเก๋าบัญชาเกม แนวรุกวาง ไค ฮาเวิร์ตซ์ ฟลอเรียน เวียทซ์ และจามาล มูเซียลา ผนึกกำลังล่าตาข่าย ขณะที่สตีฟ คลาร์ก กุนซือเลือดวิสกี้ของสกอตแลนด์ก็จัดหนักเช่นกัน มีสกอตต์ แม็คโทมิเนย์ จอห์น แม็คกินน์ เช อดัมส์ เป็นตัวทีเด็ด คู่นี้เริ่มคิกออฟเวลา 02.00 น. ช่องพีพีทีวี และทรูวิชั่นส์ 603 ถ่ายทอดสด
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ปี 2024 หรือ “ยูโร 2024” ที่ประเทศเยอรมนี วันที่ 14 มิ.ย. จะเป็นเกมนัดเปิดสนาม กลุ่มเอ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี เจ้าภาพและแชมป์รายการนี้ 3 สมัย จะพบกับ “วิสกี้” สกอตแลนด์ คู่นี้จะฟาดแข้งกันที่ อันลิอันซ์ อารีนา เมืองมิวนิก เริ่มเตะเวลา 02.00 น. ช่องพีพีทีวี และทรูวิชันส์ 603 ถ่ายทอดสด
สำหรับพิธีเปิดการแข่งขัน สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ “ยูฟ่า” จัดพิธีรำลึกถึง ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ ตำนานนักเตะทีมชาติเยอรมนีที่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อเดือน ม.ค.67 ด้วยวัย 78 ปี โดยเจ้าของฉายา “ไกเซอร์ฟรานซ์” เคยเล่นให้กับเยอรมันตะวันตก ระหว่างปี 1965-1977 เคยคว้าแชมป์ยูโรร่วมกับทัพ “อินทรีเหล็ก” ปี 1972 ในฐานะกัปตันทีมเบคเคนบาวเออร์ยังพาทีมชาติเยอรมนี คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1974 มาครองและในปี 1990 ในฐานะกุนซืออีกด้วย
ทั้งนี้ “ยูฟ่า” ได้เชิญ “เฮดี เบคเคนบาวเออร์” ภรรยาของ “ไกเซอร์ฟรานซ์” เป็นคนนำถ้วยแชมป์ยูโร หรือถ้วย “อองรี เดอ โลเนย์” เข้าสู่สนามร่วมกับ แบร์กนาร์ด ดีตซ์ และเจอร์เก้น คลินส์มันน์ อดีต 2 ยอดดาวเตะชาวเยอรมันในนัดเปิดสนามเป็นการสื่อว่ามีตัวแทนจากแข้ง “อินทรีเหล็ก” ชุดแชมป์ยูโร 3 ครั้ง ก่อนหน้านี้มาร่วมพิธีทั้งหมด โดยดีตซ์ เคยได้แชมป์ปี 1980 และคลินส์มันน์เคยได้แชมป์ในปี 1996 นอกจากนั้นยูฟ่าได้ประกาศให้ เกลม็องต์ ตูร์กแป็ง ผู้ตัดสินชาวฝรั่งเศส ลงทำหน้าที่ตัดสินศึกยูโร 2024 นัดเปิดสนามในเกมที่เยอรมนีเจ้าภาพ พบกับสกอตแลนด์ ในวันที่ 14 มิ.ย. ขณะที่นิโกลาส์ ดาโน และเบนจามิน ปาเก ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้ตัดสิน ส่วนเฌโรม บริซาร์ด ทำหน้าที่หัวหน้าผู้ตัดสินวีเออาร์
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของทั้งสองทีมก่อนเกมนัดเปิดสนาม ฮูเลียน นาเกลส์มันน์ นายใหญ่เลือดเบียร์ของ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ต้องปวดหัวเมื่ออเล็กซานดาร์ พาฟโลวิช กองกลางดาวรุ่งจากบาเยิร์นถอนตัวออกจากทีมไปเรียบร้อยแล้วหลังจากมีอาการบาดเจ็บและหายไม่ทัน ทำให้ต้องเรียก เอ็มเร ชาน กองกลางตัวเก๋ากลับมาติดทีมแทน ส่วนผู้เล่นคนอื่นๆ อยู่กันพร้อมหน้า เกมนี้จะลงเล่นในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตูยังคงวางใจ มานูเอล นอยเออร์ จอมหนึบวัย 38 ปี ลงเฝ้าเสาเหมือนเดิม แม้ว่าจะเพิ่งก่อความผิดพลาดง่ายๆ ก็ตาม แนวรับวาง โจซัว คิมมิช อันโตนิโอ รูดิเกอร์ โจนาธาน ทาห์ และแมกซิมิเลียน มิทเทลชเตดท์ ยืนเป็นแผงแบ็กโฟร์ โทนี โครส กองกลางตัวเก่งจับคู่กับโรเบิร์ต อันดริช คุมจังหวะเกมฟลอเรียน เวียทซ์ ดาวรุ่งฟอร์มแรงจะผนึกกำลังกับจามาล มูเซียลา และอิลคาย กุน โดกัน ปั้นเกมรุก แดนหน้าเลือกใช้ไค ฮาเวิร์ตซ์ กองหน้าจากค่ายอาร์เซนอลลงยืนหน้าเป้าคอยสอยตาข่ายคู่ต่อสู้
ด้านสตีฟ คลาร์ก กุนซือเลือดวิสกี้ของสกอตแลนด์ ไม่มีปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมจากเบนโดก ลินดอน ไคค์ส ที่ถอนตัวไปก่อนหน้านี้ โดยเกมนี้จะจัดทัพในระบบ 3-4-2-1 แนวรับวาง แจ็ค เฮนดรี แกรนด์ แฮนลีย คีแรน เทียร์นีย์ ยืนเป็น 3 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แอนโธนี ราลสตัน รับหน้าที่วิงแบ็กขวา ส่วนแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กัปตันทีมดูแลฝั่งซ้าย บิลลี กิลมอร์ คัลลัม แม็คเกรเกอร์ คุมจังหวะเกมกลางสนาม สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กองกลางจากค่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผนึกกำลัง จอห์น แม็คกินน์ ปั้นเกมรุก แดนหน้าวางใจ เช อดัมส์ กองหน้าตัวเก่งลงยืนหน้าเป้าคอยล่าตาข่าย
นัดเปิดสนามเกมนี้ เยอรมนี เจ้าภาพเหนือกว่าหลายช่วงตัว ทั้งศักยภาพนักเตะ บรรยากาศและเหล่ากองเชียร์ แถมเกมนี้ยังค่อนข้างเน้นเป็นพิเศษเพราะต้องการล้างอาย จากการตกรอบแรกในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดยจะเป็นฝ่ายเดินเกมรุกกดดันเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกม ขณะที่ สกอตแลนด์ มาเยือนด้วยการเป็นรองอยู่พอสมควร แต่ขุมกำลังชุดนี้ก็ไม่ธรรมดามีทีเด็ดอยู่ที่เกมโต้กลับเร็วน่าจะคอยป่วนแนวรับเจ้าภาพได้เช่นกัน รูปเกมจะเป็นทาง “อินทรีเหล็ก” ที่จะเปิดฉากเข้าใส่แบบวันเวย์ แม้ว่าทัพ “วิสกี้” จะค่อนข้างถนัดในการเล่นโต้กลับเร็วก็จริง แต่แนวรับชุดนี้ก็ไม่ได้แกร่งมากเท่าไร มาเจอแนวรุกแข้งเบียร์ที่เต็มไปด้วยความกระหายจะอาศัยจังหวะเข้าทำที่เด็ดขาดกว่าจากไค ฮาเวิร์ตซ ฟลอเรียน เวียทซ์ จามาล มูเซียลา รวมถึงตัวทีเด็ดอย่าง นิคลาส ฟัลครูก น่าจะช่วยกันยิงพาเจ้าภาพประเดิมเก็บชัยชนะไปได้ในท้ายที่สุด