มะระหวาน
หลังจากสะกดคำว่าพ่ายแพ้ไม่เป็นมา 16 นัดติดในลีกล่าสุด “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จ่าฝูง ก็พ่ายแพ้ซะทีด้วยฝีมือของ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซนอล คู่ต่อสู้ผู้ไล่ล่าตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก ด้วยสกอร์ 1-3 ทำให้สถานการณ์ในการลุ้นแชมป์ลีกกลับมาเข้มข้นอีกครั้ง
ต้องยอมรับว่าในเกมดังกล่าว ลิเวอร์พูลเล่นกันผิดฟอร์มจริงๆ ทุกอย่างไม่เป็นใจ โดยเฉพาะแดนกลาง ที่วันนี้คุมเกมไม่ได้เลย เจอทีเด็ดของจอร์จินโญ กองกลางจอมเก๋าชาวอิตาลีของ “เดอะ กันเนอร์ส” เล่นงานจนไปไม่เป็นเลยทีเดียว
แม้ว่าช่วงหลังกองกลางทีมชาติอิตาลีจะไม่ค่อยได้ออกสตาร์ตตัวจริงเท่าไร แต่วันนี้โชว์กึ๋นคุมจังหวะเกมทั้งรุกและรับได้ยอดเยี่ยม ยิ่งประสานงานกับเดแคลน ไรซ์ และมาร์ติน โอเดการ์ด ที่ให้บรรดาแข้งวัยหนุ่มต่างวิ่งไล่กดดันคู่ต่อสู้แล้วตัวเองคอยเก็บตกและจ่ายบอลสวยๆ คอยเปลี่ยนเกมจากรับเป็นรุกได้ดีเลยทีเดียวจนทำเอาทั้งอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, เคอร์ติส โจนส์ และไรอัน กราเฟนเบิร์ช ไปไม่เป็นเลย
เมื่อแดนกลางไม่สามารถทำเกมได้ทำให้แนวรุก “หงส์แดง” ก็ไม่สามารถหาโอกาสจบสกอร์ได้มากนักเพราะบอลมันขึ้นมาไม่ถึง โดนมิดฟิลด์ปืนใหญ่เก็บกินไปหมด จึงไม่น่าแปลกใจที่ลิเวอร์พูล ยิงเข้ากรอบแค่หนเดียวเท่านั้นจากโอกาส 10 ครั้ง
เช่นเดียวกับแนวรับลิเวอร์พูล ที่วันนี้ตัดสินใจผิดพลาด โดยเฉพาะจังหวะของเวอร์จิล ฟาน ไดก์ ที่ไม่ยอมเล่นบอลก่อนในจังหวะเสียประตูที่สองปล่อยบอลตกจนทำให้อลิสสันกะจังหวะพลาด
ก่อนเป็นกาเบรียล มาร์ติเนลลี ที่ฉกเอาไปยิงให้ “ไอ้ปืนใหญ่” ขึ้นนำ 2-1 ซึ่งต้องยอมรับว่าลูกนี้เป็นจุดเปลี่ยนของเกมจริงๆ
จากชัยชนะในเกมนี้ทำให้อาร์เซนอลขยับขึ้นมารั้งรองจ่าฝูงไล่หลังลิเวอร์พูลที่นั่งอยู่หัวตารางเพียงแค่ 2 แต้มเท่านั้น แต่ที่น่ากลัวที่สุดก็คืออันดับ 3 อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ตอนนี้มี 46 คะแนนตามหลัง “หงส์แดง” อยู่ 5 แต้ม แต่มีเกมในมืออีก 2 เกม หาก “เรือใบสีฟ้า” เก็บชัยชนะได้ทั้งหมดก็จะแซงหน้าลิเวอร์พูลขึ้นมานั่งตำแหน่งจ่าฝูงทันที
ซึ่งบรรดาสาวก “เดอะ ค็อป” และ “เดอะ กันเนอร์ส” ต่างต้องมานั่งภาวนากันยกใหญ่ให้แมนฯ ซิตี้ พลาดท่าสะดุดใน 2 นัดที่ตามหลังอยู่ หรือถ้าจะให้ดีก็สะดุดทั้งสองนัดเลยก็ได้ เพราะหากปล่อยให้ “เรือใบสีฟ้า” ทะยานขึ้นไปรั้งจ่าฝูงเมื่อไร
มีโอกาสแซงฉิวเข้าวินเลยก็เป็นได้
ก่อนหน้านี้ช่วงปลายปีมีอยู่ช่วงหนึ่งที่แมนฯ ซิตี้ ทะยานกลับมานำจ่าฝูงได้อีกครั้ง แต่ช่วงนั้นลูกทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังไม่สามารถตั้งลำเรือได้พลาดท่าเสมอแบบรัวๆ จนทำให้ร่วงลงมาจากจ่าฝูงและเปิดโอกาสให้ “หงส์แดง” ขึ้นนำยาวมาถึงตอนนี้
แต่ชั่วโมงนี้เชื่อว่า “เรือใบสีฟ้า” จะไม่พลาดซ้ำสองหากขึ้นนำในรอบนี้แล้วมีโอกาสที่จะขึ้นนำแบบม้วนเดียวจบ เพราะตอนนี้แมนฯ ซิตี้ ได้ 2 คีย์แมนหลักของทีมอย่างเควิน เดอ บรอยน์ กองกลางกัปตันทีมที่เจ็บยาวไปตั้งแต่ต้นซีซันและเออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าจอมถล่มประตูทีมชาตินอร์เวย์กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง
การได้ “เคดีบี” และฮาแลนด์ กลับมาอยู่ในทีมอีกครั้งมันเป็นการส่งสัญญาณให้บรรดาคู่แข่งแย่งแชมป์ได้รับรู้ว่าระวังตัวให้ดีพลาดเมื่อไรก็จะโดนตามสอยให้ร่วงจากจ่าฝูงอย่างแน่นอน
ซึ่งตอนนี้ “หงส์แดง” ได้พลาดให้แล้ว ต้องมารอดูว่า “เรือใบสีฟ้า” จะฉวยโอกาสนี้ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม
หากซิตี้ไม่พลาดและแซงขึ้นไปรั้งจ่าฝูงได้จริง แต่ก็ยังมีโอกาสให้ลิเวอร์พูลแก้ตัว
อีกครั้งในเกมที่จะเปิดบ้านรับมือการมาเยือนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 10 มี.ค.นี้
ซึ่งหนนี้แหละถ้า “หงส์แดง” ต้องการแชมป์พรีเมียร์ลีก นัดดังกล่าวก็ห้ามพลาดเลย เพราะถ้าเสียท่าอีกครั้งโอกาสจะซิวแชมป์ส่งท้ายเจอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ที่จะโบกมือลาทีมหลังจบซีซันนี้ แทบจะเป็นศูนย์ทันที!!
มะระหวาน
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่