หน้าแรกแกลเลอรี่

“สิงห์บลู” โฉมใหม่

มะระหวาน

4 ส.ค. 2566 05:09 น.

เป็นอีกหนึ่งทีมที่โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังแบบมากๆสำหรับ “สิงห์บลู” เชลซี ทีมยักษ์ใหญ่ ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากในฤดูกาลที่ผ่านมา จบอันดับ 12 ของตาราง ซึ่งถือว่าเป็นการจบอันดับ ต่ำที่สุดในรอบ 27 ปี

ส่วนหนึ่งก็มาจากการเปลี่ยนเจ้าของสโมสรจากโรมัน อบราโมวิช เจ้าของเก่าชาวรัสเซีย ที่โดน บอยคอต มาเป็นท็อดด์ โบห์ลี เจ้าของทีมชาวมะกัน ที่เข้ามาเทกโอเวอร์กิจการต่อ

จริงๆแล้วมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาแค่เปลี่ยนเจ้าของ แต่เจ้าของอย่างโบห์ลีดันเล่นโละทีมงานของ อบราโมวิชออกแทบทั้งหมดไล่ตั้งแต่ผู้บริหารสโมสร เชลซี ยันมาถึงโธมัส ทูเคิล เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน

เท่านั้นยังไม่พอ โบห์ลียังกระโดดเข้ามาทำหน้าที่ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา เพื่อทำหน้าที่ซื้อขายนักเตะแทนที่ของมารินา กานอฟสกายา ผู้บริหารสาวไฟแรงลูกหม้อคนสำคัญของ “เสี่ยหมี”

เมื่อโบห์ลีกระโดดลงมาเล่นเองก็ทำให้การช็อปปิ้ง ของทีมปั่นป่วนไปหมด โดยเฉพาะการเสริมทัพในช่วง เดือนมกราคมดึงนักเตะเข้ามาถึง 6 ราย ไฮไลต์คือ การทุ่มซื้อเอ็นโซ เฟร์นานเดซ กองกลางทีมชาติอาร์เจนตินา จนเป็นสถิติแพงที่สุดของพรีเมียร์ลีก

ทำให้ทางเชลซีมีขุมกำลังใหญ่มากเกือบ 30 ราย แต่กลับโชว์ฟอร์มได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เนื่องจากผู้จัดการที่แต่งตั้งมาแทนทูเคิล อย่างแกรม พอตเตอร์ กุนซือหนุ่มดาวรุ่งพุ่งแรง อดีตกุนซือไบรท์ตันดันเอานักเตะไม่อยู่และยังใหม่เกินไปในการคุมทีมใหญ่จนสุดท้ายก็โดนไล่ออก

แม้ว่าจะตั้งแฟรงค์ แลมพาร์ด อดีตกุนซือเข้ามาทำหน้าที่แทนแต่ก็ไม่สามารถเค้นฟอร์มออกมาได้จนจบอันดับ 12 ของตาราง ไม่ได้ไปเล่น เวทียุโรปสักรายการ ถือว่าเป็นจุดตกต่ำที่สุดของ “สิงห์บลู” ในรอบ 27 ปี

แต่ฟ้าหลังฝนย่อมดีเสมอเมื่อ “สิงห์บลู” ประกาศแต่งตั้งเมาริซิโอ โปเชตติโน กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ เข้ามารับตำแหน่งกุนซือคนใหม่อย่างเป็นทางการ โดยได้ประกาศเลือกนายใหญ่คนใหม่ ตั้งแต่ไม่จบซีซัน 2022-23

แม้ว่าจะยังไม่ประกาศทางการแต่ก็เลือกแล้ว ทำให้ทาง “พอช” มีโอกาสได้ทำการบ้านว่านักเตะ คนไหนที่จะเหมาะกับทีมของเขาในฤดูกาลหน้าหรือไม่

เมื่อโปเชตติโนเข้ามารับตำแหน่งก็ได้จัดการโละนักเตะส่วนเกินที่ตัวเองไม่ใช้งานออกไปเพียบเรียกได้ว่าตั้งทีมฟุตบอลใหม่ได้ 1 ทีม เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเอดูอาร์ เมนดี, รูเบน ลอฟตัส ชีค,มาเตโอ โควาซิช, คาลิดู คูลิบาลี, เอ็นโกโล ก็องเต, ไค ฮาเวิร์ตซ์, เมสัน เมาท์, เซซาร์ อัซปิลิกวยตา, คริสเตียน พูลิซิช, ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง

และได้เสริมทัพส่วนที่ขาดคือตำแหน่งกองหน้าอย่างนิโคลัส แจ็คสัน เข้ามา ขณะที่ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ที่จองล่วงหน้าไว้แล้วก็ย้ายมา ตามสเต็ปหลังจากสู่ขอไว้แล้ว เมื่อมาผสมกับบรรดาขุมกำลังที่มีอยู่ถือว่าค่อนข้างลงตัว

นักเตะบางคนที่เล่นได้ไม่ดีเท่าไรในซีซันที่แล้วกลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น มิไคโล มูดริค, คอนอร์ กัลลาเกอร์, เบนัวต์ บาเดียชิลล์ รวมถึงรีซ เจมส์ และเบน ชิลเวลล์ ที่ฉายฟอร์มโดดเด่นอีกครั้ง

โดยเฉพาะแนวรุกของ “สิงห์บลู” ที่กลับมา วูบวาบน่ากลัวอีกครั้ง โดยเฉพาะแจ็คสันและเอ็นคุนคู ที่ดูเข้ากับแผนของ “พอช” เป็นอย่างดี ซึ่งฟอร์มอุ่นเครื่องล่าสุด “สิงห์บลู” ไม่แพ้ใครเลยลงเล่นไป 4 นัด ชนะ 3 เสมอ 1 นัด

แม้ว่าอาจจะเจอทีมไม่ใหญ่มาก แต่สิ่งที่ได้ เห็นนั่นก็คือระบบและแผนการเล่นที่แน่นอน ความรับผิดชอบของแต่ละตำแหน่งที่ทางโปเชตติโน กำชับว่าใครต้องทำอะไรบ้างในสนาม ทำให้ตอนนี้ เชลซีนั้นกลับมาเล่นกันเข้าที่เข้าทางมากเลยทีเดียว แถมทีมเวิร์กยังดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ไม่ใช่ เลือกวันแมนโชว์เหมือนซีซันที่แล้ว

มาดูว่า “สิงห์บลู” โฉมใหม่แข็งแกร่งจะกลับมา มีลุ้นท็อปโฟร์ หรือลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกทันทีหรือไม่

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะเป็นคนให้คำตอบ ในการเจอกันนัดแรกของพรีเมียร์ลีก วันที่ 13 ส.ค.นี้

มะระหวาน