หน้าแรกแกลเลอรี่

จิ้งจอกอาการหนัก

มะระหวาน

7 เม.ย. 2566 05:05 น.

สถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤติสำหรับ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ อดีตแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2015-2016 ที่ปัจจุบันหล่นมารั้งอันดับ 19 ของตารางต้องดิ้นรนหนีตกชั้นอย่างหนักในอีก 9 นัดที่เหลืออยู่

เลสเตอร์ เพิ่งพ่ายแพ้คาบ้านให้กับ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา ไป 1-2 ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ทำให้ยังจมปลักอยู่ในอันดับรองบ๊วยต่อไปมี 25 คะแนนจาก 29 นัด ตามหลังทีมอันดับ 17 ที่อยู่เหนือโซนตกชั้นอยู่ 2 แต้มด้วยกัน

เลสเตอร์ไม่ชนะใครในลีกมาแล้ว 6 นัดติดต่อกัน แพ้ 5 นัด เสมอ 1 นัด โดยครั้งล่าสุด

ที่ “จิ้งจอกสยาม” คว้าชัยชนะได้ในเกมลีกต้องย้อนไปในวันที่ 11 ก.พ.66 เกมดังกล่าวสามารถเอาชนะ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ได้ขาดลอย 4-1

ที่จริงหลังจากจบเกมนั้นหลายคนก็มองว่า เลสเตอร์นั้นน่าจะสามารถรักษาฟอร์มเก่งเอาไว้ได้ต่อเนื่องและน่าจะทำแต้มให้ห่างไกลจากโซนตกชั้นได้ไม่ยาก แต่ปรากฏว่าหลังเอาชนะ

“ไก่เดือยทอง” ได้ฟอร์มของ “จิ้งจอกสยาม” ก็หล่นลงเหวไปอย่างหนักจนมาจมอยู่ในอันดับรองบ๊วย

จากฟอร์มที่ย่ำแย่ทำให้เลสเตอร์ตัดสินใจปลด “บีร็อด” เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือออกจากตำแหน่งไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนเกมนัดล่าสุดที่พ่ายแพ้ แอสตัน วิลลา

จริงๆแล้วก็น่าเสียดายร็อดเจอร์ส เพราะเจ้าตัวนั้นทำอย่างเต็มที่แล้วที่จะประคองทัพ “จิ้งจอกสยาม” ให้ยืนหยัดอยู่ให้ได้ เพราะตลอดช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเปิดทั้งสองรอบนั้นทางบอร์ดบริหารไม่ได้ให้การเสริมทัพมากเท่าไร

แถมตัวที่มีอยู่ก็เริ่มฟอร์มหดหายไม่ว่าจะเป็นเจมี วาร์ดี อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ที่ตอนนี้วัยก็ล่วงเลยไป 36 ปีแล้วไม่ได้มีความเร็วหรือความเฉียบคมมากเท่าเดิมอีกแล้ว เช่นเดียวกับยูริ ติเลมันส์ กองกลางทีมชาติเบลเยียม ที่โดนทั้งอาการบาดเจ็บเล่นงานจนไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้

ส่วนอีกคนที่ฟอร์มร่วงไปก็คือฮาร์วีย์ บาร์นส์ ปีกเลือดผู้ดีที่ในปีนี้ฟอร์มไม่เปรี้ยงปร้างแทบจะหายไปจากเกมเลย ยิงก็ไม่ได้ แอสซิสต์ก็ไม่ได้ มีเพียงแค่เจมส์ แมดดิสัน เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและคงเส้นคงวา

แต่จากฟอร์มของแมดดิสันคนเดียวก็ยากจะแบก “จิ้งจอกสยาม” ได้ไหว ถ้าเพื่อนๆไม่สามารถช่วยกันเค้นฟอร์มเก่งออกมาให้ได้

เรียกได้ว่าการปลดเบรนแดน ร็อดเจอร์ส ออกจากตำแหน่งนั้นก็ถือว่าสุ่มเสี่ยงเช่นกันเพราะเหลือการแข่งขันอีก 9 นัดเท่านั้น แต่หากเลือกที่จะไม่เปลี่ยนแปลงก็มีโอกาสที่ “จิ้งจอกสยาม” จะกลับไปเล่นในเดอะ แชมเปียนชิป เช่นกัน

หลังจากแยกทางกับ “บีร็อด” แล้วทาง เลสเตอร์ก็สนใจที่จะดึงตัวของแกรม พอตเตอร์ กุนซือชาวผู้ดี ที่เพิ่งตกงานจากเชลซีมาหมาดๆ แต่เจ้าตัวบอกปัดเพราะต้องการหยุดทำใจก่อน

ด้าน “เลสเตอร์เมอร์คิวรี” สื่อชื่อดังประจำ เมืองเลสเตอร์ ได้รายงานว่าตอนนี้ “จิ้งจอกสยาม” กำลังเจรจากับบรรดากุนซือที่ว่างงานอย่างราฟาเอล เบนิเตซ อดีตกุนซือนิวคาสเซิล, ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิล อดีตกุนซือเซาแธมป์ตัน และออสการ์ การ์เซีย อดีตกุนซือไบรท์ตัน และเจสซี มาร์ช อดีตกุนซือลีดส์ ยูไนเต็ด

แต่เท่าที่ดูแล้วจากลิสต์ที่ระบุมา “เอล ราฟา” น่าจะดีสุด คุมทีมใหญ่มามากมายประสบการณ์เพียบ น่าจะช่วย “จิ้งจอกสยาม” ให้รอดพ้นตกชั้นได้แน่

อย่างไรก็ตาม เลสเตอร์ยังไม่ได้เคาะว่าจะเลือกใครเป็นนายใหญ่คนใหม่ในถิ่นคิง เพาเวอร์ สเตเดียม แต่เชื่อว่าบอร์ดบริหารน่าจะเร่งทำงานกันอย่างหนักเพราะถ้ายิ่งตั้งช้าเท่าไรก็จะทำให้มีโอกาสตกชั้นเพิ่มมากขึ้น!!

มะระหวาน