หน้าแรกแกลเลอรี่

เกมตัดสินชะตา

มะระหวาน

3 ต.ค. 2565 05:10 น.

ยังควานหาชัยชนะไม่เจอสำหรับ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ลงแข่งในพรีเมียร์ลีก ซีซันนี้ ไปแล้ว 7 นัดยังสะกดคำว่าชัยชนะไม่เป็น แถมยังเพิ่งมีแค่ 1 คะแนนรั้งบ๊วยของตารางอยู่ในตอนนี้

เรียกได้ว่าฟอร์มการเล่นของเลสเตอร์ในตอนนี้เป็นช่วงที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เบรนแดน

ร็อดเจอร์ส กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ เข้ามาคุมทัพในถิ่นคิง เพาเวอร์ สเตเดียม ตั้งแต่ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2019

นับตั้งแต่ “บีร็อด” ก้าวเข้ามาเลสเตอร์ ซิตี้ ทำหน้าที่แทนโคลด ปูแอล ก็ยังไม่เคยพา “จิ้งจอกสยาม” จบต่ำกว่าอันดับ 10 ของตารางเลย

โดยในปี 2019 ร็อดเจอร์ส ที่เข้ามากอบกู้สถานการณ์ก็สามารถพาทีมจบอันดับที่ 9 ของตารางได้ หลังจากนั้นทาง “บีร็อด” ก็สามารถร่ายมนต์พาเลสเตอร์ติดอยู่ในท็อปไฟว์อยู่ 2 ซีซันติด ในฤดูกาล 2019-2020 และ 2020-2021 เรียกได้ว่ามีโอกาสที่จะไปเล่นในยูโรปา ลีก 2 ปีติดต่อกัน

แถมในฤดูกาล 2020-2021 ทาง “บีร็อด” ก็ยังพา “จิ้งจอกสยาม” คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาครองอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดกับ เลสเตอร์เลยก็ว่าได้

หลังจากผ่าน 2 ปีครึ่งที่หอมหวานกับเลสเตอร์ ในฤดูกาลที่แล้ว “จิ้งจอกสยาม” ฟอร์มการเล่นก็เริ่มตกลงเรื่อยๆ แม้ว่าจะสามารถประคองได้ให้อยู่เหนือท็อป 10 โดยจบที่ 8 ของตารางพลาดไปเล่นบอลยุโรปอย่างน่าเจ็บใจ

มาในฤดูกาลนี้สถานการณ์ของบีร็อดกับ เลสเตอร์ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เมื่อตลอดช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา พยายามเสนอที่จะดึงตัวนักเตะมาเสริมทัพ แต่ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

จนสุดท้ายร็อดเจอร์สก็ได้ผู้เล่นมาเสริมทัพจำนวน 1 รายนั่นก็คือ วูต ฟาเอส ปราการหลังชาวเบลเยียม จะเรียกว่าได้แบบจำเป็นต้องได้เพราะปราการหลังรายนี้เข้ามาแทนที่ของ เวสลีย์ โฟฟานา ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศส ที่ย้ายไปเล่นให้กับเชลซี

แม้ว่า “บีร็อด” จะมีขุมกำลังนักเตะเดิมๆ เป็นหลัก ซึ่งหลายคนก็คิดว่าไม่เสริมทัพก็คงไม่มีปัญหาเท่าไร เพราะอย่างน้อยทุกคนเล่นด้วยกันมานานน่าจะใช้ทีมเวิร์กเอาตัวรอดไปได้

แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เลสเตอร์ ซิตี้ ใน ฤดูกาลนี้ฟอร์มย่ำแย่มากๆ ลงเล่นไป 7 นัดยังไม่ชนะใครเลย และสิ่งหนึ่งที่บอกเลยสำหรับเลสเตอร์ ชุดนี้คือลงเล่นขาดแรงจูงใจไปเยอะเลยทีเดียว

โดยเฉพาะแนวรับค่อนข้างรั่วเลยทีเดียวโดนรัวไปถึง 22 ประตูแล้วด้วยกัน

2 นัดล่าสุดโดนยิงไปถึง 11 ประตูด้วยกัน แพ้ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ 2-3 และ แพ้ ไบรท์ตัน 2-5 จนทำให้ตอนนี้สถานการณ์ของร็อดเจอร์ส เริ่มแขวนอยู่บนเส้นด้าย

ข่าวลือว่า “บีร็อด” จะโดนเด้งออกจากตำแหน่งเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ หลัง 2 นัดล่าสุดที่พ่ายแพ้คู่ต่อสู้ยับเยิน

แต่ที่เลสเตอร์ที่ยังไม่กล้าปลด “บีร็อด” เพราะต้องจ่ายค่าชดเชยสูงถึง 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 420 ล้านบาท)

แต่จากผลงานตอนนี้เชื่อว่าบอร์ดบริหารของเลสเตอร์ คงจะตัดสินใจบางอย่างได้แล้ว จะปล่อยให้ย่ำแย่ไปกว่านี้ไม่ได้

เพราะถ้าตกชั้นไปมันไม่คุ้มแน่นอน

เชื่อว่าเกมวันนี้ (3 ต.ค.) ถือเป็นเกมตัดสินชะตาหาก “จิ้งจอกสยาม” ไม่ชนะ “เจ้าป่า” นอตติงแฮม ฟอเรสต์ ได้

ก็มีโอกาสที่ “บีร็อด” จะโดนเด้งสูงเลยทีเดียว!!

มะระหวาน