มะระหวาน
หากมองจากฟอร์มที่พ่ายแพ้ 2 นัดแรกของฤดูกาล 2022–2023 คงไม่มีใครคาดคิดว่า “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะก้าวมาอยู่ในจุดปัจจุบันได้เลย ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มการเล่นหรืออันดับของตารางในตอนนี้
โดยเฉพาะเกมนัดล่าสุดที่แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านไล่อัด “เดอะ กันเนอร์ส” อาร์เซนอล ไป 3-1 เรียกได้ว่าเป็นอีกเกมที่แข้ง “ผีแดง” โชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดี แม้ว่าเกมโดยรวมจะตกเป็นของ “ไอ้ปืนใหญ่” ซะมากกว่าก็ตาม
แต่สิ่งที่ “ปิศาจแดง” เหนือกว่าในเกมพบ อาร์เซนอลนั้นคือความเด็ดขาดในการจบสกอร์ แม้ว่าโอกาสจะไม่มากแต่เมื่อได้โอกาสหลุดไปเมื่อไรโป้งหายได้เช่นกัน
เอริค เทน ฮาก นายใหญ่ชาวดัตช์ทำให้ในตอนนี้ “ปิศาจแดง” กลายเป็นทีมหนึ่งที่มีเกมโต้กลับสุดอันตรายไปโดยปริยายโดยอาศัยความเร็วของ มาร์คัส แรชฟอร์ด และอันโตนี ปีกตัวใหม่ชาวแซมบ้าคอยปั่นป่วน เช่นเดียวกับจาดอน ซานโช ที่ลากเลื้อยคอยกดดันแนวรับคู่ต่อสู้
เช่นเดียวกับจังหวะคิลเลอร์พาสของบรูโน แฟร์นันเดส และคริสเตียน อีริคเซน ที่คมกริบเหมือนกับใบมีดโกนแทงทะลุพรวดจน แรชฟอร์ด จบสกอร์ได้ไม่ยาก
ในฐานะของสาวก “เรด เดวิลส์” มานานบอกได้เลยว่านับตั้งแต่หมดยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือชาวสกอตที่วางมือไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วยังไม่เคยเห็นแนวรุกที่จี๊ดจ๊าดเปรี้ยวเข็ดฟันเท่านี้มาก่อนเลย
ไหนๆก็พูดถึงแนวรุกก็ต้องชื่นชมอันโตนี ปีกชาวแซมบ้าที่เข้ามาเสริมทำให้แนวรุกของ “ปิศาจแดง” น่ากลัวมากขึ้นเกือบเท่าตัว ไม่ว่าจะเป็นลีลากระชากลากเลื้อย จังหวะเปิดบอลที่ค่อนข้างแม่นยำ หรือลีลายียวนกวนประสาท คอยยั่วแนวรับคู่ต่อสู้ เห็นแล้วเหนื่อยใจแทนแนวรับคู่ต่อสู้ไปเลย
แม้ว่า “ปิศาจแดง” จะโดนค่อนขอดว่าใช้เงินไม่เป็น หรือจ่ายค่าตัวแพงเกินจริงหลังจ่ายเงิน 100 ล้านยูโร (ประมาณ 3,600 ล้านบาท) เพื่อดึงตัวของอันโตนีมาร่วมก๊วน
จากเกมแรกนี้บอกเลย 100 ล้านยูโรที่จ่ายไปมีแววว่าจะคุ้มค่าไม่เสียเปล่าเหมือนหลายๆดีลก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม โดดเด่นที่สุดของ “ปิศาจแดง” ในเกมอัด “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล นั้นไม่ใช่อันโตนี ที่ยิงประตูแรก, บรูโน แฟร์นันเดส ที่จ่ายคิลเลอร์พาส สวยๆ หรือการยิง 2 ประตูของมาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าเลือดผู้ดี หรือแม้กระทั่งการเข้าปะทะแย่งบอลของสกอต แมคโทมิเนย์
แต่เป็นคริสเตียน อีริคเซน กองกลางทีมชาติเดนมาร์ก ที่สามารถควบคุมเกมตรงกลางสนามของ “ปิศาจแดง” ได้อย่างหมดจด ไม่ว่าจะเป็นทั้งเกมรุกและรับ มิดฟิลด์วัย 30 ปีจ่ายบอลได้อย่างเด็ดขาดจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกสั้นหรือลูกยาวทำให้ยูไนเต็ดได้เปรียบอยู่หลายจังหวะ
แม้ว่าอาจจะผิดพลาดเสียบอลบางจังหวะอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทีมเสียหาย
ตอนนี้บอกได้เลยว่ารอดูว่าเมื่อไรเทน ฮาก จะจัดให้อีริคเซน ได้ยืนคู่กลางกับกาเซมิโร กองกลางทีมชาติบราซิลซักที รับรองว่าเด็ดขึ้นมากกว่านี้แน่นอน คนหนึ่งจ่าย คนหนึ่งตัดเกม โอ๊ยยยอยากเห็นจริงๆ
ส่วนแนวรับไม่ต้องพูดถึงเพราะถือว่าไลน์อัปนี้คือลงตัวแบบสุดๆ ราฟาแอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยืนปราการหลังคู่กลาง ดิเอโก ดาโลต์, ไทเรลล์ มาลาเซีย ยืนแบ็กขวาและซ้าย แม้ว่าฟูลแบ็กขยันบุกจะมีปัญหาแนวรับแต่ก็ยังพอรับได้ไม่บุกแล้วบุกเลยเหมือนฟูลแบ็กบางทีม
แม้ว่าหลายฝ่ายจะพูดว่าชัยชนะ 3 นัดอาจจะฟลุก โดยเฉพาะการชนะลิเวอร์พูล แต่การเจอกับ อาร์เซนอลในเกมที่ผ่านมาเป็นบทพิสูจน์แล้วว่า “ปิศาจแดง” ในยุคของเอริค เทน ฮาก นายใหญ่ชาวดัตช์นั้นพร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกในปีนี้แล้ว
อาจจะดูเหมือนเป็นการอวยทีมรักทีมโปรดเว่อร์วังมากเกินไป แต่หลังจากจบเกมที่ “ปิศาจแดง” บุกไปเยือน “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ ในวันที่ 2 ต.ค.นี้
จะเป็นตัวบอกเองว่า แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมหรือยังที่จะกลับมาลุ้นแชมป์อีกครั้ง!!
มะระหวาน