หน้าแรกแกลเลอรี่

ผีแดงเปลี่ยนไป

มะระหวาน

22 ก.ค. 2565 05:07 น.

ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้เห็น “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงขนาดนี้ ล่าสุดเก็บชัยชนะ 3 นัดติดในเกมอุ่นเครื่องปรีซีซันยิงได้ 11 ประตูและเสียเพียงแค่ 2 เม็ดเท่านั้น เรียกได้ว่ากลับมาคืนฟอร์มอย่างแท้จริง

หลายคนอาจจะบอกว่ามันเป็นเพียงแค่เกมอุ่นเครื่องที่ไม่สามารถวัดได้จริงหรอก เพราะนักเตะแต่ละคนยังไม่ฟิตเท่าไร ต่อให้ยิงเยอะหรือชนะได้ทุกนัด มันก็แทบจะไม่มีค่าอะไร

อันนี้บอกเลยว่าพูดถูก เพราะมันไม่สามารถนำไปนับผลอะไรได้ในสายตาของแฟนบอลทีมอื่นๆ แต่ในสายตาของสาวก “ผีแดง” มันมองมากกว่าการชนะ เพราะทุกอย่างมันเปลี่ยนไปจริงๆ ตั้งแต่นักเตะ, แผนการเล่น และแพสชันต่างๆ ในสนาม มันกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

อันนี้ต้องยกเครดิตให้กับเอริค เทนฮาก กุนซือคนใหม่ชาวดัตช์ที่เข้ามาปรับทีมให้ดูเป็นทีมที่แข็งแกร่ง, ดูก้าวร้าวและพร้อมฟาดฟันเพื่อชัยชนะซักที

เพราะนับตั้งแต่โอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์เวย์ ต่อมาถึงราล์ฟ รังนิก นายใหญ่ชาวเยอรมัน หรือแม้กระทั่งช่วงยุคปลายของโจเซ มูรินโญ กุนซือชาวโปรตุกีสนั้น นักเตะ “ปิศาจแดง” แต่ละคนเล่นแบบไม่ได้หิวกระหายชัยชนะอะไรเลย

แถมแผนการเล่นก็ยังสะเปะสะปะไปมาเอาแน่นอนไม่ได้ จนนักเตะงงไปหมด

เช่นเดียวกับเรื่องความฟิตของนักเตะที่บางครั้งอาจยืนระยะไม่ถึง 90 นาทีเลย ยิ่งถ้าวันไหนเล่นเพรสซิ่งเยอะๆ ความอึดจะลดลงไปอีก จึงไม่แปลกใจที่ “ผี” จะหมดแรงและโดนตีเสมอท้ายเกมหรือโดนยิงประตูชัยท้ายเกม

แต่พอเปลี่ยนกุนซือมาเป็นเอริค เทน ฮาก ทุกอย่างเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว

แข้ง “ปิศาจแดง” กลับมาฟิตเปรี๊ยะอีกครั้ง วิ่งได้ไม่หมดเห็นได้ชัดจาก 3 เกมในช่วงปรีซีซันที่ผ่านมา เรื่องนี้บรรดานักเตะยูไนเต็ด ออกมาการันตีกันหลายคนว่า นายใหญ่ชาวดัตช์คนนี้ซ้อมเข้มมากโดยเฉพาะการวิ่งเพื่อเรียกความฟิต ถึงกับออกปากว่า “แทบตาย”

อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นคือการจ่ายบอลนั้น เทน ฮาก นั้นเคี่ยวอย่างหนักทำให้ตอนนี้ “ปิศาจแดง” มีเปอร์เซ็นต์การจ่ายบอลให้แม่นมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ

แถม เทน ฮาก ยังเป็นคนใส่ใจถ้าเมื่อนักเตะไม่เข้าใจในแผนการซ้อมหรือซ้อมผิดจากที่บอกไว้ทางอดีตกุนซืออาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม จะสั่งหยุดซ้อมทันที เพื่ออธิบายให้ทุกคนเข้าใจใหม่

ถือว่าเทน ฮาก นั้นทำงานมาค่อนข้างดีเลยทีเดียว คงจะพอเห็นแล้วว่าจุดอ่อนจุดด้อยของ “ปิศาจแดง” อยู่ตรงไหน ไม่ว่าจะเป็นทั้งทีมหรือรายบุคคล กุนซือวัย 52 ปีก็ค่อยๆแก้เป็นรายจุด

ซึ่งสิ่งที่เจ้าตัวทำนั้นเรียกได้ว่าค่อนข้างได้ผลเลยทีเดียว แมนฯ ยูไนเต็ด ยุคใหม่ เกมรุกดุดันและมีมิติมากขึ้น ผู้เล่นในแนวรุกกลับมาฟอร์มเปรี้ยงปร้างไม่ว่าจะเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด, แอนโธนีย์ มาร์กเซียล และจาดอน ซานโช รวมถึง ดอนนี ฟาน เดอ เบค อีกคน

ถ้าเล่นได้แบบนี้บวก คริสเตียโน โรนัลโด กับบรูโน แฟร์นันเดส ไปอีก แนวรุกผีก็ไม่ได้ด้อยกว่าใครเช่นกัน

เช่นเดียวกับแฮร์รี แมคไกวร์ ปราการหลังกัปตันทีมที่เริ่มกลับมาฟอร์มแกร่งอีกครั้ง ลูกกลางอากาศเก็บได้หมด ส่วนการปะทะก็แม่นยำขึ้น ไม่มีอาการเหวอให้เห็นบ่อยครั้งแบบซีซันที่แล้ว

3 นัดที่ผ่านมันจะวัดอะไรไม่ได้ แต่วิธีการเล่นของทีมและฟอร์มการเล่นของแต่ละคนนั้น เป็นตัวชี้วัดได้ดีว่า “ผีแดง” ดีขึ้นจริงๆ

แม้อาจจะไม่ได้ลุ้นถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ และ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

แต่ที่แน่ๆ ปีนี้ “ผี” ก็ไม่ใช่หมูในอวยให้บรรดาทีมท็อปซิกซ์ให้เชือดง่ายๆ แน่นอน!!

มะระหวาน