ไทยรัฐออนไลน์
กัปตันทีมชาติอิตาลี ชุดแชมป์ยูโร 2020 เล่าถึงวินาทีที่ตัดสินใจครั้งสำคัญ ซึ่งเป็นจุดชี้เป็นชี้ตายในรอบชิงชนะเลิศกับอังกฤษ
วันที่ 13 มิถุนายน 2565 จอร์โจ คิเอลลินี กองหลังอดีตทีมชาติอิตาลี วัย 37 ปี ให้สัมภาษณ์เปิดใจครั้งแรกถึงเหตุการณ์สำคัญในชีวิตการค้าแข้ง ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนเกมของศึกยูโร 2020 รอบชิงชนะเลิศ ที่เอาชนะ ทีมชาติอังกฤษ ในการดวลจุดโทษตัดสิน 3-2 หลังเสมอ 1-1 ในเวลา 120 นาที เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมปีที่แล้ว
จังหวะดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเสมอ 1-1 ในเวลาปกติ 90 นาที ซึ่งในนาทีที่ 96 บูกาโย ซากา ตัวสำรองของทีมชาติอังกฤษตัดบอลได้ตรงกลางสนามและกำลังจะพาบอลสวนกลับเร็ว ซึ่งหากหลุดไปได้ก็มีโอกาสสูงที่ อิตาลี จะเสียประตู แต่ จอร์โจ คิเอลลินี ที่เสียเหลี่ยมไปแล้ว อาศัยไหวพริบและความเก๋า ก่อนตัดสินใจกระชากคอเสื้อคู่แข่งทันทีเพื่อเบรกเกม ซึ่งสุดท้ายผู้ตัดสินก็ให้เพียงใบเหลือง ก่อนที่ อิตาลี จะยันสกอร์เอาไว้ได้ จนสามารถเอาชนะในการดวลจุดโทษ คว้าแชมป์ยุโรสมัยที่ 2 ไปครอง
ล่าสุด จอร์โจ คิเอลลินี ออกมาเปิดใจถึงวินาทีนั้นว่า "จังหวะนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของยูโร 2020 และเป็นมีมที่ถูกใช้มากที่สุดในช่วงฤดูร้อนปี 2021 มันอาจเป็นความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวของผมในศึกยูโร ซึ่งผมพยายามอ่านจังหวะบอลที่ลอยกลางอากาศ โดยคิดว่าผมสามารถจะจัดการมันได้จริงๆ"
"ผมมั่นใจว่าผมสามารถใช้ตัวบังเหลี่ยมบอลจาก ซากา และปล่อยให้มันออกนอกสนามได้แล้ว แต่เขาก็หาทางดิ้นไปมารอบตัวผม และเมื่อเขาพยายามสลัดตัวหนีจากทางด้านหลังและมีพื้นที่พาบอลเข้าหาแดนของเรา ปฏิกิริยาของผม ณ ตอนนั้นก็คือต้องคว้าเขาให้ได้ และผมก็ทำได้ดีซะด้วย"
ทั้งนี้ จังหวะดังกล่าวได้มีหลายคนนำไปทำเป็นรูปตัดต่อเป็นมุกตลก รวมถึงมีการนำไปใช้เป็นรอยสักกันอย่างแพร่หลายในช่วงหลังจบทัวร์นาเมนต์