มะระหวาน
ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับทีมชาติเวลส์ ที่สามารถตีตั๋วไปลุยในศึกฟุตบอลโลก 2022รอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์ได้ หลังเฉือนเอาชนะยูเครนไปได้ 1-0 คว้าตั๋วใบสุดท้ายของยุโรปไปครอง
ซึ่งถือว่าเป็นการคว้าตั๋วไปลุยฟุตบอลโลกครั้งแรกในรอบ 64 ปีของ “มังกรแดง” หลังจากเคยไปลุยศึกลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกครั้งล่าสุดนับตั้งแต่ปี 1958 ที่สวีเดน
ทำให้ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ทางเวลส์จะเข้าไปอยู่ในสายบี ร่วมกับ “สิงโตคำราม” อังกฤษ, อิหร่าน และสหรัฐอเมริกา จากรายชื่อเพื่อนร่วมสายนั้นทาง “มังกรแดง” ก็มีโอกาสที่จะทะลุ
เข้าสู่รอบน็อกเอาต์ได้เช่นกัน
จากความสำเร็จในครั้งนี้คนที่ปลื้มใจและตื้นตันใจมากที่สุดก็คงไม่พ้นแกเร็ธ เบล กัปตันทีมคนเก่ง ที่มุ่งมั่นเป็นอย่างมากที่จะพา “มังกรแดง” ไปลุยฟุตบอลโลกให้ได้ นับตั้งแต่ตัวเขาก้าวเข้ามาติดทีมชาติ
เบลออกสตาร์ตนับหนึ่งในการรับใช้ชาติในปี 2006 หลังจากเล่นไปซักพักเจ้าตัวก็ยังไม่เคยได้สัมผัสในการลงเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆเลยไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย หรือศึกชิงแชมป์ยุโรป หรือ “ยูโร” รอบสุดท้าย
จนเจ้าตัวได้ย้ายไปซบเรอัล มาดริด ในปี 2013 และพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาเรื่อยๆจนก้าวขึ้นสู่ลิสต์หนึ่งในนักเตะระดับท็อปของโลกได้
ถ้วยแชมป์ต่างๆเบลกวาดมาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นแชมป์ลา ลีกา, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก,โกปาเดล เรย์,แชมป์สโมสรโลก เรียกได้ว่าถ้วยหลักๆ ปีกจรวดเลือดเวลส์กวาดมาแทบทั้งหมดแล้วกับต้นสังกัด
เหลือเพียงแค่ในนามทีมชาติเท่านั้นที่เบล ยังไม่ประสบความสำเร็จ!!
ประสบความสำเร็จในที่นี้ของเบลกับทีมชาติเวลส์ ไม่ได้หมายความว่าจะพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกหรือแชมป์ยูโร แต่ความสำเร็จของ เบลนั้นคือพา “มังกรแดง” ไปเล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆทั้งสองรายการให้ได้
เบลต้องการทำในสิ่งที่ไรอัน กิกส์ ตำนานปีกทีมชาติเวลส์และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแข้งที่เก่งที่สุดของเวลส์ในอดีตทำไม่ได้ให้เป็นความจริงให้ได้
และเบลก็ทำได้สำเร็จเริ่มจากไปลุยยูโร รอบสุดท้าย 2 ครั้งในปี 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส และยูโร 2020 ที่มี 11 ประเทศเป็นเจ้าภาพร่วมกัน
หลังพา “มังกรแดง” เข้าสู่รอบสุดท้ายศึกชิงแชมป์ทวีปยุโรปได้ ก็เท่ากับทำความฝันของตัวเองไปครึ่งหนึ่งแล้ว
เหลือแค่พาเวลส์ไปลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเท่านั้น ซึ่งเบลก็ตั้งความหวังไว้ค่อนข้างมากที่จะทำให้สำเร็จ เพราะอาจจะเป็นบอลโลกครั้งสุดท้ายของเจ้าตัวก็ได้ เพราะตอนนี้ก็อายุอานามปาเข้าไป 32 ปีแล้ว
ซึ่งเบลก็ทำอย่างเต็มที่จนสุดท้ายก็ทำได้ตามเป้าคือพาเวลส์สามารถทะลุไปเล่นรอบสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2022 ได้สำเร็จ
แม้ว่าในกลุ่มแฟนบอล “เรอัล มาดริด” ต้นสังกัดของเขาที่กำลังจะหมดสัญญาในเดือนมิถุนายนนี้จะไม่ชื่นชอบและโห่ไล่ตัวของเขา เนื่องจากมองว่าดาวเตะวัย 32 ปี คอยสูบเลือดสูบเนื้อทีมเพราะค่าเหนื่อยสูงถึง 600,000 ปอนด์ (ประมาณ 25 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์
แต่เอาเข้าจริงๆสาวก “เรอัล มาดริด” ก็ทำไม่ถูก เพราะเบลไม่เคยทำผิดอะไร เขาลงซ้อมกับทีมทุกครั้งไม่เคยสายหรือโดดซ้อมเลยแม้แต่ครั้งเดียว เทรนเนอร์ทุกคนต่างเลือกไปใช้งานเบลมากกว่า ส่วนเรื่องส่วนตัวที่ไม่เคยไปไหนกับเพื่อนร่วมทีมนั้นอันนี้แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนไม่ก้าวล่วง
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนเวลส์ “เบล” คือฮีโร่ของพวกเขา เพราะปีกรายนี้ทำในสิ่งที่ไม่มีใครเคยทำได้
แม้หลายคนจะออกมาติงว่าไม่ใช่เบลคนเดียวที่ทำ เพราะทั้งทีมก็เป็นคนทำร่วมกัน
แต่ถ้าไม่มีชายชื่อ “แกเร็ธ เบล” ก็คงยากที่ “เวลส์” จะได้ไปลุยทัวร์นาเมนต์สำคัญเช่นเดียวกัน!!
มะระหวาน