กรรมที่ไม่ได้ก่อ!!

เข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 ที่ “หมีขาว” รัสเซีย ส่งทหารเข้าไปรุกรานยูเครน จนทำให้เกิดความเสียหายไปทั่วยูเครน แม้ว่าจะมีการเริ่มต้นเจรจากันบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าการโจมตีจะสิ้นสุดลง

จากสงครามดังกล่าวทำให้ทั่วทั้งโลกนำโดยสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปต่างรวมใจคว่ำบาตรรัสเซียทุกทาง มุ่งเน้นไปที่การอายัดทรัพย์สินของบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซีย อายัดทรัพย์สินของธนาคารบางแห่ง ตัดสิทธิการซื้อขายตราสารหนี้ของธนาคารดังกล่าวในตลาดการเงินสหรัฐฯและยุโรป ตัดธนาคารบางแห่งออกจากระบบ SWIFT และตัดธนาคารกลางของรัสเซียไม่ให้ทำธุรกรรมสกุลเงินดอลลาร์

นอกจากนั้น ทางยุโรปยังยุติการซื้อขายพลังงานจากรัสเซียอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการตัดแขนตัดขาของรัสเซียเช่นเดียวกัน

ขณะเดียวกันบรรดาบริษัทเอกชนต่างๆ ก็กระโดดเข้ามาร่วมวงถอนตัวจากรัสเซีย เช่น มาสเตอร์การ์ดและวีซ่า ที่ระงับการให้บริการเครือข่ายชำระเงินกับสถาบันการเงินของรัสเซียหลายแห่ง ขณะที่วอลท์ ดิสนีย์, วอร์เนอร์ บราเธอร์ส, โซนี่ พิกเจอร์ และเน็ตฟลิกซ์ ได้ระงับการนำภาพยนตร์ออกฉายในรัสเซีย

ส่วนมาตรการต่อไปของยุโรปกับสหรัฐฯก็คือคว่ำบาตรคนใกล้ชิดกับวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย ซึ่งก็มีนักธุรกิจมากมายที่ร่ำรวยมากๆที่ใกล้ชิดกับปูติน

และหนึ่งในนั้นก็คือ “เสี่ยหมี” โรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรชาวรัสเซีย โดยก่อนหน้านี้สมาชิกรัฐสภาของอังกฤษได้ออกมาเรียกร้องให้บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยึดทรัพย์ของ “เสี่ยหมี”

แต่ทางจอห์นสันก็ยังนิ่งโดยยืนยันว่าเรื่องนี้ต้องทำอย่างละเอียด!!

จนล่าสุดวันนี้ รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศสั่งคว่ำบาตรและอายัดทรัพย์สิน โรมัน อบราโมวิช เป็นที่เรียบร้อย เพื่อเป็นการตอบโต้จากกรณีที่ประเทศรัสเซียรุกรานยูเครน

จากการคว่ำบาตรครั้งนี้ เชลซีได้รับผลกระทบแบบเต็มๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งส่งผลให้ไม่สามารถทำการซื้อขายสโมสรแห่งนี้ได้

หลังก่อนหน้านี้ “เสี่ยหมี” ได้ประกาศขายสโมสรอย่างเป็นทางการ

นอกจากนั้น เชลซีก็จะไม่สามารถขายตั๋วเข้าชมเกมได้อีกต่อไป ส่งผลให้จะมีแค่แฟนบอลที่ถือตั๋วปีเท่านั้นที่สามารถเข้าสนามได้ รวมทั้งไม่สามารถขายสินค้าต่างๆได้อีกด้วย

เท่านั้นยังไม่พอเชลซียังไม่สามารถเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ หรือแม้แต่ทำการต่อสัญญากับผู้เล่นในทีม อย่างไรก็ตาม “สิงห์บลู” ยังคงได้รับอนุญาตให้แข่งฟุตบอลได้ตามปกติ

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดของเชลซียังไม่หมด หากสถานการณ์แย่ที่สุด “สิงห์บลู” ถูกเข้าควบคุมกิจการสโมสรก็มีสิทธิที่จะโดนตัด 9 คะแนนตามกฎของพรีเมียร์ลีก เหมือนกับหลายสโมสรที่ไม่สามารถแบกรับหนี้สินจนต้องยอมรับการควบคุมกิจการ

แถม “ทรี” สปอนเซอร์บนหน้าอกเสื้อของเชลซี ก็กำลังพิจารณาสถานการณ์ของ “สิงห์บลู” อย่างใกล้ชิด

แต่แว่วๆออกมาว่ามีโอกาสค่อนข้างสูงที่จะถอนตัวจากสปอนเซอร์เช่นเดียวกัน

จากบทลงโทษครั้งนี้บอกตรงๆก็ถือว่าไม่แฟร์เช่นกัน เพราะเชลซีไม่ได้ทำผิดกฎอะไรแม้แต่นิดเดียว แต่โดนลงโทษค่อนข้างรุนแรงเลยทีเดียว

เพียงแค่มีเจ้าของเป็นคนรัสเซียเท่านั้น!!

มะระหวาน