หน้าแรกแกลเลอรี่

แชมป์ที่สิงห์รอคอย

มะระหวาน

14 ก.พ. 2565 05:08 น.

นับตั้งแต่โรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เข้ามาเทกโอเวอร์กิจการของเชลซี ในปี 2003 ก็ได้เริ่มต้นสร้างให้ “สิงห์” จากทีมระดับกลางของตารางให้กลายเป็นยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกในเวลาอันสั้น

หลังจากที่ “เสี่ยหมี” เข้ามาเป็นเจ้าของได้เพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น เชลซีก็ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกของสโมสรทันทีในฤดูกาล 2004-2005 หลังจากห่างหายจากลีกสูงสุดไปนานกว่า50ปี แถมปีนั้น “สิงห์บลู” ยังคว้าแชมป์ลีกคัพมาครองอีก

และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เชลซีก็เดินหน้ากวาดแชมป์มาครองมากมาย คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปแล้ว5สมัยเอฟเอคัพ 5 สมัย ลีก คัพ 3สมัยยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก2 สมัย และยูฟ่ายูโรปาลีก2สมัย

เรียกได้ว่า เชลซีแทบจะไม่เคยห่างเหินการเป็นแชมป์เกิน 2 ปีเลย

แต่อย่างไรก็ตาม มีเพียงแค่รายการเดียวเท่านั้นที่ทางเชลซียังไม่เคยได้ นั่นก็คือแชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ หรือแชมป์สโมสรโลก รายการนี้ทำได้ดีที่สุดก็คือรองแชมป์ในปี 2012

ในตอนนั้นเชลซีพ่ายแพ้ให้กับโครินเธียนส์ ไป 0-1 ได้เป็นแค่พระรองเท่านั้น ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นถ้วยใบเดียวที่ “สิงห์บลู” ไม่สามารถคว้ามาครองได้

ขณะเดียวกันการที่จะผ่านเข้าไปเล่นในรายการนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นโควตาของแชมป์แต่ละทวีปที่จะได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันนั่นหมายความว่าเชลซีต้องคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก มาครองให้ได้

ซึ่งมันก็เป็นเรื่องค่อนข้างยาก เพราะเสือสิงห์กระทิงแรดในเวทีลูกหนังยุโรปเยอะแยะเหลือเกินกว่าจะฝ่าฟันมาถึงแชมป์นั้นไม่ง่าย

แต่สุดท้ายเชลซีก็ทำได้สำเร็จในฤดูกาลที่แล้วเมื่อพลพรรคสิงห์บลู เอาชนะเพื่อนร่วมลีกอย่างแมนฯ ซิตี้ ไปได้ คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก สมัยที่สองของสโมสรได้สำเร็จ

นั่นคือความหวังของเชลซีที่จะมีโอกาสคว้าแชมป์ที่สโมสรไม่เคยได้อีกครั้ง ซึ่งถ้าหากเชลซี ทำได้ก็จะกลายเป็นทีมที่คว้าแชมป์ทุกรายการหลังจากรอมานาน 9 ปีด้วยกัน

“สิงห์บลู” ออกสตาร์ตลงเล่นรายการนี้ในรอบรองชนะเลิศก่อนจะเอาชนะอัล ฮิลาล จากซาอุดีอาระเบีย มาได้ 1-0 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับพัลไมรัส ทีมแกร่งจากแดนแซมบ้า รอบชิงชนะเลิศเชลซีออกนำไปก่อนจาก โรเมลู ลูกากู ในนาทีที่ 54 แต่พัลไมรัสก็ไม่ยอมแพ้มาตามตีเสมอได้จากราฟาเอล เวกา นาทีที่64 จากนั้นทั้งสองทีมก็ทำอะไรกันไม่ได้ จบ 90 นาที

เสมอกันไป 1-1 ต้องเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษ

ในช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 117 เชลซีก็มาได้จุดโทษ ก่อนจะเป็นไค ฮาเวิร์ตซ์ กองหน้าชาวเยอรมัน ซัดเข้าไปให้เชลซีเฉือนชนะพัลไมรัส 2-1 ผงาดคว้าแชมป์สโมสรโลกมาครองได้สำเร็จ

ซึ่งจังหวะการยิงจุดโทษนั้นต้องขอชื่นชม เซซาร์ อัซปิลิกวยตา ปราการหลังกัปตันทีมของเชลซี ที่ทำหน้าที่ตัวหลอกล่อว่าจะเป็นคนยิงจุดโทษ จนทำให้ผู้เล่นพัลไมรัสเข้ามากดดันเขาอย่างหนักเพราะคิดว่าเขาจะเป็นคนยิงจุดโทษ

แต่หลังจากกรรมการเคลียร์ผู้เล่นพัลไมรัสออกไปทั้งหมดแล้วอัซปิก็เดินไปยื่นบอลให้กับไครับหน้าที่ยิงแทนและทางอดีตกองหน้าเลเวอร์คูเซนก็ซัดเข้าไปแบบไม่มีปัญหา

งานนี้เล่นเอาผู้เล่นพัลไมรัสเหวอเลยทีเดียว เพราะคิดว่าแนวรับชาวกระทิงดุจะเป็นคนยิงเอง

เรียกได้ว่าการคว้าแชมป์สโมสรโลกครั้งนี้ทุกคนทำเต็มที่เพื่อเจ้าของสโมสรที่ยังไม่เคยสัมผัสแชมป์นี้

สิ้นสุดการรอคอยของ “เสี่ยหมี” โรมัน อับราโมวิช ที่รอถ้วยแชมป์นี้มานานกว่า 9ปี!!

มะระหวาน