ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2021

กลางสัปดาห์นี้ยาวจนถึงสุดสัปดาห์หน้าจะมีการแข่งขันอีกหนึ่งรายการของวงการลูกหนังที่สำคัญ “ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2021” หรือศึกชิงแชมป์สโมสรโลกปี 2021 โดยปีนี้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน

สำหรับศึกชิงแชมป์สโมสรโลกปี 2021นั้นเจอโรคเลื่อนมาจากในปีที่แล้ว หลังจากที่ญี่ปุ่น เจ้าภาพประเทศแรกได้ประกาศถอนตัวจากการรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศนั้นยังไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น

ตอนแรกสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นหรือ “เจเอฟเอ” ขอรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของสมาคม แต่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศยังหนักหนาสาหัสอยู่ ทำให้ทางญี่ปุ่นได้ตัดสินใจยกเลิกการเป็นเจ้าภาพ

ไม่รู้ว่ากลัวจะมีปัญหาโดนแอนตี้แบบช่วงโอลิมปิกเกมส์ 2020 หรือเปล่า

หลังจากเจ้าภาพจัดการแข่งขันถอนตัว ทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีฟ่า”ในฐานะเป็นเจ้าของทัวร์นาเมนต์ก็ได้เฟ้นหาเจ้าภาพจัดการแข่งขันใหม่

และสุดท้ายก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในตะวันออกกลางอย่าง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่ค่อนข้างพร้อมในเกือบทุกๆ ด้านจริงๆ แถมยังไม่ค่อยมีปัญหากับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกด้วย

สำหรับศึกฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ จะเป็นการนำเอาแชมป์ในระดับสโมสรของทวีปต่างๆเข้ามาฟาดแข้งกัน เพื่อหาผู้ชนะเพียงแค่ 1 เดียวที่จะกลายเป็นสโมสรที่เจ๋งที่สุดในโลกของปีนั้นๆ

สำหรับในปี 2021 นั้นมี 7 ทีมเข้าร่วมลงแข่งขัน โดย 6 ทีมคือตัวแทนจากทวีปต่างๆประกอบด้วย เชลซี (แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก/อังกฤษ), พัลไมรัส (แชมป์คอนเมโบล ลิเบอร์ตาดอเรส/บราซิล), อัล ฮิลาล (แชมป์เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก/ซาอุดีอาระเบีย), อัล อาห์ลี (แชมป์ซีเอเอฟ แชมเปียนส์ลีก/อียิปต์), มอนเตอร์เรย์ (แชมป์คอนคาเคฟ แชมเปียนส์ลีก/เม็กซิโก), แอส ปิราร์ (ตัวแทนจากโอเอฟซี/ตาฮิติ) ส่วนอีกทีมนั้นมาจากเจ้าภาพได้แก่ อัล จาซิรา คลับ (แชมป์ยูเออี โปร ลีก/ยูเออี)

โดย 2 ทีมจากทวีปยุโรปและอเมริกาใต้จะได้สิทธิ์ลงทำการแข่งขันในรอบตัดเชือกทันทีส่วนทีมอื่นๆก็ลงแข่งขันแบบน็อกเอาต์ไล่มาเรื่อยๆ

ตอนนี้ได้ทำการแข่งขันรอบแรกกับรอบสองกันไปแล้ว โดยรอบแรกอัล จาซิรา เอาชนะแอส ปิราร์ ไปได้ 4-1 ทำให้อัล จาซิรา ผ่านเข้ารอบสองไปดวลกับอัล ฮิลาล ซึ่งผู้ชนะคู่นี้จะไปเจอกับ เชลซี ที่ยืนรออยู่ในรอบตัดเชือกโดยจะลงทำการแข่งขันในวันที่ 9 ก.พ.นี้

ส่วนสายล่างออกสตาร์ตในรอบสอง อัลอาห์ลี เชือดมอนเตอร์เรย์ไป 1-0 ผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปเจอกับพัลไมรัส ในวันที่ 8 ก.พ.นี้

ซึ่งหากดูตามหน้าเสื่อรอบชิงชนะเลิศคงไม่น่าจะพลาด เป็นการพบกันของเชลซีกับพัลไมรัส แน่นอน เพราะเกรดบอลและชั้นเชิงของทั้งสองเหนือกว่าทีมอื่นๆเยอะมาก

โดย “สิงห์บลู” มาแข่งรายการนี้ก็หวังว่าจะคว้าแชมป์มาครองให้ได้ หลังจากเคยลงเล่นมาแล้ว 1 ครั้งในปี 2012 แต่ครั้งนั้นก็เป็นพระรองเท่านั้นหลังจากพ่ายแพ้ โครินเธียนส์ ไป 0-1
เช่นเดียวกับพัลไมรัสก็ยังไม่เคยได้แชมป์และเคยลงเล่นรายการนี้มาครั้งเดียวเช่นกัน

ก็ต้องมาดูกันว่าทีมไหนจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์ของสโมสรที่จะคว้าแชมป์รายการนี้เป็นครั้งแรกได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นบอลลูกกลมๆอะไรก็เกิดขึ้นได้อาจจะพลิกล็อกไม่ใช่คู่ชิงคู่นี้ก็เป็นได้!!

มะระหวาน