บ๊าย...บาย...“โอเล่”

ในที่สุดสิ่งที่แฟนบอล “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกก็สุขสมหวังเสียที หลังจากบอร์ดบริหารของยูไนเต็ด ได้สั่งปลดโอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์เวย์ ออกจากตำแหน่งหลังจากพ่ายแพ้วัตฟอร์ดยับเยิน 1–4

เอาเข้าจริงๆสาวก “เรด เดวิลส์” ก็คิดว่ามันควรจะปลด “โอเล่” ตั้งนานแล้วนับตั้งแต่พ่าย ลิเวอร์พูลยับเยินคาบ้าน 0-5 หรือแม้กระทั่งเกมพ่ายแมนฯ ซิตี้ แบบไร้ทางสู้ 0-2 ด้วยซ้ำไป

ตอนแรกเกมที่ชนะสเปอร์ส ได้ 2-1 ทำท่าว่า “ปิศาจแดง” จะกลับมาคืนฟอร์ม แต่พอมาเจอกับแมนฯ ซิตี้ ในนัดต่อไปก็วนมาคำตอบเหมือนเดิมควรปลด “โซลชา”

สำหรับตัวผู้เขียนเองก็ชื่นชอบ “โอเล่” เป็นการส่วนตัวก็ค่อนข้างหนุนหลังกุนซือชาวนอร์เวย์มาตลอด

แต่ช่วงหลังๆไม่รู้ว่ากุนซือวัย 49 ปี จะติดนิสัยแก่เกินวัยมากเกินไปหรือเปล่าย้ำคิดย้ำทำตลอดโดยเฉพาะจัดตัวลงสนามคนที่เล่นห่วยอย่างเฟรด หรือสกอตต์ แมคโทมิเนย์ ก็ให้ลงสนามจัง ของดีๆ ที่พอจะเปลี่ยนทีมได้อย่างดอนนี ฟาน เดอ เบค หรือแม้กระทั่งเจสซี ลินการ์ด กลับจับนั่งสำรองตลอด

เท่านั้นยังไม่พอ โอเล่ยังทำตัวเหมือนกุนซือ ที่ไม่มีกึ๋นซักเท่าไร เปลี่ยนตัวแต่ละทีเอาแฟนบอลละเหี่ยใจ ฟอร์มการเล่นแข้ง “ปิศาจแดง” แย่ทั้งเกมแต่เปลี่ยนตัวตอนนาทีที่ 80 หรือ 85 เพื่อแก้เกม

แบบนี้มันเรียกแก้เกมตรงไหน เปลี่ยนตัวฆ่าเวลารอวันพ่ายแพ้มากกว่า

นอกจากนั้น โซลชาแทบจะไม่มีจังหวะเทกแอ็กชันสวยๆข้างสนามให้แฟนบอลได้ชุ่มชื่นหัวใจว่ากุนซือของพวกเราออกมากระตุ้นนักเตะ ออกมาแก้เกม ทำเต็มที่อยู่ข้างสนาม

เชื่อว่าถ้า โอเล่ทำตัวข้างสนามอย่างที่บอกไปแฟนบอลก็ยังให้อภัยได้เพราะทำเต็มที่แล้ว

แต่ตอนนี้ทำอะไร นั่งเงียบๆข้างสนาม บอลนำก็นั่ง บอลตามก็นั่ง โดนยิง 2 เม็ดก็แล้ว 3 เม็ดก็แล้ว ยาวไปจนถึง 5 เม็ด ก็ยังนั่งกัดนิ้วอยู่เลย

รู้ว่าเครียดแต่คุณยิ่งไม่ทำอะไร ส่งผลให้นักเตะก็เครียดแฟนบอลก็เครียด เพราะมีกุนซือนั่งอยู่ข้างสนามเหมือนถูกบังคับให้มาคุมทีมซะแบบนั้น

จะว่า “โอเล่” ออกไปจากทีมในตอนนี้ก็ยังดีกว่า เพราะอย่างน้อยเขาก็ยังพอจะเป็นที่รักของแฟนบอล เพราะลูกยิงประตูชัยช่วงทดเจ็บพา “ปิศาจแดง” เป็นทริปเปิลแชมป์ในปี 1999 ยังติดตาตรึงใจสาวก “ปิศาจแดง” อยู่วันยังค่ำไม่มีทางที่จะลืมเลือนได้เลย

เพราะถ้ายังทนฝืนนั่งกุนซือ “ผี” ต่อไปจนทีมพังพินาศไปมากกว่านี้จากรักก็จะกลายเป็นเกลียดเอาได้ง่ายๆ

ฟางเส้นสุดท้ายระหว่าง “โอเล่” กับ “ปิศาจแดง” ก็คือการบุกไปพ่ายวัตฟอร์ด 1-4 ที่เล่นได้อย่างห่วยแตก

การโดนทีมอย่างวัตฟอร์ดนำห่างถึง 4-0 ในครึ่งแรกมันยากที่บอร์ดบริหาร “ปิศาจแดง” จะรับได้

สุดท้ายก็ทำในสิ่งที่แฟนบอลต้องการในที่สุด

หลังจากนี้ในตำแหน่งที่ว่า ไมเคิล คาร์ริค อีกหนึ่งอดีตแข้งแมนฯ ยู ก็จะรับหน้าที่คุมทีมชั่วคราวไปก่อน

รอกุนซือคนใหม่ที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทน บอกเลยว่าตอนนี้ช้อยส์ให้เลือกค่อนข้างน้อย แม้ว่ามีข่าวมาว่าตระกูลเกลเซอร์อยากได้ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือชาวฝรั่งเศส เข้ามาคุมทีมเป็นอย่างมาก

แต่เจ้าตัวก็อินดี้เหลือเกินไม่อยากรับงานในลีกผู้ดี

แต่สุดท้ายเชื่อว่า “ปิศาจแดง” จะมีวิธีโน้มน้าวใจให้ “ซิซู” ยอมเข้ามาคุมทีมในถิ่นโอลด์แทรฟเฟิร์ดได้แน่

เชื่อว่า ซีดาน น่าจะเป็นผู้ที่เหมาะสมในการกอบกู้ “ปิศาจแดง” ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งได้!!

มะระหวาน