ฝันใกล้เป็นจริง

เมื่อช่วงเมษายนปี 2020 สาวก “ทูน อาร์มี” ยิ้มรับข่าวดีเมื่อกลุ่มทุน พับลิค อินเวสต์เมนท์ ฟันด์ เตรียมเข้ามาเทกโอเวอร์กิจการของ “สาลิกา” นิวคาสเซิล ไปร่วมทีม โดยพร้อมจ่าย 300 ล้านปอนด์ (ประมาณ 13,923 ล้านบาท) เพื่อปิดดีลนี้ให้ไวที่สุด

โดยกลุ่มทุนดังกล่าวนั้นมาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยมีโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย เป็นผู้นำ ซึ่งเจ้าชายบิน ซัลมาน ถือว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

ตอนนั้นแฟนบอลสาลิกาคงมีความสุขสุดๆ เพราะสโมสรอันเป็นที่รักจะพ้นมือของ ไมค์ แอชลีย์ เจ้าของทีมคนปัจจุบันที่ค่อนข้างขี้เหนียวขี้ตืดไม่ยอมควักเงินเพื่อซื้อนักเตะชื่อดังมาร่วมทีมเลยแม้แต่คนเดียว จนทำให้ “สาลิกา” ต้องวนเวียนอยู่ในช่วงครึ่งล่างของตาราง

หากกลุ่มทุนซาอุเข้ามาเทกโอเวอร์ปุ๊บก็น่าจะมีนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์ของโลกเข้ามาเล่นในถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ค และอาจจะมีลุ้นพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกก็เป็นได้

แต่ความฝันของสาวก “ทูน อาร์มี” ต้องพังทลายอย่างรวดเร็ว เนื่องจากบีอิน สปอร์ตส์ (beIN) ผู้ถือลิขสิทธิ์ใหญ่ของบอลอังกฤษ ได้ส่งจดหมายถึงทีมพรีเมียร์ลีกว่า ให้ร่วมคัดค้านการเทกโอเวอร์ เพราะเงินที่นำมาเทกโอเวอร์นั้นมีที่มาไม่โปร่งใส

นอกจากนั้นยังแฉว่าที่ซาอุ ได้มีสตรีมมิงเถื่อนลักลอบถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก โดยใช้ชื่อ “beoutQ” ซึ่งการลักลอบถ่ายทอดสดดังกล่าวทำให้ทุกทีมเสียรายได้!!
เท่านั้นยังไม่พอทางองค์กรสิทธิมนุษยชน และแอมเนสตี้ (องค์การนิรโทษกรรมสากล) ได้ออกมาคัดค้านเช่นกัน เพราะอ้างว่า ราชวงศ์ของซาอุดีอาระเบียเคยมีข่าวการละเมิดสิทธิมนุษยชนหลายครั้ง

สุดท้ายเรื่องวุ่นวายต่างๆ นานา ผ่านไป 4 เดือน กลุ่มทุนซาอุก็ประกาศยกธงขาวไม่ซื้อ นิวคาสเซิลแล้ว

แต่เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาก็มีข่าวที่สาวก “ทูน อาร์มี” ได้ยิ้มออกอีกครั้งหลังจากผิดหวังไป 1 ปีเต็มๆ เมื่อมีรายงานของ “ดิ แอธเลติก” สื่อชื่อดังรายงานว่าทางกลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบียจ่อได้รับไฟเขียวให้ซื้อกิจการของนิวคาสเซิล ไปครองแล้ว
ซึ่งมูลค่าในการเทกโอเวอร์นั้นเท่าเดิม 300 ล้านปอนด์ (ประมาณ 13,923 ล้านบาท)

โดยสื่อดังกล่าวรายงานว่าสาเหตุที่ทาง กลุ่มทุนซาอุเตรียมเข้าฮุบกิจการของ “สาลิกา” ได้นั้นก็คือสามารถตกลงข้อพิพาทกับ “บีอิน สปอร์ตส์” ได้เรียบร้อย
หากกลุ่มทุนได้กลายเป็นเจ้าของทีม

คนใหม่ก็จะทำให้นิวคาสเซิลกลายเป็นสโมสรฟุตบอลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกแทนที่ของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อนร่วมลีกทันที

เนื่องจากมีรายงานว่าครอบครัวของ โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มีทรัพย์สินมากถึง 320,000 ล้านปอนด์ เรียกได้ว่าแปลงเป็นเงินไทยไม่ถูกเลยทีเดียวแต่รู้อย่างเดียวว่ามหาศาลมากๆ

จำนวนดังกล่าวมีมากกว่า ชีค มันซูร์ เจ้าของทีมเรือใบสีฟ้า 10 เท่า และมากกว่า
นาสเซอร์ อัล เคไลฟี เจ้าของทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง 50 เท่าเลยทีเดียว
เรียกได้ว่าบรรดาสื่อหลักของอังกฤษและของโลกตีข่าวดังซะขนาดนี้การเทกโอเวอร์ครั้งนี้คงไม่พลาดแน่ๆ

สาวก “ทูน อาร์มี” ที่ฝันค้างมานานจะกลายเป็นฝันที่เป็นจริงซักที!!

ฝันที่เป็นจริงไม่ใช่เรื่องการเสริมทัพแข้งระดับโลกหรือมีเงินมาช็อปปิ้งแบบไม่อั้นหรอกนะ

แต่ฝันที่เป็นจริงคือการให้สโมสรที่รักพ้นจากมือชายที่ชื่อ “ไมค์ แอชลีย์” เท่านั้นเอง!!

มะระหวาน