มะระหวาน
ระฆังการเริ่มศึกพรีเมียร์ลีกได้เริ่มต้นขึ้นแล้วหลังจากเสียงเป่านกหวีดของกรรมการในศึกคอมมูนิตี้ ชิลด์ เกมระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก กับเลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เอฟเอ คัพ ดังขึ้น
ผลปรากฏว่า “จิ้งจอกสยาม” เป็นฝ่ายเอาชนะ “เรือใบสีฟ้า” ไปได้ 1-0 จากจุดโทษของเคเลชี อิเฮียนาโช ที่รับบทฮีโร่ยิงเข้าไปพา เลสเตอร์คว้าโล่การกุศลมาครองได้สำเร็จ
นอกจากผลการแข่งขันแล้วเชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่หลายฝ่ายจับตามองก็คือการลงสนามของแจ็ค กรีลิช กองกลางตัวรุกคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่พกสถิติเป็นนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดในเกาะอังกฤษหลังย้ายมาจาก “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา ด้วยค่าตัว 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,600 ล้านบาท)
กรีลิชสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นให้กับ วิลลา นับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเล่นชุดใหญ่และก็ยังสามารถพา “สิงห์ผงาด” กลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง
แม้ว่าขุมกำลังของวิลลาจะเป็นรองหลายๆทีมในพรีเมียร์ลีก แต่กรีลิชก็ได้ฉายแสงไม่มีหยุดปั่นป่วนแนวรับทีมระดับท็อปได้เช่นกัน
นอกจากในระดับสโมสรแล้ว กรีลิชก็ยังสร้างผลงานได้แจ่มให้กับทีมชาติอังกฤษอีกด้วย โดยเฉพาะในศึกยูโร 2020 กรีลิชก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดที่ช่วยพา “สิงโตคำราม” ทะยานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ แม้ว่าจะอกหักได้เพียงแค่รองแชมป์ยูโรก็ตาม
สำหรับกรีลิชก็ตกเป็นข่าวกับบรรดาทีมดังของพรีเมียร์ลีกไม่ว่าจะเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือแมนเชสเตอร์ ซิตี้
แต่สุดท้ายก็เป็นแมนฯ ซิตี้ ที่เดินเกมม้วนเดียวจบยอมจ่าย 100 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวของ กรีลิชมาครอง หลายคนคงจะงงว่าทำไมทางวิลลายอมปล่อยตัวของกรีลิชง่ายๆ
โดยมีแหล่งข่าววงในเผยว่าตัวเลขของ 100 ล้านปอนด์ นั้นก็คือตัวเลขค่าฉีกสัญญาของ กรีลิชที่มีอยู่แล้ว ทำให้ทางวิลลาปฏิเสธไม่ได้
แต่ถึงไม่มีตัวเลขค่าฉีกสัญญาจำนวนเงิน 100 ล้านปอนด์ในช่วงวิกฤติเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดอย่างหนักแบบนี้ใครไม่เอาก็บ้าแล้ว
การได้ตัวของกรีลิชมานั้นทำให้แมนฯ ซิตี้ แข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งกรีลิชได้ประเดิมสนามในเกมคอมมูนิตี้ ชิลด์ไปประมาณ 25 นาที ซึ่งก็ยังวัดอะไรได้ไม่มากเท่าไร
แต่เป๊ป กวาร์ดิโอลา นายใหญ่ชาวกระทิงดุ ก็ค่อนข้างพอใจกับฟอร์มการเล่นของลูกทีมคนใหม่รายนี้มากๆ
เชื่อว่าอาจจะต้องใช้เวลาอีกซักนิดที่กรีลิช จะต้องปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนร่วมทีมใหม่ แต่เชื่อว่าไม่ยากเท่าไรเพราะอย่างน้อยๆเล่นอยู่ลีกเดิม แค่ปรับนู่นนิดนี่หน่อยก็น่าจะกลับมาเป็นกรีลิช คนเดิมได้ไม่ยาก
แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตามกรีลิชมาก็คือความกดดันอย่างแน่นอน เพราะสถิติค่าตัว 100 ล้านปอนด์ ติดตัวมานั้นไม่ธรรมดา
นั่นแหละคือปัญหาใหญ่ที่สุดที่ทางกรีลิช จะต้องโชว์ให้เห็นว่าเล่นยังไงให้คุ้มกับค่าตัว โดยเฉพาะแฟนบอลที่หวังว่าการได้กรีลิชมาจะช่วยพาทีมกวาดแชมป์
โดยเฉพาะยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ที่ยังเฝ้ารออยู่ เพราะถ้าหากทำไม่ได้ก็จะโดนคำว่า “ค่าตัวแพงที่สุดในอังกฤษ” เล่นงานจนเล่นไม่ออกเอาได้ง่ายๆ
ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นเยอะแยะไป!!!
มะระหวาน