พาวเวอร์บอมบ์
บทสรุปของฟุตบอลยูโร 2020 ก็อย่างที่ทราบๆกันว่า “อัซซูรี” อิตาลี ดวลลูกโทษที่จุดโทษเอาชนะ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ไปได้ในรอบชิงชนะเลิศ
จากผลการแข่งขันดังกล่าวมีความเห็นหลังเกมออกมาในหลากหลายมิติ ทั้งเรื่องของแท็กติกการเล่น การเปลี่ยนตัวผู้เล่น หรือแม้กระทั่งการวางแผนการยิงจุดโทษ
วันก่อนผมอ่านบทความหนึ่งที่ทางเพจ Avarin Running and Triathlon. ได้แชร์เอาไว้เป็นเรื่องเกี่ยวกับมุมของ “จิตวิทยา” ของ Health Performance Team น่าสนใจเป็นอย่างมาก ลองไปอ่านกันครับ Sports psychology กับการยิงลูกโทษ
เราทราบไปแล้วว่า Football is coming Rome ไปเรียบร้อย อังกฤษยิงนำไปก่อน แต่ถูกตีเสมอ 1-1 จบด้วยการยิงลูกโทษ Donnarumma (จิอัน–ลุยจิ ดอนนารุมมา) save 2 ลูก พาอิตาลีคว้าแชมป์
การยิงลูกโทษในระดับนี้ Mind หรือ psychology มีส่วน 50% ได้เลย 25% ต่อมาจาก เทคนิคการยิง และอีก 25% มาจากโชค
จิตวิทยาทางกีฬาจึงมีผลมาก และสำคัญในการดวลชี้เป็นชี้ตาย ชี้แชมป์ความแตกต่างที่เราเห็นได้ จังหวะเตรียมยิงจุดโทษ
ผู้เล่นอิตาลีสุมหัว รวมกับผู้จัดการทีม ปลุกพลัง ปลุกความมั่นใจ รวมกันเป็นหนึ่ง
มีการเสริมความมั่นใจรายบุคคล กับผู้รักษาประตูอิตาลี Donnarumma เรียกว่าเพิ่มพลังความมั่นใจให้กับผู้รักษาประตูในการป้องกัน
ส่วนทีมอังกฤษ ผู้จัดการทีมใช้เวลาส่วนใหญ่ กับการสั่ง เลือก ชี้นักเตะ ใครคือ 1-5 แถมมีการ เปลี่ยนตัวล่วงหน้า เอานักเตะที่มี skill การยิงประตูดีเข้ามายิง
นักเตะที่ถูกเปลี่ยนเข้ามา ถูกเพิ่มแรงกดดัน ว่าต้องยิงให้เข้า เพราะเปลี่ยนตัวมาเพื่อการนี้
ยิ่งกดดัน ยิ่งไม่เป็นธรรมชาติ ยิ่งเสียเปรียบ กว่าการยิงแบบไม่กดดัน
สุดท้าย อังกฤษยิงไม่เข้า 3 คน Rashford (มาร์คัส แรชฟอร์ด) ยิงออก
Sancho (เจดอน ซานโช) ยิงติด และลูกสุดท้าย Saka (บูกาโย ซากา) ยิงติด
ความมั่นใจของผู้รักษาประตู บวกกับความกดดันของนักเตะอังกฤษ ทำให้การชนะลูกโทษไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
แต่มีส่วนผสมมาจาก Sports psychology หรือจิตวิทยาการกีฬาที่ซ่อนอยู่.
พาวเวอร์บอมบ์