ไทยรัฐออนไลน์
"สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ โชว์ฟอร์มหรูเอาชนะ ทีมชาติยูเครน ไปขาดลอย 4-0 เข้ารอบรองชนะเลิศยูโร 2020
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ประจำวันเสาร์ที่ 3 ก.ค. 64 คู่ที่น่าสนใจที่สนามสตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม ประเทศอิตาลี "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ ดวลเดือดกับ ทีมชาติยูเครน
เปิดฉากครึ่งแรกมาแค่ 4 นาที อังกฤษ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง จ่ายบอลทะลุเข้าเขตโทษให้ แฮร์รี เคน ซัดด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย
จากนั้นนาทีที่ 17 ยูเครน เกือบตีเสมอ จากจังหวะที่ ไคล์ วอลเกอร์ กองหลังอังกฤษ จ่ายบอลพลาดมาเข้าทาง โรมัน ยาเรมชุค กระชากเข้าเขตโทษแล้วซัดด้วยซ้าย ร้อนถึง จอร์แดน พิคฟอร์ด ต้องปัดออกไป
จากนั้นนาทีที่ 29 โอกาสของอังกฤษ เมื่อ ลุค ชอว์ เปิดฟรีคิกจากฝั่งซ้ายเข้ากรอบเขตโทษ แฮร์รี เคน โหม่งข้ามคานออกไป
ถัดมา 4 นาที อังกฤษ เกือบได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะที่ ดีแคลน ไรซ์ ยิงไกลด้วยขวา บอลพุ่งทั้งแรงทั้งส่าย แต่ จอร์จ บุชชาน ปัดออกไปได้
ถึงนาทีที่ 40 อังกฤษ ทำเกมกันสวย ราฮีม สเตอร์ลิง จ่ายให้ ลุค ชอว์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจ่ายเข้ากลางให้ จาดอน ซานโช กลับตัวยิงด้วยขวา แต่ จอร์จ บุชชาน เซฟออกไปได้ แต่ถ้าเข้าก็ล้ำหน้าตั้งแต่ ลุค ชอว์ แล้ว
และในนาทีที่ 44 ยูเครน ได้ลุ้นจากการยิงไกลของ มีโคลา ชาปาเรนโก บอลติดไซด์ก้อยหลุดเสาไป
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 47 อังกฤษ หนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ลุค ชอว์ เปิดฟรีคิกจากฝั่งขวาเข้าไปหน้าประตู และเป็น แฮร์รี แม็คไกวร์ โหม่งเข้าไปอย่างสวยงาม
จากนั้นนาทีที่ 50 อังกฤษ นำห่าง 3-0 เมื่อ ลุค ชอว์ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ แฮร์รี เคน โขกเข้าไปไม่เหลือซาก
ถึงนาทีที่ 63 อังกฤษ เกือบบวกสกอร์เพิ่มจากการวอลเลย์ของ แฮร์รี เคน บอลจะมุดเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ จอร์จ บุชชาน บินปัดออกไปได้อย่างสุดยอด
และในนาทีเดียวกัน อังกฤษ ได้ประตูหนีไปไกลเป็น 4-0 จากจังหวะที่ เมสัน เมาท์ เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งขวาเข้ากรอบเขตโทษ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่เพิ่งลงมาเป็นตัวสำรองโฉบมาโหม่งเข้าไปไม่พลาด
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ทีมชาติอังกฤษ ชนะ ทีมชาติยูเครน 4-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปเจอกับ ทีมชาติเดนมาร์ก ในวันที่ 7 ก.ค. 64 เวลา 02.00 น.
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม มีดังนี้
ทีมชาติอังกฤษ: จอร์แดน พิคฟอร์ด (GK), ไคล์ วอลเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี แม็คไกวร์, ลุค ชอว์, ดีแคลน ไรซ์, คัลวิน ฟิลลิปส์, จาดอน ซานโช, ราฮีม สเตอร์ลิง, เมสัน เมาท์ และ แฮร์รี เคน
ทีมชาติยูเครน: จอร์จ บุชชาน (GK), วิตาลี มายโกเลนโก, มีโคลา มัตวิเยนโก, เซอร์เกย์ คริฟต์ซอฟ, อิลเลีย ซาบาร์นยี, อเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ, มีโคลา ชาปาเรนโก, เซอร์ฮี ซีดอร์ชุค, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก, อังเดรย์ ยาร์โมเลนโก และ โรมัน ยาเรมชุค