ไทยรัฐออนไลน์
บรรดาสนามและแฟนบอลในเยอรมนี พร้อมใจแสดงพลังสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ ในเกมยูโร 2020 พบ ฮังการี หลังถูก ยูฟ่า ห้ามเปิดไฟสนามแข่งเป็นสีรุ้ง
วันที่ 24 มิ.ย. 64 ควันหลงฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2020" รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่มเอฟ ซึ่ง เยอรมนี ทำได้แค่เสมอ ฮังการี 2-2 แต่ยังเพียงพอที่ "อินทรีเหล็ก" จะเข้ารอบ 16 ทีม ในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม มี 4 คะแนนเท่ากับ โปรตุเกส ที่เสมอ ฝรั่งเศส 2-2 แต่ "ฝอยทอง" จบที่อันดับ 3 เนื่องจากผลงานเฮด-ทู-เฮดเป็นรอง เยอรมนี จากการแพ้ 2-4 ในเกมที่ 2
ก่อนเกมนี้ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ปฏิเสธคำร้องจากนายกเทศมนตรีเมืองมิวนิกที่ขอให้สนามอัลลิอันซ์ อารีนา เปิดไฟเป็นสีรุ้ง โดยมองว่าเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะอาจมีวัตถุประสงค์ที่จะประท้วงกฎหมายใหม่ของ ฮังการี คู่แข่งของ เยอรมนี ที่ห้ามเผยแพร่เนื้อหาที่เข้าข่ายสนับสนุนแนวคิดเกี่ยวกับ LGBTQ+ (กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ) ให้กับคนที่อายุไม่เกิน 18 ปี รวมถึงในโรงเรียน
ทำให้สนามฟุตบอลของหลายสโมสรในเยอรมนี ตัดสินใจเปิดไฟเป็นสีรุ้งระหว่างเกมยูโร 2020 ที่ เยอรมนี ปะทะ ฮังการี ทั้งที่เบอร์ลิน, โวล์ฟสบวร์ก, เอาก์สบวร์ก, แฟรงก์เฟิร์ต และ โคโลญจน์ เพื่อแสดงจุดยืนในการสนับสนุนกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศแทนสังเวียนอัลลิอันซ์ อารีนา ที่ถูกสั่งห้าม
ส่วนในสนาม มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูกัปตันทีมชาติเยอรมนี ก็ยังคงสวมปลอกแขนสีรุ้งลงสนามเหมือนกับ 2 เกมแรกที่เจอ ฝรั่งเศส และ โปรตุเกส ซึ่ง ยูฟ่า ตัดสินใจไม่สอบสวน นอยเออร์ จากการแสดงออกดังกล่าว
ขณะที่แฟนบอลเยอรมนีรายหนึ่งได้ถือธงสีรุ้งลงไปในสนาม ระหว่างที่นักเตะทีมชาติฮังการีกำลังร้องเพลงชาติอยู่ เพื่อประท้วงกฎหมายของ ฮังการี ที่ปิดกั้นความเท่าเทียมกันทางเพศ ก่อนโดนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามารวบและพาตัวออกจากสนาม
นอกจากนั้น แฟนบอลเยอรมนีทั่วไปที่เข้ามาชมเกมที่ อัลลิอันซ์ อารีนา หลายรายเลือกที่จะสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ ด้วยการสวมหน้ากาก, เสื้อ และพกธงสีรุ้งติดตัวเข้าไปเชียร์ทีม "อินทรีเหล็ก" ในสนาม.