เทียบสถิติ-ค่าพลัง "สวิตเซอร์แลนด์" บู๊ "ตุรกี" ชี้ชะตาลิ่วหรือร่วง ยูโร 2020

ไทยรัฐออนไลน์

20 มิ.ย. 2564 06:10 น.

วัดค่าพลัง-สถิติก่อนเกมยูโร 2020 ส่งท้ายกลุ่มเอ ซึ่ง สวิตเซอร์แลนด์ กับ ตุรกี จะชี้ชะตาว่าใครจะเข้ารอบหรือม้วนเสื่อกลับบ้าน พร้อมทำนายผล

สวิตเซอร์แลนด์ VS ตุรกี

รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 กลุ่ม A

วันที่ : 20 มิถุนายน 2564 เวลา 23.00 น.

สนาม : บากู โอลิมปิก สเตเดียม, กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน

ถ่ายทอดสด : ช่อง NBT 2HD (หมายเลข 2)

เกมรุก

หากตัดผลงานที่ผ่านมาทั้งในรอบคัดเลือก, รายการอื่นๆ และเกมอุ่นเครื่อง ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ยังต้องแก้เรื่องความคมในการจบสกอร์ หลังจากเกมแรกครองบอลบุกเหนือกว่า เวลส์ ชัดเจนถึง 62 เปอร์เซ็นต์ มีโอกาสลุ้นทำประตูถึง 18 ครั้ง แต่ซัดตรงกรอบเพียง 4 ครั้ง จนทำได้แค่เสมอ 1-1

ส่วนเกมที่ 2 ขุนพลแดนนาฬิกาอาจสู้ อิตาลี ที่เหนือชั้นกว่าไม่ได้จนพ่ายไป 0-3 แต่เมื่อดูการครองบอลที่เหนือกว่าด้วยตัวเลข 51 เปอร์เซ็นต์ ทว่ากลับได้สับไก 6 ครั้ง แต่เข้ากรอบแค่ครั้งเดียว ก็พอจะบ่งชี้ได้ว่ากองหน้าอย่าง บรีล เอ็มโบโล, ฮาริส เซเฟโรวิช, มาริโอ กาฟราโนวิช ต้องปรับปรุงเรื่องความเด็ดขาดโดยเร็ว หากยังหวังเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่มเอ หรืออันดับ 3 ที่ดีที่สุด 1 ใน 4 ทีมจาก 6 กลุ่ม

เช่นเดียวกับ ทีมชาติตุรกี ที่เท้าบอดตลอด 2 นัดแรก เริ่มจากคู่เปิดสนาม ยูโร 2020 ที่แพ้ อิตาลี 0-3 ก็ปราชัยแบบไร้ทางสู้ มีโอกาสยิงแค่ 3 ครั้ง โดนบล็อกไป 2 หน และไม่ตรงกรอบเลย ต่อมาเกมที่ 2 แม้จะหาจังหวะเข้าทำได้มากขึ้นถึง 17 ครั้ง แต่ก็ยิงเข้ากรอบ 5 ครั้ง หลุดกรอบ 5 ครั้ง ถือว่าเกมรุกยังจูนกันไม่ติด ก่อนแพ้ เวลส์ อีก 0-2

ดังนั้น บรรดากองหน้าอย่าง บูรัค ยิลมาซ กัปตันทีมวัย 35 ปี, เจงกิซ อุนแดร์, เคนาน คารามาน หรือแม้แต่ ฮาลิล เดอร์วิโซกลู ดาวรุ่งความหวังใหม่ที่มักเป็นตัวสำรองที่ถูกส่งลงมาพลิกเกม หากโอกาสมาถึงเมื่อไรต้องใช้ให้คุ้มค่าที่สุดจึงจะมีลุ้นต่อลมหายใจเฮือกสุดท้ายในการเข้ารอบด้วยโควตาอันดับ 3 ที่ดีที่สุด โดยต้องชนะให้มากที่สุด เนื่องจากมีผลต่อการตัดสินด้วยประตูได้-เสีย

คะแนน : สวิตเซอร์แลนด์ 6.5 / ตุรกี 6.5

-----

เกมรับ

ทั้ง 2 ทีมต่างก็เสีย 3 ประตูในเกมแพ้ อิตาลี ซึ่งบุกได้อย่างดุดันและเข้าทำหลากหลายพร้อมกับความเฉียบคมด้วยสกอร์ 0-3 เท่ากัน จึงอาจจะพอสูสีกันในส่วนนี้ อย่างไรก็ตาม สวิตเซอร์แลนด์ ไล่เอาบอลกลับมาจาก "อัซซูรี" ได้ถึง 47 ครั้ง ดีกว่า ตุรกี ที่ทำได้ 41 ครั้ง

แต่ถ้าเทียบกับการเจอกับ เวลส์ แล้ว ดูเหมือนว่า สวิตเซอร์แลนด์ จะดีกว่าเล็กน้อย หลังจาก 3 แนวรับ ฟาเบียน แชร์, มานูเอล อาคานจี และ นิโก เอลเวดี รับมือการโจมตีบนพื้นได้ เพียงแต่มาพ่ายแพ้ให้กับลูกกลางอากาศจากกองหน้าเจ้าเวหาอย่าง คีฟเฟอร์ มัวร์ เท่านั้น ก่อนเสมอ 1-1 โดยไล่เอาบอลกลับคืนมาได้ 32 ครั้ง

ส่วน ตุรกี ลงเอยด้วยการพ่ายแพ้ "มังกรแดง" 0-2 ซึ่งก็เกือบจะไหลถึง 3 ลูกด้วย หาก แกเร็ธ เบล ไม่สังหารจุดโทษข้ามคานออกไปเอง ทำให้ "ไก่งวง" เสียไปแล้วถึง 5 ประตู มากที่สุดในทัวร์นาเมนต์ ณ เวลานี้เท่ากับ มาซิโดเนียเหนือ ในกลุ่มซี แต่เมื่อเทียบการไล่เอากลับคืนมาจาก เวลส์ แล้วก็ยังเท่ากับ สวิตเซอร์แลนด์ ที่ 32 ครั้ง

ผลแพ้ชนะของคู่นี้จึงน่าจะต้องตัดสินกันว่าเกมรับของใครจะเล่นผิดพลาดน้อยกว่ากัน

คะแนน : สวิตเซอร์แลนด์ 6.5 / ตุรกี 6

-----

ความแข็งแกร่ง

จุดนี้ สวิตเซอร์แลนด์ ดูจะได้เปรียบกว่า เนื่องจากนักเตะถึง 19 คน ค้าแข้งในลีกระดับท็อป 5 ลีกของยุโรป โดยมีถึง 12 คนเล่นใน บุนเดสลีกา เยอรมัน, 3 คนใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, 2 คนใน กัลโช เซเรีย อา อิตาลี และอีก 2 คนใน ลีกเอิง ฝรั่งเศส เรื่องความแข็งแกร่งและประสบการณ์ในเกมระดับสูงจึงหายห่วง

ผิดกับ ตุรกี ที่มีผู้เล่นถึง 11 คนเล่นอยู่ในประเทศของตัวเอง ส่วนอีก 15 คนแม้จะค้าแข้งต่างแดน แต่ก็มีนักเตะฝังตัวใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปรวมกัน 12 คนเท่านั้น และใน 26 ขุนพลมีถึง 10 รายที่อายุไม่เกิน 23 ปี เรื่องความนิ่งและประสบการณ์จึงอาจเป็นรองอยู่บ้าง ดังนั้น เสาหลักในเกมรับอย่าง เมริห์ เดมิรัล, ชากลาร์ โซยุนชู รวมถึงจอมทัพอย่าง ฮาคาน ชัลฮาโนกลู และ บูรัค ยิลมาซ กองหน้ากัปตันทีม ต้องงัดความเก๋ามาช่วยประคับประคองให้มากที่สุด

คะแนน : สวิตเซอร์แลนด์ 72 / ตุรกี 70

-----

ฟอร์มการเล่น

แม้เพิ่งแพ้ อิตาลี แบบขาดลอย แต่ถ้านับย้อนหลังจากนั้นไปอีก 8 นัดก็ยังแพ้ใครไม่เป็น และชนะถึง 6 เกมด้วย ยิงไป 19 เสีย 6 แม้ส่วนใหญ่จะชนะทีมที่ชื่อชั้นเป็นรอง แต่ก็ยังเอาชนะทีมระดับเดียวกันอย่าง ยูเครน (3-0), สหรัฐอเมริกา (2-1) และเสมอทีมที่เหนือกว่าอย่าง สเปน (1-1) ได้เช่นกัน

ส่วน "ไก่งวง" ตุรกี ตอนนี้กลายเป็น "ไก่ง่วง" ไปแล้ว แม้เคยท็อปฟอร์มเอาชนะทั้ง เนเธอร์แลนด์ 4-2 และ นอร์เวย์ 3-0 ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป เดือนมีนาคม แต่ 6 นัดล่าสุดกลับฟอร์มแกว่ง ชนะ 2 เสมอ 2 กับทีมที่เป็นรองอย่าง อาเซอร์ไบจาน, มอลโดวา, ลัตเวีย และ กินี ก่อนมาแพ้ อิตาลี กับ เวลส์ ใน 2 เกมแรก เกมนี้จึงอยู่ในสภาพหลังชนฝา ต้องเค้นฟอร์มกลับมาชนะให้ได้

คะแนน : สวิตเซอร์แลนด์ 79 / ตุรกี 65

-----

แท็กติก

2 นัดที่ผ่านมาการแก้เกมของ สวิตเซอร์แลนด์ ถือว่ากล้าได้กล้าเสียไม่น้อย โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่เห็นว่าเป็นรอง อิตาลี ก็เลือกถอดกองหลังอย่าง ฟาเบียน แชร์ ออกไปแล้วหยอด สตีเวน ซูเบอร์ ที่เป็นมิดฟิลด์ลงไปเสริมแดนกลาง พร้อมกล้าถอดนักเตะความหวังอย่าง เซอร์ดาน ชากิรี ออกมาพักแล้วเติม รูเบน วาร์กัส ซึ่งเป็นกองหน้าลงไปเพิ่มความสดในแนวรุก

ดังนั้น หากเกมนี้ต้องเข้าตาจนอีก กุนซือ วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช อาจพร้อมปรับหมากให้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ของเกมก็เป็นได้

ด้าน เซนอล กูเนส เหมือนจะยังไม่เจอทีมที่ใช่ แม้เกมล่าสุดที่พบ เวลส์ จะเปลี่ยน 2 ตำแหน่งจากเกมแรกที่แพ้ อิตาลี 0-3 ด้วยการเลือก เจงกิซ อุนแดร์ กับ คาน อายฮาน ลงมาแทน ยูซุฟ ยาซิชี กับ เมริห์ เดมิรัล ใน 11 คนแรก แต่สุดท้ายก็ต้องส่ง 2 ตัวจริงจากเกมแรกลงไปเป็นตัวสำรองในครึ่งหลังอยู่ดี ขณะที่ตัวเปลี่ยนอีก 3 รายก็ล้วนเป็นการเปลี่ยนตามตำแหน่งทั้งสิ้น

ทำให้ กูเนส ที่เคยพา "ไก่งวง" ไปถึงอันดับ 3 ในฟุตบอลโลก 2002 แบบพลิกความคาดหมาย อาจต้องงัดเวทมนตร์ที่เคยใช้ได้ผลในครั้งนั้นออกมากอบกู้สถานการณ์ในแมตช์ชี้เป็นชี้ตายเช่นนี้อีกหน

คะแนน : สวิตเซอร์แลนด์ 76 / ตุรกี 75

-----

ขวัญกำลังใจ

แน่นอนว่าผลงานใน 2 นัดที่ผ่านมา ตุรกี น่าจะระส่ำระสายอยู่ไม่น้อย นอกจากจะแพ้รวดพร้อมกับเสียประตูมากที่สุดในรายการนี้แล้ว ยังหาสกอร์แรกไม่เจออีกต่างหาก จึงต้องหวังพึ่งพลังฮึดสู้เฮือกสุดท้ายตลอดจนปาฏิหาริย์ให้ช่วยพลิกสถานการณ์กลับคืนมา แต่หากดูสถิติการพบกัน 15 ครั้งก็ยังเหนือกว่า จึงยังพออุ่นใจว่าโชคชะตาอาจเข้าข้างอีกครั้งก็ได้

ขณะที่ สวิตเซอร์แลนด์ เพิ่งจะแพ้ อิตาลี 0-3 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ปราชัยในรอบ 9 เกมหลังสุด รวมถึงเสมอ เวลส์ 1-1 แบบน่าชนะมากกว่า ทำให้ความมั่นใจอาจจะถดถอยลงไปบ้าง แต่เมื่อมาเจอกับ "ไก่งวง" ที่กำลังย่ำแย่ จึงเป็นโอกาสดีที่จะช่วยจุดประกายให้ขุนพล "แดนนาฬิกา" มีความมุ่งมั่นในการเอาชนะ เพื่อความหวังสุดท้ายสำหรับการลุ้นเข้ารอบ

คะแนน : สวิตเซอร์แลนด์ 77 / ตุรกี 68

-----