ไทยรัฐออนไลน์
เจาะค่าพลัง เปิดสถิติ เวลส์ ปะทะ ตุรกี ซึ่งทั้งคู่หลังพิงฝาน่าเปิดเกมแลกเพื่อแย่งกันคว้าชัย เพิ่มโอกาสลุ้นเข้ารอบ ยูโร 2020 พร้อมทำนายสกอร์
เวลส์ VS สวิตเซอร์แลนด์
รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 กลุ่ม A
วันที่ : 16 มิถุนายน 2564 เวลา 23.00 น. (เวลาประเทศไทย)
สนาม : บากู โอลิมปิก สเตเดียม, กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน
ถ่ายทอดสด : NBT2HD
เกมรุก
ทีมชาติตุรกี ต้องเร่งแก้ปัญหาแนวรุกปืนฝืด เพราะหลายเกมที่ผ่านมา หากไม่เข้าตาจนชนิดต้องไล่ตีเสมอคู่แข่งก็มักจะซัดไม่เกิน 1 ประตู ส่วนเกมอุ่นเครื่อง 3 นัดก่อนเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ก็ยิงได้เพียง 4 ลูก
อีกทั้งนัดเปิดสนาม ยูโร 2020 ที่แพ้ อิตาลี 0-3 ก็ปราชัยแบบไร้ทางสู้ มีโอกาสยิงเพียง 3 ครั้ง โดนบล็อกไป 2 หน และไม่ตรงกรอบเลย ดังนั้นกองหน้าอย่าง บูรัค ยิลมาซ กัปตันทีม, เจงกิซ อุนแดร์, เคนาน คารามาน หรือแม้แต่ ฮาลิล เดอร์วิโซกลู ดาวรุ่งความหวังใหม่ต้องใช้โอกาสไม่เปลืองจึงจะมีลุ้นต่อความหวังเข้ารอบ
ส่วนทีมชาติเวลส์ แม้รูปแบบการเข้าทำจะยังไม่หลากหลาย แต่ก็เล่นแบบรู้จักตัวเองด้วยการอาศัยจุดเด่นในเรื่องความเร็วของตัวริมเส้นทั้ง แกเร็ธ เบล และ แดเนียล เจมส์ คอยปั่นป่วนคู่แข่ง รวมถึงการเปิดบอลจากด้านข้างให้ศูนย์หน้าตัวเป้าคอยโฉบเข้าไปโหม่งลุ้นทำประตู
ซึ่ง คีฟเฟอร์ มัวร์ จาก คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ก็แจ้งเกิดสำเร็จ แม้เป็นกองหน้าสไตล์โบราณ อาศัยรูปร่างสูงใหญ่พักบอลในแดนหน้า ใช้จุดแข็งจากลูกกลางอากาศคอยกดดัน แต่ก็ได้ผลดีจนพังประตูตีเสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1 แบ่งแต้มเกมแรกได้สำเร็จ ช่วยลบจุดบอดจากที่ยิงแค่ 3 ลูกจาก 5 นัดก่อนหน้านี้ในปี 2021 ได้ เหลือเพียงระวังอย่าโดนใบเหลืองเพิ่ม เพื่อเลี่ยงโทษแบนในนัดสุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม ที่ต้องเจองานช้างอย่าง อิตาลี
คะแนน : ตุรกี 7 / เวลส์ 7
-----
เกมรับ
แม้ในรอบคัดเลือก ตุรกี จะมีเกมรับที่แข็งแกร่งจนเสียประตูน้อยที่สุด ก่อนเข้ารอบสุดท้ายในฐานะรองแชมป์กลุ่มเอช โดยถูกเจาะแค่ 3 ประตู เท่ากับ เบลเยียม แชมป์กลุ่มไอ แต่เมื่อเข้าสู่ปี 2021 "ไก่งวง" เสียไปถึง 9 ประตูจาก 7 นัด ทำให้ เซนอล กูเนส ต้องทำการบ้านขันเกมรับให้แน่นหนาขึ้น โชคดีที่ ชากลาร์ โซยุนชู ปราการหลังตัวเก่งจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ยังฟิตกลับมาทันลงคุมแนวรับ แม้จะพลาดการซ้อมเมื่อวันอาทิตย์ก็ตาม
ขณะที่เกมรับของ เวลส์ แม้จะต้านไม่ค่อยอยู่เมื่อเผชิญหน้าทีมที่ชื่อชั้นเหนือกว่า เคยแพ้ อังกฤษ และ ฝรั่งเศส ด้วยสกอร์ 0-3 เท่ากัน ตลอดจนแพ้ เบลเยียม 1-3 แต่เมื่อเจอกับทีมระดับใกล้เคียงก็เสียประตูยากเช่นกัน แม้เกมแรกจะโดน สวิตเซอร์แลนด์ นวดจนป้อแป้ แต่ยังเอาตัวรอดมาได้จากการโดนส่องถึง 18 ครั้ง เซฟได้ 3 หน และบล็อกได้อีก 4 ที หากไม่ผิดพลาดเรื่องการยืนตำแหน่งเองก็มีลุ้นไม่แพ้เป็นอย่างน้อย
คะแนน : ตุรกี 7 / เวลส์ 6.5
-----
ความแข็งแกร่ง
ด้วยความที่ "ไก่งวง" ตุรกี เน้นนักเตะพลังหนุ่ม มีถึง 10 รายที่อายุไม่เกิน 23 ปี แน่นอนว่าเรื่องความสดหายห่วง แต่เรื่องกระดูกและประสบการณ์อาจยังไม่แก่กล้า ต้องพึ่งพาความจัดเจนของนักเตะที่เล่นในลีกใหญ่เป็นสำคัญ ทั้ง ฮาคาน ชัลฮาโนกลู จอมทัพเอซี มิลาน ซึ่งนัดที่แล้วโดน อิตาลี ปิดเกมจนแผลงฤทธิ์ไม่ออก แต่การเจอ เวลส์ อาจคายพิษสงได้มากขึ้น เช่นเดียวกับ ยูซุฟ ยาซิชี แนวรุกลีลล์ ชุดแชมป์ลีกเอิง ฝรั่งเศส
ส่วน "มังกรแดง" มีจุดเด่นที่ความแข็งแกร่งและสไตล์การเล่นที่ดุดันเป็นทุนเดิม เพราะผู้เล่นถึง 24 จาก 26 คนของทีมชุดนี้คุ้นเคยกับเกมหนักหน่วงในศึกพรีเมียร์ลีก, แชมเปียนชิพ และ ลีกวัน ของอังกฤษทุกสัปดาห์ หากไม่เข้าบอลพรวดพราดหรือปะทะโฉ่งฉ่าง ก็อาจใช้จุดนี้เล่นงานคู่ต่อสู้ที่มีมาตรฐานใกล้เคียงกันได้
คะแนน : ตุรกี 75 / เวลส์ 78
-----
ฟอร์มการเล่น
แม้เดือนมีนาคม ตุรกี จะท็อปฟอร์ม เอาชนะได้ทั้ง เนเธอร์แลนด์ 4-2 และ นอร์เวย์ 3-0 ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป แต่หลังจากนั้น 5 นัดหลังสุดยังลุ่มๆ ดอนๆ ชนะ 2 เสมอ 2 กับทีมที่เป็นรองอย่าง อาเซอร์ไบจาน, มอลโดวา, ลัตเวีย และ กินี ก่อนมาแพ้ อิตาลี ยับเยินในคู่เปิดทัวร์นาเมนต์ ดังนั้นการเจอ เวลส์ คืนนี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะลุ้นเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมา
ส่วน "มังกรแดง" แม้ 6 นัดหลังสุดจะชนะ, เสมอ และแพ้ 2 ครั้งเท่ากัน แต่ก็เป็นการแพ้ทีมใหญ่กว่าอย่าง เบลเยียม (1-3) และ ฝรั่งเศส (0-3) ส่วนการปะทะกับทีมที่สูสีกันก็จัดว่ากินลงยาก ทั้ง เม็กซิโก และ เช็ก ก็ยังต้องเสียท่าให้มาแล้ว การเจอกับ "ไก่งวง" ที่ดูพอฟัดพอเหวี่ยงจึงไม่น่าจะเป็นด่านที่ยากเกินกำลังมากนัก
คะแนน : ตุรกี 70 / เวลส์ 70
-----
แท็กติก
แน่นอนว่าการแพ้ อิตาลี ขาดลอยในเกมแรกอาจจะยังตัดสินอะไรไม่ได้กับการทำทีมของ เซนอล กูเนส ที่เคยฝากผลงานโลกตะลึงไว้ในฟุตบอลโลก 2002 พา ตุรกี คว้าอันดับ 3 และได้รองแชมป์กลุ่มเอชในรอบคัดเลือก โดยไม่แพ้อันดับ 1 ของกลุ่มอย่าง ฝรั่งเศส แชมป์ฟุตบอลโลก 2018 (ชนะ 2-0 / เสมอ 1-1) ซึ่งเกมกับ เวลส์ จะเป็นบทพิสูจน์กึ๋นที่แท้จริงของกุนซือจอมเก๋าวัย 69 ปี ว่าดีพอจะพาทีมไปต่อได้หรือไม่
ด้าน โรเบิร์ต เพจ เฮดโค้ชชั่วคราวของ เวลส์ ก็แสดงให้เห็นว่าพอจะทดแทน ไรอัน กิกส์ ผู้จัดการทีมตัวจริงที่ติดคดีถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายอดีตแฟนสาวได้พอควร หลังแบ่งแต้ม สวิตเซอร์แลนด์ มาได้ กู้ชื่อจากการคุมทีมแพ้รวด 2 นัดในเกมอุ่นเครื่อง ซึ่งแมตช์นี้จะได้แสดงฝีมือว่ามีดีเกินกว่ากุนซือขัดตาทัพหรือเปล่า
คะแนน : ตุรกี 78 / เวลส์ 72
-----
ขวัญกำลังใจ
การพ่ายแพ้ อิตาลี แบบคนละชั้นในนัดเปิดการแข่งขัน อาจทำให้เสียขวัญไปพอสมควร แต่ก็เป็นเรื่องที่ยังพอเข้าใจได้ ซึ่งนัดนี้หากพลาดท่าปราชัยอีกก็มีโอกาสสูงที่จะต้องตกรอบเป็นทีมแรก ดังนั้น "ไก่งวง" ที่อยู่ในสถานการณ์หลังชนฝาจากการไร้คะแนนติดมือจึงต้องเดินหน้าบุกสถานเดียว เพื่อลุ้นคว้าชัยชนะให้ได้
เช่นเดียวกับ เวลส์ ที่ยังวางใจไม่ได้กับการมี 1 แต้ม เกมนี้อาจต้องสู้แบบถวายชีวิตเพื่อเก็บ 3 คะแนนให้ได้ เพราะนัดสุดท้ายต้องไปชนกับกระดูกชิ้นโตอย่าง อิตาลี ดังนั้นจึงไม่มีเกมไหนที่เป็นโอกาสดีในการลุ้นคว้าชัยเท่ากับการเจอ ตุรกี อีกแล้ว แต่การยันเสมอ สวิตเซอร์แลนด์ มาได้ น่าจะทำให้ลูกทีมของ โรเบิร์ต เพจ เล่นอย่างมีชีวิตชีวามากขึ้นไม่น้อย
คะแนน : ตุรกี 70 / เวลส์ 80
-----
คะแนนรวม : ตุรกี 74 / เวลส์ 75
-----
เฮด-ทู-เฮด (พบกัน 6 ครั้ง)
ตุรกี ชนะ 2
เสมอ 1
เวลส์ ชนะ 3
-----
ผลงาน 3 นัดล่าสุด
ตุรกี
แพ้ อิตาลี 0-3 (ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก กลุ่ม A)
ชนะ มอลโดวา 2-0 (อุ่นเครื่อง)
เสมอ กินี 0-0 (อุ่นเครื่อง)
เวลส์
เสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1 (ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก กลุ่ม A)
เสมอ แอลเบเนีย 0-0 (อุ่นเครื่อง)
แพ้ ฝรั่งเศส 0-3 (อุ่นเครื่อง)
-----
สกอร์ที่คาด : เวลส์ ชนะ 1-0