หน้าแรกแกลเลอรี่

ลูกหนังยูโร 2020 รวมพลังฝ่าวิกฤติโควิด

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

6 มิ.ย. 2564 05:01 น.

เหลืออีกเพียงแค่ไม่ถึงสัปดาห์ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2020 หรือ “ยูโร 2020” จะเปิดฉากขึ้นระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน ถึง 11 กรกฎาคม 2564 หลังจากโดนโรคเลื่อนมา 1 ปีเต็มๆ เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 ไปทั่วทั้งโลก

อย่างที่ทราบ “ยูโร 2020” เป็นการจัดการแข่งขันแบบพิเศษมีเจ้าภาพจัดการแข่งขันทั้งหมด 12 เมือง 12 ประเทศ เพื่อเป็นการฉลอง 50 ปีในการจัดการแข่งขันศึกชิงแชมป์ยุโรป

ประกอบด้วย บากู (อาเซอร์ไบจาน), โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก), ลอนดอน (อังกฤษ), มิวนิก (เยอรมนี), บูดาเปสต์ (ฮังการี), โรม (อิตาลี), อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์), ดับลิน (ไอร์แลนด์), บูคาเรสต์ (โรมาเนีย), เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย), กลาสโกว์ (สกอตแลนด์) และบิลเบา (สเปน)

สำหรับยูโร 2020 รอบสุดท้ายจะมี 24 ทีมฟาดแข้งเพื่อชิงเจ้ายุโรปมาครอง สำหรับผลประกบคู่แบ่งสายมีดังนี้ กลุ่มเอ : ตุรกี, อิตาลี, เวลส์, สวิตเซอร์แลนด์, กลุ่มบี : เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, เบลเยียม, รัสเซีย, กลุ่มซี : ฮอลแลนด์, ยูเครน, ออสเตรีย, นอร์ท มาซิโดเนีย

กลุ่มดี : อังกฤษ, โครเอเชีย, สกอตแลนด์, เช็ก, กลุ่มอี : สเปน, สวีเดน, โปแลนด์, สโลวะเกีย, กลุ่มเอฟ : ฮังการี, โปรตุเกส, ฝรั่งเศส, เยอรมัน

การเลื่อนออกมา 1 ปีไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน เพราะมันทำให้โปรแกรมการแข่งขันในวงการลูกหนังยุโรปบิดเบี้ยวไปเล็กน้อย

แต่ก็ต้องทำใจเพราะการระบาดของโควิด-19 ในตอนนั้นเรียกได้ว่ารุนแรงแบบสุดๆ บรรดาเจ้าภาพอย่างอิตาลี, เยอรมนี หรืออังกฤษ ก็โดนเชื้อไวรัสถล่มอย่างหนักมีคนเจ็บล้มตายกันมากพอสมควร

แม้ว่าจะเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขึ้น ซึ่งประเทศเจ้าภาพก็มีปัญหาพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องกฎการเข้าประเทศของชาติต่างๆ ที่แต่ละประเทศมีกฎทางด้านสาธารณสุขของตัวเอง

โดยฝ่ายจัดการแข่งขันก็ยังไม่ย่อท้อพยายามจะเก็บรักษาโอกาสที่จะให้มี 12 ชาติเจ้าภาพเหมือนเดิมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง

แต่ต้องมีข้อแม้ว่าประเทศเจ้าภาพต้องอนุญาตแฟนบอลเข้าชมเกมในสนามด้วย ไม่ว่าจะเป็น 25 เปอร์เซ็นต์ของสนาม, 30 เปอร์เซ็นต์ของสนาม หรือ 50 เปอร์เซ็นต์ของสนาม

จะให้เข้าชมเท่าไรก็ได้ “ยูฟ่า” ไม่แคร์ แต่ขอแค่ว่าต้องมีแฟนเข้าไปเชียร์เท่านั้นพอ

สุดท้าย “ยูฟ่า” ก็ต้านไม่ไหวต้องเหลือเจ้าภาพ 11 ชาติเท่านั้น เนื่องจากกรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ต้องถอนตัวออกจากการเป็นเจ้าภาพ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องสาธารณสุขในประเทศที่ใครเดินทางเข้าออกจากประเทศต่างๆ ต้องทำการกักตัว

ซึ่งทำให้ทาง “ยูฟ่า” ตัดสินใจโยกโปรแกรมการแข่งขันในกรุงดับลิน ไปแข่งกันที่เมืองเซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซีย และกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษแทน

มาถึงตอนนี้ก็เรียกว่าโค้งสุดท้ายของการเตรียมความพร้อมแล้ว เพราะศึก “ยูโร 2020” จะเปิดฉากวันแรกในวันที่ 11 มิ.ย.นี้ ที่โอลิมปิก สเตเดียม กรุงโรม ประเทศอิตาลี เจ้าภาพ “อัซซูรี” อิตาลี จะประเดิมสนามพบกับ “ไก่งวง” ตุรกี เวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ขณะที่รอบชิงชนะเลิศจะจัดการแข่งขันที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2564 เวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ส่วนปีนี้ก็ยังพิเศษ ทาง “ยูฟ่า” ได้เพิ่มโควตาของทีมต่างๆ ที่ปกติแล้วในทัวร์นาเมนต์รายการใหญ่ไม่ว่าจะฟุตบอลโลก หรือโปรแกรมระดับทวีป จะส่งผู้เล่นได้เพียงแค่ 23 คนเท่านั้น

แต่ปีนี้สุดพิเศษแต่ละทีมสามารถส่งเพิ่มได้อีก 3 รายให้เป็น 26 คน แต่มีข้อแม้ เวลาส่งชื่อในการแข่งขันแต่ละแมตช์จะส่งได้แค่ 23 รายเท่านั้น

เหตุที่ต้องเพิ่มนักเตะขึ้นมาอีก 3 รายก็เพราะต้องการให้ชาติต่างๆ มีตัวเลือกมากขึ้น เพราะนักเตะเกือบทุกทีมในซีซันนี้ที่ผ่านมากรำศึกหนักลงเตะกันถี่ยิบเนื่องจากต้นซีซันเริ่มต้นได้ช้าเพราะการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

สำหรับปีนี้ตัวเต็งแชมป์บริษัทพนันถูกกฎหมายในต่างประเทศยกให้ “ตราไก่” ฝรั่งเศส แชมป์โลก 2018 และ “สิงโตคำราม” อังกฤษ เป็นเต็ง 1 ร่วมกัน ที่อัตราต่อรอง 5/1 ขณะที่เบลเยียม รั้งเต็ง 3 ราคา 6/1 ส่วนเต็ง 4 เป็นเยอรมนี ราคา 15/2 ด้านโปรตุเกส แชมป์เก่า เป็นเต็ง 5 ร่วมกับสเปน ที่อัตราต่อรอง 8/1

อย่างไรก็ตาม บอลยูโร 2020 รอบสุดท้ายกำลังจะเตะอีก 5 วันข้างหน้านี้

แฟนบอลชาวไทยก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ชม “ยูโร 2020” ผ่านทางฟรีทีวี เพราะในปีนี้ไม่มีใครรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพถ่ายทอดสด

อย่าว่าแต่ฟรีทีวีเลย ขนาดเสียตังค์ก็ยังไม่มีให้ดูกันเลย

ช่วงเศรษฐกิจในยุคโควิด–19 ระบาดแบบนี้ไม่มีใครกล้าลงทุน

สุดท้ายแฟนบอลก็ต้องอดดูไปตามระเบียบ!!

ชานนท์ กล่ำดิษฐ์ เรื่อง...