ถึงเวลา “ปลากัด”

ตีมือดังๆให้พลพรรค “ค้างคาวมหากาฬ” เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นทีมเดียวจากไทยลีก 3 ที่ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอล “น็อกเอาต์” เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ หลังพวกเขาเปิดบ้านพลิกล้มยักษ์ หนองบัว พิชญ จ่าฝูงไทยลีก 2 ผู้ไม่เคยแพ้ใคร ด้วยสกอร์ 1-0

นับเป็นการเปิดตัวคุมทีมนัดแรกอย่างสวยสดงดงามของ “เซอร์เด็จ” จเด็จ มีลาภ ที่ช่วยปลุกความฮึกเหิมของแข้งเมืองกาญจน์ก่อนจะลงบู๊ศึกที 3 รอบแชมเปียนส์ลีก ที่จะเริ่มเปิดฉากกันตั้งแต่เสาร์-อาทิตย์ที่ 6 และ 7 ก.พ.นี้

พูดถึงลีกรากหญ้า รอบลุ้นตั๋วขึ้นสู่ลีกพระรอง ซึ่งถูกเรียกชื่อใหม่ว่า รอบ “เนชันแนล แชมเปียนชิป” ที่ฟังยังไงก็ยังไม่คุ้นแก้วหู เอาเป็นว่าผมขอเรียก “แชมเปียนส์ลีก” แบบเดิมแล้วกัน มันคล่องปากดี

โดยรอบนี้เหลือทีมหัวกะทิจากภาคต่างๆที่หลุดเข้ามาห้ำหั่นกันทั้งหมด 12 ทีม แบ่งสายออกมาได้ ดังนี้

โซนบน : ลำพูน วอริเออร์ (แชมป์โซนเหนือ), พิษณุโลก เอฟซี (รองแชมป์โซนเหนือ), ปลวกแดง ยูไนเต็ด (แชมป์โซนตะวันออก), ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี (รองแชมป์โซนตะวันออก), อุดร ยูไนเต็ด (แชมป์โซนตะวันออกเฉียงเหนือ), เมืองเลย ยูไนเต็ด (รองแชมป์โซนตะวันออกเฉียงเหนือ)

โซนล่าง : สงขลา เอฟซี (แชมป์โซนใต้), กระบี่ เอฟซี (รองแชมป์โซนใต้), เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด (แชมป์โซนตะวันตก), ราชประชา (รองแชมป์โซนตะวันตก), ม.นอร์ทกรุงเทพ (แชมป์โซน กทม. และปริมณฑล), บางกอก เอฟซี (รองแชมป์โซน กทม. และปริมณฑล)

ซึ่งถ้าถามผมว่าเชียร์ทีมไหนเป็นพิเศษในรอบแชมเปียนส์ลีก ก็คงแน่นอนว่าต้องเป็นทีมจังหวัดบ้านเกิด “ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี” หรือทีม “ปลากัดนักสู้” ที่ทุกคนรู้จักกันดี!!

บังเอิญวันก่อนผมเพิ่งไลฟ์สดคุยกับท่านประธานสโมสรหนุ่ม “บิ๊กเก่ง” ชนะวิทย์ ฉายแสง ซึ่งเป็นรุ่นน้องที่ ร.ร.เบญจมราชรังสฤษดิ์ สถาบันเก่าของผมสมัยมัธยม

ประธานเก่งเล่าให้ฟังว่า เขาพาทีมฉะเชิงเทรา เข้ามาเล่นในรอบแชมเปียนส์ลีกเป็นคำรบที่ 3 แล้ว 2 ครั้งแรกยอมรับว่าเรายังไม่พร้อมเท่าที่ควรเลยชวดขึ้นสู่ลีกรอง

ผิดกับคราวนี้ที่ตนใช้เวลา 3 ปีสร้างทีมชุดนี้จากเยาวชนของสโมสร จนก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักในทุกตำแหน่งด้วยค่าเฉลี่ยอายุเพียง 20 ปี ซึ่งถือว่า “ยังบลัด” สุดๆ

ผสมกับ 3 แข้งต่างชาติระดับคุณภาพคับแก้ว ที่มาเติมเขี้ยวเล็บได้อย่างลงตัวพอดี

ที่สำคัญแนวทางการทำทีมแบบ “ฉะเชิงเทรา เวย์” ที่เน้นให้ลูกทีมทุกคนสู้ตาย ด้วยสปิริตและทีมเวิร์กอันแรงกล้า

ทำให้แข้งปลากัดหนุ่มเข้าป้ายมาถึงรอบนี้ได้อีกครั้ง ตามเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่ต้นฤดูกาล

โดยโปรแกรมโม่แข้งของฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี จะประเดิมในวันเสาร์ที่ 6 ก.พ.นี้ ด้วยการบุกไปเยือนอุดร ยูไนเต็ด

จากนั้น 13 ก.พ. เยือนลำพูน วอริเออร์, 20 ก.พ.กลับมาเล่นในบ้านกับปลวกแดง ยูไนเต็ด, 27 ก.พ.ไปเยือนพิษณุโลก เอฟซี และ 6 มี.ค. เล่นเกมเหย้าอีกครั้ง กับเมืองเลย ยูไนเต็ด

หมดจากโปรแกรมนี้แล้ว ก็หวังว่าเราจะ (ยัง) ได้ลุ้นต่อ ในวันที่ 13–14 มี.ค. กับ 20–21 มี.ค. ซึ่งเป็นรอบชิงที่ 3 หรือชิงชนะเลิศ

ถึงเวลาแล้ว ที่ทีมปลากัดนักสู้แห่งเมือง แปดริ้ว จะได้ขึ้นไปสูดลมหายใจในไทยลีก 2 (เสียที)

ช่วยกันเชียร์ทีมลูกหนังบ้านผม “ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี”

ทำฝันของคนทั้งจังหวัด...ให้เป็นจริง ด้วยเถิด!!!

บี บางปะกง