มะระหวาน
หนักจริงๆสำหรับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 ในอังกฤษ จนนายบอริสจอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ต้องประกาศล็อกดาวน์หลายๆพื้นที่อีกครั้ง
โดยเฉพาะในกรุงลอนดอนที่ก่อนหน้านี้ได้รับการประกาศให้อยู่ในโซนเทียร์ 2 หรือพื้นที่ระดับ 2 ที่มียอดผู้ติดเชื้อปานกลางและจะได้รับอนุญาตให้เข้าชมกีฬากลางแจ้งได้ 50 เปอร์เซ็นต์ของความจุ แต่สูงสุดไม่เกิน 2,000 คน
แต่ล่าสุดตั้งแต่ช่วงคริสต์มาสก็ถูกยกระดับให้เป็นเทียร์ 4 ที่จะมีความเข้มงวดเทียบเท่ากับมาตรการล็อกดาวน์ปิดเมืองทั่วประเทศครั้งที่ 2 เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา
จนทำให้บรรดาสโมสรต่างๆในลอนดอน ก็ห้ามมีแฟนบอลเข้าชมเกมในสนาม หลังจากได้มีโอกาสคืนชีพให้กับวงการลูกหนังได้เพียงระยะสั้นๆ 1-2 นัดเท่านั้น
แฟนบอลอดเข้าชมในสนามไม่เท่าไรตอนนี้มีโอกาสที่จะอดชมเกมถ่ายทอดสดด้วยก็เป็นได้
เพราะตอนนี้การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในหมู่นักบอลพรีเมียร์ลีกก็มีมากมายหลายทีมเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่คนสองคนแล้ว ครั้งนี้เป็นการติดเป็นหมู่ใหญ่
โดยก่อนหน้านี้แมนฯซิตี้ก็เพิ่งโดนโควิด-19 เล่นงานหนักจนมีตัวหลักต้องพักไปถึง 5 ราย ไม่ว่าจะเป็นไคล์ วอล์คเกอร์, กาเบรียล เชซุสและ เอแดร์สัน เป็นต้น
จนถึงกับต้องปิดสนามซ้อมเพื่อทำการฆ่าเชื้อเป็นเวลา 2 วันกันเลยทีเดียว
จากเหตุดังกล่าวต้องเลื่อนเกมพบกับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ในช่วงปลายปีออกมาก่อน
เช่นเดียวกับ “เจ้าสัว” ฟูแลม ที่ก็มีนักเตะหลายคนติดเชื้อมรณะนี้เช่นกันจนต้องเลื่อนเกมพรีเมียร์ลีกไปอีกทีม
และก่อนหน้านี้นิวคาสเซิลก็มีติดเชื้อมากถึง 7 คนจนต้องเลื่อนเกมเช่นกัน
เคสของ “เรือใบสีฟ้า”, “เจ้าสัว” และ“สาลิกา” ดูเหมือนว่าจะหนักแล้ว
แต่พอมาเจอกับกรณีของแอสตัน วิลลา ดูเด็กไปเลย
เพราะ “สิงห์ผงาด” นั้นมีนักบอลและสตาฟฟ์โค้ชติดเชื้อโควิด-19 มากถึง 14 คนด้วยกัน
จนทำให้วิลลาต้องส่งเด็กชุดยู 23 ลงทำศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แทน
ซึ่งผลก็ออกมาเป็น “หงส์แดง” บุกไปสอย วิลลา ยับเยินคาถิ่น 4-1 ตบเท้าเข้าสู่รอบต่อไปแบบไม่ยากเย็น
ตอนแรกเกมนี้ก็ทำท่าจะเลื่อนเช่นกัน แต่ทางวิลลายอมใช้เด็กลงเล่น เพราะไม่อยากให้เลื่อนอีก ไม่เช่นนั้นโปรแกรมการแข่งขันจะเป็นคิวเตะถี่ยิบหลังจากนี้
ตอนนี้ก็ต้องไปลุ้นกันว่า แอสตัน วิลลา ที่มีคิวจะลงเตะเกมพรีเมียร์ลีกกับทอตแนม ฮอตสเปอร์ ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ จะสามารถเตะตามโปรแกรมได้ตามปกติหรือไม่
เรียกได้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ในเมืองผู้ดีหนักสุดๆกันไปเลยแม้ว่านายกรัฐมนตรีอังกฤษจะอนุญาตให้เกมพรีเมียร์ลีกลงเตะกันได้ตามปกติก็จริง
แต่ถ้าการระบาดในหมู่นักเตะยังไม่หยุดขนาดนี้ก็มีโอกาสเช่นกันที่พรีเมียร์ลีกอาจจะสั่งหยุดทำการแข่งขันก็เป็นไปได้
ก็ต้องตามดูกันว่าทางพรีเมียร์ลีกจะตัดสินใจยังไง ถ้าหยุดพักเบรกรับรองส่งผลกระทบกันเป็นทอดๆแน่นอน
แต่ที่แน่ๆ แฟนบอลชาวอังกฤษคงภาวนาให้เป็นแบบนั้น เพราะตอนนี้ไปไหนก็ไม่ได้ถ้าไม่มีบอลดูอีก
เรียกได้ว่าเซ็ง 2 เด้งกันเลย!!
มะระหวาน