ไทยรัฐออนไลน์
ในทุกๆครั้ง การคัดเลือกฟุตบอลโลก โซนยุโรป หรือยูฟ่า ถือเป็นโซนที่ได้รับความสนใจในทุกๆครั้ง เพราะถือเป็นโซนที่คัดเอาจำนวนทีมเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมากที่สุด อีกทั้งเป็นโซนที่มีทีมชั้นนำขวัญใจทั่วโลกต้องลงเล่นในโซนนี้เป็นจำนวนมาก จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป ถือเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ทั่วโลกต่างจับตามองเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ระบบการคัดเลือกของโซนยุโรป ถือเป็นโซนที่มีเสน่ห์ในด้านของการคัดเลือก เพราะมีเกณฑ์มากมายที่ถูกนำมาใช้สำหรับการจับสลากแบ่งสาย
และก่อนที่การคัดแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป จะมีกำหนดจับสลากในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ นี่คือรายละเอียดทั้งหมดที่แฟนฟุตบอลต้องรู้
รูปแบบการแข่งขัน
ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป จะคัด 13 ทีมเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่กาตาร์ โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็นสองรอบหลัก
รอบแบ่งกลุ่ม -- แบ่งกลุ่มออกเป็น 10 กลุ่ม กลุ่มละ 5-6 ทีม ทีมแชมป์ของแต่ละกลุ่มรวม 10 ทีมจะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ส่วนรองแชมป์ของทั้ง 10 กลุ่ม จะต้องมาแข่งขันรอบเพลย์ออฟ เพื่อหาอีก 3 ทีมเข้าสู่รอบสุดท้าย
รอบเพลย์ออฟ -- ทั้ง 10 ทีมรองแชมป์กลุ่ม จะมาสมทบกับทีมแชมป์ของฟุตบอล "ยูฟ่า เนชันส์ลีก" ในแต่ละลีกที่ผลงานดีที่สุด แต่ยังไม่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย รวมทีมที่จะเข้าแข่งขันรอบนี้ 12 ทีม
จากนั้น ทั้ง 12 ทีม จะถูกจับสลากมาอยู่ในเส้นทางต่างๆ รวม 3 เส้นทาง เส้นทางละ 4 ทีม ประกอบด้วย PATH A, PATH B และ PATH C แข่งขันในรูปแบบน็อกเอาต์นัดเดียวจบ (ทีมอันดับสองที่ผลงานดีที่สุดในรอบคัดเลือก 6 ทีม จะการันตีเล่นในบ้านรอบแรก ส่วนอีก 4 ทีมที่เหลือ และแชมป์จากยูฟ่า เนชันส์ลีกจะเล่นเป็นทีมเยือน ส่วนรอบชิงชนะเลิศของแต่ละเส้นทาง ตัดสินจากการจับสลาก)
ทีมที่เป็นแชมป์ของแต่ละเส้นทาง รวม 3 ทีม จะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ต่อไป
รูปแบบการจับสลาก
การจับสลากในรอบแบ่งกลุ่ม จะจัดโถทีมในแต่ละกลุ่ม จากอันดับโลกฟีฟ่า ที่จะประกาศในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ ทีมที่มีอันดับในโซนยุโรป อันดับ 1-10 จะอยู่ในโถที่ 1 (หากพิจารณาจากอันดับโลกปัจจุบัน จะประกอบด้วย เบลเยียม, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, โปรตุเกส, สเปน, โครเอเชีย, อิตาลี, เดนมาร์ก, เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์)
ส่วนทีมอันดับ 11-20 จะอยู่ในโถที่ 2 , ไล่เรียงไปในโถที่ 3, 4 และ 5 ส่วนทีมในโถที่ 6 จะมี 5 ทีม
จากนั้นทีมในแต่ละโถจะถูกจับสลากลงไปอยู่ในกลุ่ม A-J ไล่จากโถที่ 1 ไปยังโถสุดท้าย จนได้ทีมครบถ้วน
ให้โบนัสทีมผลงานดีเนชันส์ลีก
การจับสลากในรอบคัดเลือกของโซนยุโรปนั้น มีเงื่อนไขที่เพิ่มความได้เปรียบให้ทีมที่ทำผลงานในรายการ "ยูฟ่า เนชันส์ลีก" เพิ่มเติม โดยยูฟ่าจะให้สิทธิ์ทีมที่ผ่านเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายของลีก A ได้อยู่ในกลุ่มที่มี 5 ทีม โดยอัตโนมัติ (กลุ่ม A-E) ส่วนทีมอื่นๆ จะต้องไปอยู่ในกลุ่มที่มี 6 ทีม และต้องแข่งขันมากกว่าทีมอื่นๆ ถึง 2 นัด
ดังนั้น จึงเพิ่มความได้เปรียบให้กับทีมที่ทำผลงานเนชันส์ลีกได้ดี และยกระดับการแข่งขันในรายการเนชันส์ลีก ให้มีความสำคัญมากขึ้น
ปัญหาระหว่างประเทศ
จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศในยุโรป ทำให้ยูฟ่าตัดสินใจตัดปัญหาด้วยการให้ทีมที่มีความขัดแย้งไม่ต้องอยู่ในสายเดียวกัน ดังนี้
อาร์เมเนีย/อาเซอร์ไบจาน
ยิบรอลตาร์/สเปน
โคโซโว/บอสเนีย และเฮอร์เซโกวีน
โคโซโว/เซอร์เบีย
โคโซโว/รัสเซีย
ยูเครน/รัสเซีย
ดังนั้น หากสองทีมดังกล่าวถูกจับสลากมาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ทีมที่จับขึ้นมาเป็นลำดับที่สองจะโยกไปอยู่กลุ่มข้างๆ ทันที
ลดภาระการเดินทาง
การจับสลากครั้งนี้ ยูฟ่า ได้ลดความเหนื่อยล้าของการเดินทางเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด โดยกำหนดให้ทีมที่มีระยะการเดินทางไกลตามเกณฑ์ที่กำหนด อยู่ในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เกิน 1 คู่ หรือสองทีม โดยมี 20 คู่ที่มีระยะการเดินทางไกล ยกตัวอย่าง เช่น อังกฤษ-คาซัคสถาน, สเปน-คาซัคสถาน, ไอซ์แลนด์-อาเซอร์ไบจาน, อิสราเอล-ไอซ์แลนด์ เป็นต้น
หนีปัญหาหน้าหนาว
นอกเหนือไปจากนั้น ยูฟ่า ยังได้ระบุประเทศที่มีความเสี่ยงต้องเผชิญภัยหนาวไว้ 10 ประเทศ ที่จะถูกจับสลากมาอยู่ในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เกิน 2 ทีม ประกอบด้วย เบลารุส, เอสโตเนีย, หมู่เกาะแฟโร, ฟินแลนด์, ไอซ์แลนด์, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, นอร์เวย์, รัสเซีย และยูเครน
ขณะที่สองประเทศที่มีความเสี่ยงภัยหนาวสูงสุด คือ ไอซ์แลนด์ และหมู่เกาะแฟโร จะไม่ถูกจับสลากมาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน
จากภาพรวมดังกล่าว เราจะได้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ ในการจับสลากแบ่งสาย และจะได้รับรู้กันว่า 13 ทีมของโซนยุโรป ที่จะได้ผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย จะมีทีมใดบ้าง.
เรื่อง : ข้าวบาร์เลย์
ภาพ :