หมวดแซม
“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีอันต้องชีช้ำกะหล่ำปลีที่ตกรอบรองชนะเลิศ 3 รายการติดต่อกันในฤดูกาลนี้ หลังพลาดท่าพ่ายต่อเจ้าพ่อยูโรปา ลีกอย่างเซบีญา 1-2 ในเกมรอบรองชนะเลิศ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้พลพรรค “ปิศาจแดง” จบฤดูกาล 2019-20 แบบมือเปล่า ไร้ถ้วยแชมป์ติดมือ
จริงๆแล้ว “ผีแดง” ทำท่าจะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศแบบไม่ยากเย็น หลังได้ลูกจุดโทษตั้งแต่ต้นเกม จากจังหวะที่มาร์คัส แรชฟอร์ด โดนดีเอโก คาร์ลอส กองหลังเซบีญา ทำฟาวล์พุ่งเสียบจากด้านหลังในกรอบเขตโทษ และผู้ตัดสินชาวเยอรมันไม่ลังเลเป่าให้เป็นลุกจุดโทษของแมนฯยูทันที นับเป็นลูกจุดโทษครั้งที่ 22 ของพวกเขาในฤดูกาลนี้
ก่อนที่บรูโน แฟร์นันเดส มิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกส ที่รับหน้าที่สังหารจะกระโดดหนึ่งทีแล้วยิงเข้าประตูไป ชนิดที่นายทวารเซบีญาหมดสิทธิ์เซฟ ส่งผีแดงขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 9
แต่หลังจากนั้นกลายเป็นเซบีญาที่มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการยิงของซูโซ ในนาที 26 เท่านั้นยังไม่พอ ลุค เดอ ยอง ตัวสำรอง ยังมายิงประตูชัยในนาที 78 ช่วยให้ทีมแกร่งแดนกระทิงดุแซงคว้าชัยไปได้ 2-1 ส่งผลให้เซบีญา ได้เข้าชิงศึกถ้วยเล็กยุโรปเป็นสมัยที่ 6 โดยจะรอพบผู้ชนะระหว่างอินเตอร์ มิลาน หรือชัคตาร์ โดเนตสก์ จากยูเครน ต่อไป
เกมนี้แมนฯยูมีโอกาสทำประตูมากถึง 20 ครั้ง แต่ดันยิงทิ้งยิงขว้างกันไปเอง แถมยาสซีน บูนู นายทวารเซบีญา ยังโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมเซฟประตูได้ถึง 6 ครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถป้องกันลูกยิงของมาร์กเซียลได้ 2-3 ครั้ง
ด้านโอเล กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่ผีแดง ออกมาติงลูกทีมว่าจบสกอร์ไม่คม ทั้งที่มีโอกาสมากมายตลอดทั้งเกม
สำหรับประตูชัยของเซบีญานั้น ต้องบอกว่าเป็นความผิดพลาดของวิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ กองหลังผีแดง ที่ยืนผิดตำแหน่งและมัวแต่ยืนมองบอลลอยข้ามหัว ก่อนที่ลุค เดอ ยอง ที่ยืนคนเดียวโล่งๆ จะยิงผ่านมือดาวิด เด เคอา ตุงตาข่าย
จังหวะเสียประตูดังกล่าว ทำให้บรูโน แฟร์นันเดส และลินเดอเลิฟ มีปากเสียงทะเลาะกันอย่างดุเดือด แต่หลังจบเกม แฟร์นันเดสยืนยันว่าไม่มีอะไร เป็นเรื่องปกติของเกมฟุตบอล
นับเป็นฤดูกาลที่สามติดต่อกันแล้ว ที่ “ปิศาจแดง” แมนฯยู จบฤดูกาลแบบมือเปล่า ไร้ถ้วยแชมป์ติดมือ ซึ่งเป็นผลงานที่ย่ำแย่ที่สุดของพวกเขาในรอบ 31 ปี นับตั้งแต่ปี 1989 เป็นต้นมา
ขณะที่แชมป์สุดท้ายที่แมนฯยูทำได้ ก็คือแชมป์คาราบาวคัพ และแชมป์ยูโรปา ลีก ในปี 2017 สมัยที่มีโจเซ มูรินโญ เป็นกุนซือคุมทีม
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะครับว่า “ปิศาจแดง” แมนฯยู ภายใต้การคุมทัพของโอเล กุนนาร์ โซลชา มีลุ้นถึง 3 แชมป์ในฤดูกาลนี้
แต่กลับตกรอบรองชนะเลิศเรียบวุธทั้ง 3 รายการ ไล่ตั้งแต่คาราบาวคัพ ที่แพ้แมนฯซิตี้ แบบเหย้า-เยือน, เอฟเอคัพ แพ้ให้กับเชลซี และล่าสุด ยูโรปาลีกแพ้ต่อเซบีญา
ตอนนี้ “ปิศาจแดง” มีเวลาพัก 2 สัปดาห์ก่อนจะกลับมาลุยกันต่อในศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลใหม่ 2020-21 ที่จะรูดม่านเปิดฉากในวันที่ 12 กันยายนนี้
คาดว่าแมนฯยูต้องการเสริมทัพอย่างน้อยอีก 2-3 ตำแหน่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งกองหลัง ส่วนจาดอน ซานโช ปีกตัวเก่งของ “เสือเหลือง” ดอร์ทมุนด์ ก็คงชวดได้ตัวแน่นอนแล้ว
ต้องยอมรับความจริงว่าชั่วโมงนี้ “ปิศาจแดง” ยังห่างชั้นจาก “หงส์แดง” และ“เรือใบสีฟ้า” อยู่หลายลี้.
หมวดแซม