บี บางปะกง
คุณเศรษฐา ทวีสิน เขียนเมลถึงผม แนะนำให้ดู สารคดีฟุตบอล เรื่องนึงที่น่าสนใจทาง Netflix
เนื้อหาสาระพูดถึงกองเชียร์ฟุตบอลยุคใหม่ในโลกใบนี้ที่กำลังเปลี่ยนไป
ส่วนจะเปลี่ยนไปในทางที่ดี (กว่า) หรือไม่ แบบไหน อย่างไร...ก็ลองอ่านกันดูครับ!!!
OOOOOOOO
จังหวะนี้ใครที่ไม่ใช่แฟนหงส์และรู้สึกผิดหวังกับฤดูกาลนี้ผมแนะนำว่าให้ลองไปดูสารคดีฟุตบอลทางช่องสตรีมมิง Netflix เรื่อง “Sunderland Til I Die” ครับ
แล้วคุณจะรู้ว่าที่ทีมรักของคุณทำไม่ได้ดั่งใจในปีนี้เป็นเรื่องขี้ปะติ๋วเมื่อเทียบกับเรื่องราวของสโมสรนี้ในช่วงฤดูกาล 2016-2018
“Sunderland Til I Die” เป็นสารคดีเกี่ยวกับฟุตบอลที่ถูกกล่าวขวัญกันมากขณะที่เราไม่มีเกมฟุตบอลให้ติดตามดูในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา
ใครที่ได้ดูรับรองว่าจะเข้าใจถึงอารมณ์บีบคั้นที่เกิดขึ้นกับ 2 กลุ่มตัวละครหลักนั่นก็คือฝ่ายบริหารของสโมสรและแฟนบอลท้องถิ่นของทีมที่กำลังตกต่ำหลังจากตกชั้นสองเด้งจากพรีเมียร์ลีกลงไปเล่นแชมเปียนชิปตามด้วยดิวิชัน 1 ใน 2 ฤดูกาลติดๆกัน
เนื้อเรื่องหลักของสารคดีโฟกัสอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนมือของสโมสร จากเจ้าของเก่าที่ถูกแฟนบอลกล่าวหาว่าไม่มีใจให้มาเป็นเจ้าของใหม่ที่ต้องรับบทหนักในช่วงที่สโมสรอยู่ในจุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์กว่า 140 ปี
ในขณะที่ต้องหาสมดุลให้ได้กับความคาดหวังของแฟนบอลระดับชนชั้นแรงงานท้องถิ่นที่ผิดหวังซ้ำซากอยู่หลายปีกับทีมบริหารเดิม
ยิ่งดูสารคดีนี้แล้วก็ต้องยอมรับว่าการบริหารสโมสรฟุตบอลสมัยนี้เผลอๆอาจจะยากกว่าการบริหารบริษัทด้วยซ้ำไป เพราะมีองค์ประกอบ เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลากหลายกลุ่ม
มีทั้งนักลงทุนเจ้าของสโมสรที่บางครั้งก็เป็นเจ้าสัวต่างชาติที่ไม่ได้มีพื้นเพเกี่ยวข้องกับสโมสรเลยแม้แต่น้อย บรรดาสปอนเซอร์หลากหลายแบรนด์ รวมถึงนักเตะท้องถิ่นและซุปเปอร์สตาร์ค่าตัวหลายพันล้านอีโก้สูงจัดที่ต้องคอยเอาใจและเมกชัวร์ว่าแสดงศักยภาพได้คุ้มค่าตัวที่จ้างมา
และที่สำคัญที่สุดก็คือแฟนบอลท้องถิ่นระดับหลักหมื่น รวมถึงแฟนบอลทั่วโลกที่อาจมีเป็นร้อยล้านคนเลยทีเดียว
จากสารคดีนี้จะเห็นได้ว่ากลุ่มแฟนบอลท้องถิ่นมีความผูกพันกับทีมในเมืองของตัวเอง ตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษและเทใจให้เต็มร้อยเปอร์-เซ็นต์เป็นกลุ่มที่ดูเหมือนจะเจ็บปวดมากที่สุดกับการที่ทีมตกชั้นสองเด้งในสองปี
แต่พวกเค้ากลับกลายเป็นกลุ่มคนที่ดูเหมือนจะมีสิทธิ์มีเสียงในการตัดสินใจเรื่องต่างๆน้อยที่สุด (อ่านต่อสัปดาห์หน้า)
บี บางปะกง