บี บางปะกง
แล้วก็เป็นไปตามคาด สำหรับ ศึกฟุตบอลไทยลีก 1-4 ที่ถูกเลื่อนออกไปเป็นคำรบสอง เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ฉุกเฉินของรัฐบาล ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัส “Covid-19”
ซึ่งทางสมาคมลูกหนังไทยกำหนดให้ทุกลีกเปลี่ยนมาเริ่มเตะกันใหม่ในวันที่ 2-3 พ.ค.หรือเลื่อนออกไปจากเดิมอีก 2 สัปดาห์
ห้วงเวลาวิกฤติในยามนี้ ชีพจรกีฬาไทยและกีฬาโลกดูเหมือนจะหยุดเต้นตามไปด้วย
โดยเฉพาะประดาแฟนลูกหนังทั้งหลายดูเหมือนจะ “ลงแดง” ตายอยู่รอมร่อ เพราะไม่มีทั้งบอลไทยบอลเทศให้เสพเหมือนที่เคยมา
ก็ได้แต่นั่งภาวนาให้เมฆหมอกแห่ง “เชื้อร้าย” ที่กำลังเล่นงานชาวโลก จางหายไปโดยเร็ววัน เพื่อที่พวกเราจะได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติสุขกันอีกครั้ง
และท่ามกลางข่าวคราวความวุ่นวายชวนปวดหัวที่กำลังเกิดขึ้น ก็ยังมีข่าวดีที่มาช่วยปลอบประโลมแฟนกีฬาบ้านเราให้ได้ชุ่มฉ่ำหัวใจกันบ้าง
กับแคมเปญฟุตบอลแฟนตาซี ของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งทวีปเอเชีย “เอเอฟซี” ที่คัดเลือก 5 ผู้เล่นระดับ “ท็อปไฟว์” ตลอดกาล ในหมวดต่างๆของวงการลูกหนังเอเชียขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติประวัติ
ซึ่งในหมวดของนักเตะ “ตำนานอาเซียน” นั้น ทางเอเอฟซีได้เลือกเอา “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตหัวหอกจอมตีลังกาทีมชาติไทย เข้ามาอยู่ในทำเนียบด้วยในตำแหน่งกองกลาง
ส่วนที่เหลืออีก 4 คน ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู นีล เอเธอริดจ์ นายทวารฟิลิปปินส์ ที่ไป ค้าถุงมืออยู่กับสโมสรคาร์ดิฟฟ์ในศึกเดอะ แชมเปียนชิป อังกฤษ
ขณะที่กองหลัง เลือก “ไอ้หน้าผี” โช ชิน อัน อดีตแนวรับกัปตันทีมชาติมาเลเซีย ที่โด่งดังถึงขนาดเคยเป็น “ดาราเอเชีย” มาแล้ว
ทางด้านคู่กองหน้า เอเอฟซีเลือกเอา เล คอง วินห์ เจ้าของสถิติซัลโวประตูมากที่สุดของทีมชาติเวียดนาม
และอีกคนคือ บัมบัง ปามุงกัส อดีตดาว ยิงทีมชาติอินโดนีเซีย ซึ่งประกาศเลิกเล่นทีมชาติอิเหนาตั้งแต่ปี 2013 โดยทำไป 38 ประตู จาก 86 เกม
สำหรับ “ซิโก้” เอเอฟซีบรรยายสรรพคุณ ว่า เป็นอดีตแนวรุกที่โด่งดังและมีชื่อเสียงมากที่สุดคนนึงของเมืองไทย
สมัยเป็นผู้เล่น เขาพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์มากมาย อาทิ เหรียญทองซีเกมส์ 4 สมัย, อาเซียน คัพ (ไทเกอร์คัพ) 3 สมัย
นอกจากนี้ยังสร้างประวัติศาสตร์ช่วยให้ไทย เข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรก ในฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย
ขณะเดียวกันก็ยังเป็นกำลังสำคัญของทีมบอลไทย คว้าอันดับ 4 เอเชียนเกมส์ 2 หน คือ ครั้งที่ 13 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ และครั้งที่ 14 ที่ปูซาน เกาหลีใต้ อีกด้วย
โดยเอกลักษณ์ประจำตัวคือ ท่าดีใจด้วยการตีลังกาหลายตลบหลังยิงประตูได้ กลายเป็นเครื่องหมาย การค้าที่ทำให้แฟนบอลทั้งอาเซียนจดจำเจ้าตัวได้ดี จนได้รับฉายาว่าเป็น “กองหน้าจอมตีลังกา”
ที่สำคัญ เอเอฟซียังระบุด้วยว่า ทุกครั้งที่ “ซิโก้” ตีลังกา นั่นคือสัญลักษณ์แห่งความสุขของชาวไทยทั้งประเทศ ที่ได้รับอานิสงส์จากการซัลโวประตูของเขา
ซึ่งนี่เองจึงทำให้ชื่อของ “เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง” กลายเป็นนักเตะแห่งตำนานของภูมิภาคอาเซียน
ชนิดที่สมาพันธ์ลูกหนังเอเชียยังต้องบันทึกไว้!!!
บี บางปะกง