หมวดแซม
“งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา” และแล้วก็ถึงเวลาที่มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี จะโบกมือลา “ม้าลาย” ยูเวนตุส หลังจบฤดูกาลนี้ ปิดฉากการคุมทีมเบียงโคเนรีที่ยาวนานมา 5 ปี
อัลเลกรีเข้ามารับงานคุมทีมยูเวนตุสต่อจากอันโตนิโอ คอนเต เมื่อปี 2014 และอัลเลกรีก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการพาทัพ “ม้าลายตูริน” ผงาดคว้าแชมป์กัลโช ซีรีเอได้ถึง 5 สมัยติดต่อกัน
เท่านั้นไม่พอ กุนซือชาวอิตาเลียนวัย 51 กะรัต ยังนำยูเวนตุสเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ได้ถึง 2 ครั้ง ในปี 2015 และ 2017 แต่ก็ชวดได้แชมป์ทั้งสองครั้ง หลังแพ้ต่อบาร์เซโลนาและเรอัล มาดริด ตามลำดับ
แม้ว่าฤดูกาลนี้ อัลเลกรีจะสามารถพา “ม้าลาย” ยูเวนตุส คว้าแชมป์กัลโช ซีรีเอเป็นสมัยที่ 8 ติดต่อกัน แต่กับศึกถ้วยใหญ่ยุโรปอย่างยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ยูเว่กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า
ทั้งที่ทุ่มเงินก้อนโตถึง 100 ล้านปอนด์ ดึงตัวคริสเตียโน โรนัลโด กองหน้าซุปเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีสจากเรอัล มาดริด มาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว
ยูเวนตุสถูกน็อกกระเด็นตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้ ด้วยน้ำมือของทีมรองบ่อนอย่างอาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ที่บุกมาเอาชนะพวกเขาได้ถึงถิ่นยูเวนตุส สเตเดียม และการตกรอบแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลนี้สร้างความไม่พอใจให้กับบอร์ดบริหารสโมสรเป็นอย่างมาก เพราะตั้งเป้าที่จะซิวแชมป์ถ้วยใบโตของยุโรปในปีนี้ให้ได้
สุดท้ายยูเวนตุสจึงต้องแยกทางกับอัลเลกรีหลังจบฤดูกาลนี้ แม้เจ้าตัวยังเหลือสัญญาคุมทีมอีก 1 ปีก็ตาม เพื่อหากุนซือฝีมือดีคนใหม่มารับงานต่อ
โดย 5 ตัวเต็งที่จะมาเป็นกุนซือยูเวนตุสคนใหม่ มีดังนี้
1.อันโตนิโอ คอนเต : คอนเตเคยคุมทีม “ม้าลาย” มาแล้ว เมื่อปี 2011-2014 และเขาพายูเว่คว้าแชมป์กัลโช ซีรีเอได้ 3 สมัย แถมยังนำทีมม้าลายทำสถิติเก็บคะแนนในลีกได้มากที่สุดถึง 102 คะแนน ในการคว้าแชมป์สคูเด็ตโต เมื่อซีซัน 2013-14 จากนั้นคอนเตย้ายมาคุมทีมเชลซีในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และเขาสามารถพา “สิงห์บลู” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีม จากนั้นก็นำเชลซีซิวแชมป์เอฟเอคัพในฤดูกาลต่อมา ก่อนที่กุนซือวัย 49 ปีจะโดนเด้งออกจากถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์
2.เมาริซิโอ โปเชตติโน : ฤดูกาลนี้ โปเชตติโนนำทัพ “ไก่เดือยทอง” เข้าป้ายอันดับ 4 ในพรีเมียร์ลีก แถมยังนำทีมสเปอร์สทะลุเข้าชิงชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่กรุงมาดริด ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่า “พอช” อาจไม่อยู่คุมทีมสเปอร์สต่อในฤดูกาลหน้า เนื่องจากไม่พอใจแผนงานของบอร์ดบริหารสโมสรที่ไม่ให้งบเสริมทัพเลยในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าตัวตกเป็นข่าวพัวพันกับทีมยักษ์ใหญ่หลายราย ทั้งเรอัล มาดริด, แมนฯยู รวมถึงยูเวนตุสด้วย
3.ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ : เดส์ชองส์เป็นอดีตนักเตะและกุนซือยูเวนตุสเช่นเดียวกับคอนเต โดยกุนซือเลือดเฟรนช์วัย 50 ปี เพิ่งพาทัพ “ตราไก่” ทีมชาติฝรั่งเศส ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย เมื่อปีก่อน อย่างไรก็ตาม เดส์ชองส์ ยังคงมีสัญญากับทีมชาติฝรั่งเศส จนถึงปี 2020
4.เป๊ป กวาร์ดิโอลา : เป๊ปเพิ่งพาแมนฯซิตี้ สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกที่คว้าเทรบเบิลแชมป์บอลอังกฤษครบทั้ง 3 รายการ (พรีเมียร์ลีก-เอฟเอคัพ-ลีกคัพ) แถมยังมีสัญญากับทีม” “เรือใบสีฟ้า” จนถึงปี 2021
5.โลรองต์ บลองก์ : บลองก์เคยคุมทีมชาติฝรั่งเศส ในปี 2010 แต่พาทัพตราไก่แพ้สเปนในรอบควอเตอร์ไฟนอลในศึกยูโร 2012 ก่อนลาออกจากตำแหน่งไป จากนั้นย้ายไปคุมทีมเปแอสเช และพาทีมคว้าแชมป์ 11 ถ้วยใน 3 ซีซัน ก่อนโบกมือลาทีมไปเมื่อปี 2016 ปัจจุบันกุนซือวัย 53 ปี ยังคงว่างงานอยู่.
หมวดแซม