หน้าแรกแกลเลอรี่

อย่ามองข้ามอาแจกซ์

หมวดแซม

25 เม.ย. 2562 05:01 น.

นับจนถึงตอนนี้ 5 ลีกใหญ่ยุโรปปิดจ๊อบ ได้แชมป์ไปแล้ว 2 ลีก นั่นก็คือ กัลโชซีรีเอของอิตาลี ซึ่ง “ม้าลาย” ยูเวนตุส ประกาศศักดาครองความยิ่งใหญ่ ด้วยการผงาดคว้าแชมป์ สคูเด็ตโตเป็นสมัยที่ 8 ติดต่อกัน ส่วนลีกเอิง “เปแอสเช” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ก็ซิวแชมป์ลีกสูงสุดแดนน้ำหอมเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นแชมป์สมัยที่ 8 ของสโมสรด้วย

ขณะที่บาร์เซโลนาก็ใกล้ที่จะเช็กบิลคว้าแชมป์ลาลีกาซีซันนี้เต็มทีแล้ว หลังจากบุกไปทุบเอาชนะอลาเบส 2-0 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้ “เจ้าบุญทุ่ม” ยึดจ่าฝูงแน่น มี 80 คะแนน ทิ้งห่างอันดับ 2 แอตเลติโก มาดริด ถึง 12 แต้ม

ดังนั้น หาก “ตราหมี” ไม่ชนะบาเลนเซีย ในเกมวันพุธนี้ บาร์ซาจะป้องกันแชมป์ลาลีกาไว้ได้อีกสมัยทันที แม้จะเหลือการแข่งขันอีก 4 นัดก็ตามข้ามฟากมาที่ศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก และ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กำลังขับเคี่ยวแย่งแชมป์กันอย่างสุดฤทธิ์

ช่วงครึ่งซีซันแรก ดอร์ทมุนด์ทำท่าจะคว้าแชมป์แบบม้วนเดียวจบ หลังยึดจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่น แต่พอขึ้นศักราชใหม่ บาเยิร์นฯฟอร์มแรงเกินห้ามใจ ก่อนแซงพรวดขึ้นมานำเป็นจ่าฝูง

ตอนนี้หลังเล่นไปแล้ว 30 นัดเท่ากัน ปรากฏว่า เสือใต้นำเป็นจ่าฝูง มี 70 คะแนน แต่ดอร์ทมุนด์ก็ไล่จี้มาติดๆชนิดหายใจรดต้นคอ ตามหลังจ่าฝูงบาเยิร์นฯแค่แต้มเดียวเท่านั้น ขณะเหลือเกมให้เล่นอีก 4 นัดก็จะจบฤดูกาล

ดูเหมือนว่า บาเยิร์นฯจะมีภาษีดีกว่าเล็กน้อยที่จะป้องกันแชมป์ได้อีกสมัย แต่เชื่อว่าหลายคนเทใจเชียร์ดอร์ทมุนด์ให้คว้าแชมป์บุนเดสลีกาปีนี้ เพราะเบื่อไม่อยากเห็นเสือใต้ผูกขาดคว้าแชมป์อยู่เจ้าเดียว

สำหรับศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษนั้น ว่ากันว่าเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ คืนวันพุธที่ 24 เม.ย. ซึ่งแมนฯซิตี้จะบุกไปเยือนแมนฯยูที่โอลด์แทรฟเฟิร์ด จะเป็นแมตช์ชี้ชะตาตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้

เพราะถ้าทีมเรือใบสีฟ้าบุกมาคว้าชัยได้ โอกาสคว้าแชมป์ก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม

แต่ถ้า “ผีแดง” ยัดเยียดความปราชัยให้กับแมนฯซิตี้ได้ โอกาสที่ลิเวอร์พูลจะเป็นแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีหนแรกในรอบ 29 ปี ก็กำลังจะกลายเป็นจริงขึ้นมาทันที

กลับมาดูศึกถ้วยใหญ่ยุโรปอย่างยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกกันบ้าง ตอนนี้เหลือเพียงแค่ 4 ทีมเท่านั้นที่ต้องห้ำหั่นกันในรอบรองชนะเลิศ โดยเป็น 2 ทีมจากอังกฤษ ดวลกับหนึ่งทีมสเปน และหนึ่งทีมดัตช์

เต็งหนึ่งอย่าง บาร์เซโลนา จะต้องตัดกับเต็งสองอย่าง ลิเวอร์พูล ขณะที่ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ต้องเจอกับทีมม้ามืดประจำซีซันนี้อย่าง อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม

พูดถึงอาแจกซ์แล้ว ต้องบอกว่าอย่ามองข้ามยอดทีมจากแดนกังหันลมทีมนี้เป็นอันขาด เพราะผลงานที่ผ่านมาของพวกเขาเป็นบทพิสูจน์ความสามารถได้เป็นอย่างดี

อาแจกซ์เคยปราบทีมยักษ์ใหญ่อย่างเรอัล มาดริดและยูเวนตุสมาแล้ว โดยเฉพาะการบุกไปถล่มเรอัล มาดริด คารังเบอร์นาบิวถึง 4-1 ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ถือเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซของอาแจกซ์เลยทีเดียว

ทีมอาแจกซ์ชุดนี้ ภายใต้การคุมทัพของกุนซือเอริก เทน ฮาก เต็มไปด้วยนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าชั้นยอด ไม่ว่าจะเป็น เฟรนกี เดอ ยอง, มัทไธจส์ เดอ ลิกต์, เดวิด เนเรส, ฮาคิม ซิเย็ค ร่วมด้วย ดูซาน ทาดิช, นิโคลัส ทายาฟิโก และดาลีย์ บลินด์

ดูโหงวเฮ้งแล้ว อาแจกซ์มีลุ้นเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกซีซันนี้ได้เลย.

หมวดแซม