จับตาวันเดดไลน์

ศึกลูกหนังเอฟเอ คัพ รอบสี่ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีดราม่า “วีเออาร์” เกิดขึ้นในเกมที่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พลาดท่าปราชัยคารังแอนฟิลด์ต่อเวสต์บรอมวิช อัลเบียน 2–3 ซึ่งทำให้หงส์แดงต้องจบเส้นทางเอฟเอคัพซีซั่นนี้เอาไว้เพียงแค่รอบสี่ เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

เกมดังกล่าว ผู้ตัดสินเคร็ก พอว์สัน มีการหยุดเกมเพื่อขอดู “วีเออาร์” ช่วยตัดสินหลายครั้ง โดยในจำนวนนั้นเป็นจังหวะสำคัญของเกมถึง 3 ครั้ง ซึ่งมีทั้งเจ้าบ้านได้ประโยชน์และทีมเยือนได้ประโยชน์

ครั้งแรกเกิดขึ้นในนาทีที่ 23 ขณะที่ทีมเยือนนำอยู่ 2-1 เมื่อเคร็ก ดอว์สัน กองหลังเวสต์บรอมวิช โหม่งลูกเตะมุมตุงตาข่าย

แต่ท่านเปาพอว์สัน ขอใช้วีเออาร์ช่วยตัดสิน ก่อนจะตัดสินไม่ให้เป็นประตูของทีมเยือน เนื่องจาก กาเร็ธ แบร์รี อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อน ทำให้ แบ็กกี้ส์ชวดได้ประตูที่สามอย่างน่าเสียดาย

ครั้งที่ 2 ในนาทีที่ 25 พอว์สันขอใช้วีเออาร์อีกหน หลังจากโม ซาลาห์ ปีกอียิปต์ของหงส์แดง ถูก อัลแลง นียอม เหนี่ยวล้มในเชตโทษ ก่อนที่เชิ้ตดำรายนี้จะเป่าให้เจ้าถิ่นได้ลูกจุดโทษ แต่โรแบร์โต ฟีร์มิโน ดันซัดไปชนคานอย่างจัง หงส์แดงเลยชวดตีเสมอ 2-2

ครั้งที่ 3 เกิดขึ้นในช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เมื่อเวสต์บรอมวิชส่งบอลตุงตาข่ายเจ้าถิ่นได้ จากการทำเข้าประตูตัวเองของโจเอล มาติป กองหลังลิเวอร์พูล

แต่พอว์สันขอเรียกใช้วีเออาร์ช่วยตัดสิน เพื่อดูว่ามีนักเตะทีมเยือนล้ำหน้าหรือไม่ ซึ่งผลปรากฏว่าไม่ล้ำหน้า จึงกลายเป็นประตูนำ 3-1 ของเดอะแบ็กกี้ส์

อย่างไรก็ตาม การนำ “วีเออาร์” มาช่วยตัดสิน จะว่าไปก็เปรียบเหมือนดาบสองคม เพราะทำให้ผู้ตัดสินไม่มั่นใจในการตัดสินของตัวเอง ต้องขอดูวีเออาร์อยู่เรื่อย ทำให้เกมต้องหยุดชะงักบ่อยครั้ง เสียอรรถรสของเกมลูกหนัง
ต้องมาดูกันว่า เมื่อมีการนำ “วีเออาร์” มาใช้เต็มรูปแบบในพรีเมียร์ลีก จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีหรือไม่?

ส่วนตลาดซื้อขายนักเตะช่วงหน้าหนาวเดือนมกราคมนี้ ซึ่งจะปิดทำการในเวลา 23.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นอังกฤษ) ของวันพุธที่ 31 ม.ค. คาดว่าก่อนถึงช่วงเดดไลน์ น่าจะมีการย้ายทีมกันอย่างคึกคัก

โดยเฉพาะกรณีของ อาร์เซนอล กับ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมยอง ดาวยิงทีมชาติกาบอง ล่าสุดมีข่าวว่า ปืนใหญ่ตกลงค่าตัวของโอบากับทางดอร์ทมุนด์ได้แล้วที่สนนราคา 60 ล้านปอนด์

ขณะเดียวกัน โอบาเมยองก็ตกลงสัญญาส่วนตัวกับปืนใหญ่ได้เป็นที่เรียบร้อย โดยจะเซ็นสัญญา 3 ปีครึ่งถึงปี 2021 รับค่าเหนื่อยราว 180,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

นอกจากนี้ อาร์เซนอลก็เตรียมผ่องถ่ายขาย โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ศูนย์หน้าทีมชาติฝรั่งเศสให้กับ เชลซี ด้วยราคา 35 ล้านปอนด์

เท่านั้นไม่พอ ดอร์ทมุนด์ก็เล็งคว้ามิชี บาตชัวยี หัวหอกทีมชาติเบลเยียมของเชลซี ไปล่าตาข่ายแทนโอบาเมยอง
กลายเป็นการเล่นเก้าอี้ดนตรีระหว่าง 3 ทีมคือ อาร์เซนอล, ดอร์ทมุนด์ และเชลซี

ขณะที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังจะได้แข้งใหม่มาเสริมทัพในช่วงเปิดตลาดเดือนนี้ ด้วยการคว้า เอเมอริก ลาปอร์กต์ กองหลังจากแอธเลติกบิลเบา ด้วยค่าตัว 57 ล้านปอนด์

เหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 วัน ตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 ก็จะปิดลง ต้องมาจับตาดูกันว่าจะมีการย้ายทีมที่ฮือฮาและเซอร์ไพรส์อีกหรือไม่.

หมวดแซม